เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และอนุมัติสินเชื่อจำนวนมาก โดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์จน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจ

กล้านรงค์ จันทิก

นอกจากนั้น คณะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย พบว่ามีความผิด 3 คน ได้แก่ ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการ และนาย มัชิมา กุญชร ณ อยุธยา อดีตกรรมการบริหาร เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ธนาคารพาณิชย์ และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502

รวมถึงมีคำสั่งฟ้องคณะกรรม การสินเชื่อ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกรุงไทย 7 คน อาทิ นายพงศธร ศิริโยธิน นายวันชัย ธนิตติราภรณ์ นายบุญเลิศ ศรีเจริญ และนายนรินทร์ ดรุนัยธร

ทั้งนี้ ส่วนของนายพานทองแท้ นางกาญจนาภา นายวันชัย นายมานพ นั้น ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 357 ฐานรับของโจร แม้ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด แต่ได้รับเงินร่วม 180 ล้านบาท ที่ได้จากการกระทำความผิดฐาน ยักยอกทรัพย์ และมีมติให้แยกบุคคลทั้ง 4 คนนี้ไปดำเนินคดีใน ศาลอาญา

ทั้งนี้ คตส.ระบุว่า ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยได้ให้สินเชื่อแก่ กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งมี สถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และไม่สามารถที่จะขอสินเชื่อได้อีกเพราะขาดทุนสูง

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลับมีการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทในกลุ่มกฤษดามหานคร โดยวันที่ 8 ก.ย. 2546 บริษัท อาร์เค โปรเฟสชันนัล ได้ขออนุมัติสินเชื่อเป็นกรณีเร่งด่วน 500 ล้านบาท แต่เมื่อบริษัท อาร์เคฯ ได้รับเงินไปแล้วกลับโอนไปให้นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท กฤษดามหานคร และพวกพ้อง