สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

จดทะเบียนตั้งบริษัทได้ภายในวันเดียว เริ่ม 1 กรกฎาคม 2551

จดทะเบียนตั้งบริษัทได้ภายในวันเดียว เริ่ม 1 กรกฎาคม 2551
 
                    นายสุทธิศักด์  เลาหชีวิน  รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า  กระทรวงพาณิชย์โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัทในบางประเด็น เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจจดทะเบียนจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทพร้อมกันภายในวัน เดียวได้ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป 
                    รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนและระยะเวลาในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัทจำกัดตามกฎหมายเดิม มี 10 ขั้นตอนและใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด 9 วัน เริ่มต้นด้วยผู้เริ่มก่อการเจรจาทำ ความตกลงที่จะทำธุรกิจร่วมกัน  จองชื่อนิติบุคคลเพื่อตรวจสอบชื่อบริษัทที่จะใช้ว่าเหมือนหรือ คล้ายกับชื่อ ของคนอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อนหรือไม่และต้องไม่ขัดกับกฎหมายและระเบียบของทางราชการ  เมื่อจองชื่อ ได้แล้วผู้เริ่มก่อการอย่างน้อยเจ็ดคนร่วมกันจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิและจะต้องลงชื่อซื้อหุ้นอย่างน้อยหนึ่งหุ้น แล้วนำไปจดทะเบียน  หลังจากนั้นต้องจัดให้    มีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นจนครบ แล้วจัดให้มีการประชุมตั้งบริษัท ซึ่งต้อง ส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้จองหุ้นทราบล่วงหน้าอย่างน้อยเจ็ดวัน เมื่อได้ประชุมตั้งบริษัท และที่ประชุมได้แต่งตั้ง กรรมการบริษัทแล้ว ผู้เริ่มก่อการต้องมอบหมายงาน     ให้กรรมการบริษัท ซึ่งกรรมการจะเรียกเก็บ เงินค่าหุ้น ครั้งเดียวเต็มมูลค่าหรือเรียกเก็บครั้งแรกไม่น้อยกว่าร้อยละ 25  ก็ได้ แล้วนำไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซึ่ง ระยะเวลาตั้งแต่จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิจนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้สำเร็จ ต้องใช้เวลาเร็วที่สุดถึง 9 วัน          
    สำหรับสาระสำคัญในส่วนที่แก้ไขปรับปรุงเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท นั้น เพื่อความคล่องตัว สะดวก และลดขั้นตอนและระยะเวลาในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยผู้เริ่มก่อการจากเจ็ดคนเหลือเพียงสามคนและ สามารถจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนตั้งบริษัทจำกัดพร้อมกันภายในวันเดียว กันได้  ซึ่งมีเงื่อนไขว่า ในการประชุมตั้งบริษัทผู้เริ่มก่อการและผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุกคนต้องเข้าร่วมประชุม และให้ความเห็นชอบในกิจการที่ได้พิจารณา ในที่ประชุม นั้น             
    ทั้งนี้  เพื่ออำนวยความสะดวกในการจดทะเบียน ผู้ประกอบธุรกิจสามารถใช้บริการจดทะเบียนทางอินเตอร์เน็ต ในเว็บไซต์ของกรมฯ ได้ที่ www.dbd.go.th  หัวข้อ จองชื่อนิติบุคคล และจดทะเบียนนิติบุคคลนายทะเบียนจะตรวจสอบและแจ้งผลการตรวจสอบและจำนวนเงินค่าธรรมเนียมให้ทราบ  ซึ่งผู้ขอจดทะเบียนสามารถพิมพ์เอกสารคำขอจดทะเบียน จากเว็บไซต์ของกรมฯและนำไปให้ผู้เกี่ยวข้องลงนาม  และจะยื่นคำขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง ณ สำนักงานบริการ จดทะเบียน หรือจะส่งทางไปรษณีย์ ก็ได้ 
     อนึ่ง ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักทะเบียนธุรกิจ  โทร. 0 2 547 4940  หรือ โทร. 0 2 547 5050 ต่อ 3063  หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์  www.dbd.go.th
        *********************************************
ที่มา : สำนักทะเบียนธุรกิจ                                                  ฉบับที่  48  / 20   มิถุนายน  2551
 
