สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๙๕/๒๕๕๐ โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๙๕/๒๕๕๐

                นายจิตร์หรือบรรยง  ลอก๊ะ                                                                                                           โจทก์

                กรมสรรพากร                                                                                                                                 จำเลย

พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.๒๕๒๘  มาตรา ๑๗,  ๒๙

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา ๑๔๙ วรรคท้าย,  ๒๔๓ (๒)

 

                คดีนี้โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยอ้างว่าจำเลยยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของโจทก์ ทำให้โจทก์ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ทั้งไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกที่จะนำมาขายหรือเป็นหลักประกันเพื่อขอกู้ยืมเงินจากบุคคลอื่น ทำให้ไม่มีเงินที่จะนำมาชำระค่าธรรมเนียมศาลได้ ซึ่งหากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่โจทก์อ้าง แม้ทรัพย์สินจำนวนมากดังกล่าวยังเป็นของโจทก์ แต่โจทก์ก็ไม่สามารถขายหรือนำไปเป็นหลักประกันเพื่อหาเงินมาเป็นค่าธรรมเนียมศาลจำนวนสูงในคดีนี้ อันอาจจะถือว่าได้ว่าโจทก์เป็นคนยากจน  การที่ศาลภาษีอากรกลางจดรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ว่า โจทก์แถลงรับว่าโจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งหมดเฉพาะที่มีชื่อโจทก์รวม ๗ แปลง มีพันธบัตร ๒ ฉบับ รวมมูลค่า ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๕ คัน รถจักรยานยนต์ ๒ คัน บ้านและที่ดินเนื้อที่ ๑ ไร่เศษ และยังมีทรัพย์สินตามที่ปรากฏอยู่ในเอกสารท้ายคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ก็รับฟังได้เพียงว่าโจทก์มีทรัพย์สินจำนวนมาก แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าทรัพย์สินดังกล่าวนั้น จำเลยหรือหน่วยงานอื่นได้ยึดและอายัดไว้ทั้งหมดหรือไม่ ทั้งทรัพย์สินดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ที่จะนำไปหาประโยชน์ได้หรือไม่ นอกจากนี้ โจทก์ยังมีหนทางอื่นใดในการหาทรัพย์สินเพื่อนำมาชำระค่าธรรมเนียมศาลได้หรือไม่ เมื่อเป็นดังนี้ จะถือเอาเพียงข้อเท็จจริงที่โจทก์รับต่อศาลภาษีอากรกลางดังกล่าวมาเป็นเหตุวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่คนยากจนยังไม่ได้ ที่ศาลภาษีอากรกลางด่วนงดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งไปนั้น จึงเป็นการวินิจฉัยโดยยังไม่ได้ฟังข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนเสียก่อน ถือว่าศาลภาษีอากรกลางไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๓ (๒) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.๒๕๒๘ มาตรา ๒๙ เห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลภาษีอากรกลางทำการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเพื่อฟังข้อเท็จจริงต่อไป

 

                การดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นไต่สวนอนาถาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๙ วรรคท้าย ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.๒๕๒๘ มาตรา ๑๗ จึงให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่เสียมาให้แก่โจทก์

 

บงกช  เสมาทอง / ย่อ

สุวัฒน์  ไวยุพัฒนธี / ตรวจ


จากเวปไซต์ศาลภาษีอากรกลาง