สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กฟผ. รับทราบคำพิพากษาของศาลปค.กรณีเหมืองแม่เมาะ

 

ประชาชาติธุรกิจ



กฟผ. รับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองเชียงใหม่  เตรียมหารืออัยการและผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป  พร้อมยืนยันว่า กฟผ. ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่  อ.แม่เมาะ มาโดยตลอด เช่นเดียวกับการดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ

วันนี้ (4  มี.ค.)   นายวิรัช  กาญจนพิบูลย์  รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  เปิดเผยภายหลังศาลปกครองเชียงใหม่อ่านคำพิพากษาคดีราษฎรแม่เมาะ 418 คน ฟ้อง กฟผ. และหน่วยงานราชการ จำนวน 35 คดี เรียกค่าเสียหายจากการเกิดปัญหาคุณภาพอากาศจากโรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ  ทุนทรัพย์ประมาณ 3,000 ล้านบาท  ว่าศาลปกครองเชียงใหม่ พิจารณาแบ่งการตัดสินเป็น 2 กลุ่มคดี คือ กลุ่มคดีเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า 19 คดี  และ กลุ่มคดีเกี่ยวกับเหมือง  16 คดี 

นายวิรัช กล่าวว่า ในส่วนกลุ่มคดีเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า ที่ศาลปกครองเชียงใหม่วินิจฉัยโดยสรุปว่า ตั้งแต่ ปี 2541 เป็นต้นมา  โรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่ได้ปล่อยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมาย กำหนด และไม่มีสารซัลเฟอร์ฯ สะสมในร่างกายของราษฎรที่แม่เมาะ แต่เนื่องจากศาลเห็นว่าระหว่างปี 2535-2541 โรงไฟฟ้าปล่อยสารซัลเฟอร์ฯ เกินมาตรฐานที่กำหนดเป็นครั้งคราว จึงให้ กฟผ. ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง  19 สำนวน และสำหรับของกลุ่มคดีเกี่ยวกับเหมืองแม่เมาะ ที่ศาลวินิจฉัยว่า กฟผ. ยังไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขประทานบัตรในการทำเหมืองครบทุกข้อ และมีคำสั่งให้ กฟผ. ดำเนินให้ครบถ้วน  พร้อมทั้งได้วินิจฉัยว่า การที่ กฟผ. ยังปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตรนั้น  ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด  ในเรื่องนี้  กฟผ. ขอศึกษารายละเอียดต่างๆ ตามคำพิพากษา และต้องหารือกับพนักงานอัยการซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแก้ต่างคดีให้ กฟผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

โฆษก กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า  กฟผ. ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาด้านคุณภาพอากาศ         ที่ โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดย กฟผ. ได้ทำการติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับโรงไฟฟ้าทุกเครื่องเรียบร้อยแล้ว และ มั่นใจว่าได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมายเกี่ยวกับคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการดูแลให้ความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของราษฎร อ.แม่เมาะ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในระหว่างปี 2535-2540 กฟผ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะสั้นด้วยมาตรการต่างๆ อาทิ การลดกำลังการผลิตในช่วงที่สภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย การใช้น้ำมันดีเซล เดินเครื่องเสริม การติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อควบคุมการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น

ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการที่แนบท้ายประทานบัตรเหมืองนั้น  กฟผ. ได้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพเหมือง โดยการจัดแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน คือ พื้นที่ปลูกป่าทดแทน พื้นที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน พื้นที่แหล่งกักเก็บน้ำ  พื้นที่พักผ่อน และแหล่งเรียนรู้ อาทิ สวนพฤษชาติ  อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ  ทุ่งบัวตอง ลานกิจกรรมนันทนาการ และสนามกอล์ฟ

สำหรับราษฎรที่อาศัยในพื้นที่ใกล้บริเวณเหมือง ที่ ครม. มีมติ ให้โยกย้ายออกจากพื้นที่โดยความสมัครใจ คือ บ้านหัวฝาย บ้านหัวฝายหล่ายทุ่ง  บ้านหางฮุง บ้านห้วยเป็ด และบ้านห้วยคิง  กฟผ. ได้ดำเนินการโยกย้ายแล้วเป็นส่วนใหญ่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอพยพราษฎรชุดสุดท้ายออกจากพื้นที่

โฆษก กฟผ. กล่าวในตอนท้ายว่า กฟผ. ให้คามสำคัญต่อการดำเนินงานเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง เช่น ด้านฝุ่น เสียง น้ำ เป็นต้น จนได้รับ ใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 รวมทั้งดูแลให้ความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตความ เป็นอยู่ของราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณรอบพื้นโรงไฟฟ้าและเหมืองอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ
view