แปรสภาพห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นบริษัทจำกัดได้
 
            กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กระทรวงพาณิชย์ ได้แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัท บางประเด็นโดยให้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดสามารถแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัดได้ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป
            นายสุทธิศักดิ์  เลาหชีวิน  รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยว่า  ตามกฎหมายเดิมการเปลี่ยนสถานะจากห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นบริษัทจำกัด ต้องจดทะเบียนเลิกห้างก่อน  แล้วไปทำการจดทะเบียนตั้ง บริษัทขึ้นใหม่ ซึ่งเกิดความยุ่งยาก และต้องใช้เวลา ดำเนินการหลายขั้นตอน   สำหรับกฎหมายใหม่ที่แก้ไข กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีผู้เป็นหุ้นส่วนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนยินยอมให้แปรสภาพเป็นบริษัทจำกัด และใช้ชื่อเดิมได้โดยให้หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างมีหนังสือแจ้งความยินยอมให้แปรสภาพ    ต่อนายทะเบียน ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ยินยอม   และประกาศโฆษณาหนังสือพิมพ์  1 ครั้ง รวมทั้งมีหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ ให้ทราบเรื่องที่จะแปรสภาพ และให้สิทธิคัดค้านภายใน 30 วัน  ถ้ามีเจ้าหนี้คัดค้าน จะแปรสภาพไม่ได้จนกว่าจะชำระหนี้ หรือให้ประกันหนี้นั้นแล้ว หากไม่มีเจ้าหนี้คัดค้าน ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ต้องประชุมกันเพื่อยินยอมและดำเนินการในการจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท กำหนดทุนจดทะเบียน และกำหนดจำนวนหุ้นที่จะให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคน กำหนดจำนวนเงินค่าหุ้นที่ได้ชำระแล้ว โดยต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น กำหนดจำนวนหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิ และสภาพที่จะออกและจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นตลอดจนแต่งตั้งกรรมการและกำหนดอำนาจกรรมการ  และ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี       หลังจากนั้นหุ้นส่วนผู้จัดการเดิมต้องส่งมอบกิจการให้แก่คณะกรรมการของบริษัทภายใน 14 วันนับจากวันที่ประชุมเสร็จ  เมื่อคณะกรรมการแจ้งให้ผู้เป็นหุ้นส่วนชำระเงินค่าหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้นหรือโอนกรรมสิทธิ์หรือทำเอกสารหลักฐานการใช้สิทธิต่าง ๆ  แล้ว    คณะกรรมการต้องขอจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัดต่อนายทะเบียน ภายใน 14 วัน    นับแต่วันที่เรียกเก็บค่าหุ้นเสร็จ
                   รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า  ผลของการแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดเดิมหมดสภาพ บริษัทได้รับทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ และความรับผิดของห้างทั้งหมด สำหรับหนี้ของห้างหุ้นส่วนที่เกิดขึ้นก่อนการแปรสภาพ ให้เจ้าหนี้เรียกให้บริษัทชำระหนี้ก่อน หากบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ได้ให้เจ้าหนี้บังคับชำระหนี้จาก ผู้เป็นหุ้นส่วนของห้างตามความรับผิดในหนี้ขณะเป็นห้างหุ้นส่วนผู้ประกอบธุรกิจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์     www.dbd.go.th  หัวข้อ บริการกรม (การจดทะเบียนธุรกิจ)  หรือสอบถามได้ที่ส่วนส่งเสริมและพัฒนาการจดทะเบียน     สำนักทะเบียนธุรกิจ  โทร. 0 2 5474940 หรือ 0 2 547 5050 ต่อ 3063

                                      ************************************************
ที่มา :  สำนักทะเบียนธุรกิจ                                                            ฉบับที่ 52 / 26 มิถุนายน 2551
view