ASTV ผู้จัดการรายวัน
-- องค์การโกลบอลวิทเนส (Global Witness) ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของรัฐบาลกัมพูชาได้ออกคำแถลงอีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์ นี้ระบุว่า กลุ่มการเมืองระดับสูงของประเทศได้ฮุบเอาความร่ำรวยจากแร่ธาตุ น้ำมันและก๊าซซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างต่ออนาคตของประเทศ ขณะที่กลุ่มประเทศผุ้บริจาคเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ องค์การอนุรักษ์สภาพแวดล้อมที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอนกล่าวใน รายงานเผยแพร่บนเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสบดี (5 ก.พ.) ว่ากัมพูชามีทรัพยากรที่ล้ำค่าเพียงพอที่จะไม่พึ่งพาเงินช่วยเหลือจากต่าง ประเทศ กลุ่มผู้บริจาคควรหันมาเอาใจใส่ให้มีการบริหารความร่ำรวยอย่างถูกต้อง ในรายงานที่ใช้หัวเรื่อง "ประเทศสำหรับขาย" (Country for Sale) นั้น การฉ้อราษฎร์บังหลวงในระดับสูง การเล่นพวก และการกำกับชักใย กำลังทำให้กัมพูชาสูญรายได้จากการจัดสรรและบริหารจัดการทรัพย์สินต่างๆ |
|||||
โกลบอลวิทเนส เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่สังกัดรัฐบาลแห่งแรก ที่ได้ทำแผนภูมิแสดงสายสัมพันธ์ (Family Tree) ตลอดจนการเกี่ยวดองระหว่างครอบครัวต่างๆ ของกลุ่มที่คุมอำนาจซึ่งทำให้สามารถควบคุมทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจอย่างแนบ แน่น เมื่อปี 2550 สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธการกล่าวหาทั้งหมด รวมทั้งสั่งให้ยึดและทำลายรายงานของโกบอลวิทเนส ห้ามเจ้าหน้าที่ขององค์การนี้เดินทางเข้าประเทศอีก รายงานชิ้นใหม่ระบุว่า รายได้จากแร่ธาตุ น้ำมันและก๊าซกำลังถูกฮุบเอาไปโดยกลุ่มเล็กๆ ที่มีอำนาจทางการเมืองอยู่รอบๆ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน เงินหลายล้านดอลลาร์ที่ได้รับจากบริษัทเหมืองแร่และบริษัทน้ำมันต่างๆ ที่จ่ายเพื่อให้ได้สัมปทานนั้นอาจจะไม่ได้เข้าสู่คลังหลวง โกลบอลวิทเนสกได้เรียกร้องไปยังบริษัทน้ำมันและบริษัทเหมืองแร่ต่าง ชาติที่เข้าไปทำธุรกิจในกัมพูชาต้องสร้างความโปร่งใสในการจ่ายให้แก่ทางการ ของประเทศนี้ ซึ่งมีการคอร์รัปชั่นอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีบริษัทต่างชาติกว่า 75 แห่งทำธุรกิจสำรวจและขุดเจาะในกัมพูชา รวมทั้งบริษัทขนาดใหญ่ที่รู้จักกันดีทั่วโลกเช่นเชฟรอน (Chevron Corp) จากสหรัฐฯ และ BHP Billiton ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่จากออสเตรเลียด้วย ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศผู้บริจาคให้คำมั่นจะช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาเป็นเงินเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 นี้ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากเมื่อปีที่แล้ว แต่โกลบอลวิทเนสกล่าวว่า ผู้บริจาคยังขาดหลักประกันที่จะทำให้เกิดธรรมาภิบาลในการใช้จ่าย รัฐบาลกัมพูชากล่าวว่าอาจจะเริ่มนำน้ำมันดิบและก๊าซจากอ่าวไทยขึ้นมาใช้ได้ในปี 2554 หรืออีกเพียง 2 ปีเท่านั้น กลุ่มเชฟรอนได้ประกาศค้นพบน้ำมันดิบในต้นปี 2548 ในแปลงสำรวจทางตอนใต้นอกชายฝั่งเมืองสีหนุวิลล์ แต่ยังไม่เคยมีการเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ มีเพียงองค์การระหว่างประเทศคาดว่าแหล่งดังกล่าวจะมีน้ำดิบหลายร้อยล้าน บาร์เรล มากกว่าก๊าซธรรมชาติหลายเท่าตัว และยังไม่มีฝ่ายใดให้ข้อมูลได้ว่า กัมพูชาจะสามารถนำน้ำมันดิบที่พบขึ้นมาใช้ได้จริงเท่าไร. |