สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รวม ข่าว / บทความ ม็อบเสื้อแดง (1)

ญี่ปุ่น"เรียกร้องไทยแก้ปัญหาความวุ่นวายอย่างสันติ

ASTVผู้จัดการออนไลน์
      เอเอฟพี - ญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาความวุ่นวายภายในประเทศอย่างสันติ ลั่น จะมุ่งมั่นปกป้องพลเรือนและบริษัทญี่ปุ่นจากความไม่สงบทางการเมืองของ ไทยอย่างดีที่สุด
       
       ทาเคโอะ คาวามุระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า รัฐบาลญี่ปุ่นหวังอย่างยิ่งว่า จะมีการแก้ไขปัญหาอย่างสันติในไทย ขณะที่รัฐบาลญี่ป่นจะพยายามที่สุดในการรับรองความปลอดภัยของพลเรือนและ บริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในไทย "เราต้องพิจารณาขั้นตอนต่อไปอย่างจริงจังถ้าสถานการณ์นี้ยังไม่เปลี่ยน" เขากล่าว
       
       กระทรวงการต่างประเทศแดนปลาดิบได้ยกระดับคำเตือนนักท่องเที่ยวที่จะ เดินทางมายังประเทศไทยและยังเตือนให้ชาวญี่ปุ่นอยู่ห่างจากอาคารรัฐบาลและ สถานที่ชุมนุมในไทย นอกจากนี้ ยังแนะนำไม่ให้สวมเสื้อสีเหลืองและสีแดง เพื่อจะได้ไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายด้วย
       
       ไทยเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นจำนวนมาก และญี่ปุ่นก็ยังเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย ขณะที่ความสัมพันธ์ทางการทูตก็แน่นแฟ้น รวมทั้งความสัมพันธ์อย่างอบอุ่นระหว่างราชวงศ์ด้วย


 

บทวิเคราะ์ห์ล่าสุด ชนชั้นกลางจะหนุนรัฐใช้กำลัง "บดขยี้พวกเสื้อแดง"

ASTVผู้จัดการออนไลน์
       ฟอร์บส์.คอม- ฟอร์บส์ดอทคอมรายงานสถานการณ์ในไทยร่วมกับรอยเตอร์ โดยระบุถึงสถานการณ์ที่วุ่นวายในประเทศ หลังจากนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศภาวะฉุกเฉินจนนำมาสู่การเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงในเช้ามืดวันนี้(13) อ้างนักวิชาการชี้ ชนชั้นกลางในเมืองไทยทนไม่ได้กับความรุนแรงจากกลุ่มคนเสื้อแดงมากยิ่งขึ้น และจะเห็นด้วยกับการใช้กำลังเข้าปราบปรามของรัฐบาล ลือ นช.แม้วรอปฏิวัติในกัมพูชา
       
       รายงานวิเคราะห์ดังกล่าวระบุว่า การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทยยังคงสร้าง ความวิตกกให้กับนักลงทุนวันนี้ ขณะที่ประเทศไทยเชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และนักท่องเที่ยวลดลงอยู่แล้ว ขณะที่ผู้สังเกตุการณ์คิดว่า ความอดกลั้นของชนชั้นกลางต่อความปั่นป่วนจะหดตัวลง เนื่องจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
       
       อย่างไรก็ตาม กองทัพ ตำรวจ และสังคมไทย ยังแตกแยกกันจนเกินไปสำหรับการสร้างเสถียรภาพที่ยั่งยืน ขณะที่ "ชายที่เป็นศูนย์กลาง" ของทุกอย่าง คือ "นช. ทักษิณ ชินวัตร" นั้น กำลังเฝ้ารอดูว่า เมื่อไหร่ รัฐบาลอายุเพียง 4 เดือนของนายอภิสิทธิ์จะล่มสลายลงและเขาจะได้กลับมา
       
       "ถ้ารัฐบาลบดขยี้รุนแรงมากกว่านี้ กลุ่มคนชั้นกลางในเมืองก็จะเห็นด้วย" ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติ ประเสริฐสุข จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ความเห็น
       
       "นั่นเป็นความคิดของผม ชนชั้นกลางขณะนี้ทนไม่ได้มากขึ้นๆ กับความรุนแรงของคนเสื้อแดง"
       
       ผู้ช่วยศาสตราจาย์กิตติแจกแจงว่า ใจกลางของการประท้วงไม่ใช่ความแตกแยกระหว่างคนเมืองและคนชนบท คนรวยและคนจนแต่เป็นการต่อสู้ของความคิดระหว่างประสิทธิผลทางเศรษฐกิจและการ มีส่วนร่วมในประประชาธิปไตย
       
       ทักษิณได้รับแรงสนับสนุนจากคนจน ในพื้นที่ชนบททางภาคเหนือ รวมทั้งชนชั้นกลางส่วนหนึ่งที่คิดว่าเขาทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากกว่า และจัดการประเทศได้ดีขึ้น ขณะที่กลุ่มคนจำนวนมากในสังคมคิดว่า ทักษิณและรัฐบาลของเขาขาดบูรณาการทางประชาธิปไตย อาจารย์กิตติอธิบาย
       
       รายงานวิเคราะห์ชิ้นนี้ยังระบุว่า กองทัพและตำรวจไทยยังลังเลที่จะใช้กำลังเนื่องจากความขัดแย้งกันเองภายใน ผู้บัญชาการกองทัพต่อต้านทักษิณ แต่ก็มีกลุ่มที่โปรทักษิณอยู่ในกองทัพด้วย ด้านตำรวจส่วนใหญ่ก็สนับสนุนทักษิณ
       
       นอก จากนี้ อาจารย์กิตติชี้ว่า ถ้าผู้ประท้วงยังอยู่ขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐบาล รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ไม่มีทางเลือก แต่ต้องลาออกและยุบสภา อย่างไรก็ตาม ถ้าไทยจัดการเลือกตั้งเร็วๆ นี้ มันก็จะเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรงมาก อาจรย์กิตติระบุ ขณะที่มีข่าวลือว่า ทักษิณอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในกัมพูชาเพื่อรอปฏิวัติ


 

อียูแสดงความกังวลถึงไทย วอน'เสื้อแดง'ยุติความรุนแรง

ASTVผู้จัดการออนไลน์
       เอเอฟพี - สหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์(13) "แสดงความกังวลอย่างยิ่ง" ต่อสถานการณ์ในเมืองไทย หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารและผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจนมีผู้ได้ รับบาดเจ็บหลายสิบคน วอนเสื้อแดงยุติพฤติกรรมรุนแรงบนท้องถนน
       
       คำแถลงระบุว่าอียูโดยประธานหมุนเวียนสาธารณรัฐเช็ก "เน้นถึงความกังวลอย่างใหญ่หลวงต่อความเหตุกระทบกระทั่งที่มีความรุนแรงใน ไทย รวมไปถึงการโจมตีคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผลให้รัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน"
       
       "ในฐานะประธานสหภาพยุโรปขอเรียกร้องอย่างเข้มแข็งต่อถึงผู้ประท้วง ให้ระงับพฤติกรรมรุนแรงบนท้องถนน ซึ่งยิ่งแต่เพิ่มความตึงเครียดและเสียงต่อการทำร้ายเสถียรภาพและชื่อเสียง ของประเทศของพวกเขา"
       
       "ประธานสหภาพยุโรปหวังว่าความแตกแยกทางการเมืองจะสามารถคลี่คลายผ่าน การทูตและประชาธิปไตย วิถีทางรัฐสภา ภายในกรอบโครงสร้างรัฐธรรมนูญ"
       
       นอกจากนี้ประธานอียู ได้เรียกร้องว่า "รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบต่อการปกป้องพลเมืองชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงพลเมืองอียู"
       
       สหภาพยุโรปยังแสดงความเสียใจกรณีการประท้วงทางการเมืองที่กดดันจน รัฐบาลไทยต้องเลือนการประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา



 

CNNสัมภาษณ์'แม้ว'วอนยุติรุนแรงทั้งเพิ่งประกาศ'ปฏิวัติประชาชน"

ASTVผู้จัดการออนไลน์
       เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นกล่าวหารัฐบาลไทยปกปิดผู้เสียชีวิตในการปราบปรามผู้ ประท้วงในวันจันทร์(13) บอกต้องการเห็นเสรีภาพ ทั้งที่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมายังเพิ่งบอกให้"เสื้อแดง" ขยายสู้รบอยู่หยกๆ
       

       ในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นโดยไม่เปิดเผยสถานที่อยู่ มหาเศรษฐีผู้หลบหนีอ้างการที่ทหารยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อสลายผู้สนับสนุนที่ก่อ จลาจลของเขาในกรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
       
       "พวกเขาวางกับดักประชาชน...มีหลานคนเสียชีวิต พวกเขานำศพผู้เสียชีวิตเปื้อนเลือดขึ้นรถบรรทุกและนำอออกไป พวกเขาพยายามทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง" ทักษิณ บอกกับซีเอ็นเอ็น
       
       "คุณพยายามโกหกต่อทั่วโลก คุณพยายามโกหกประชาชน แต่..มันเป็นไปไม่ได้" เขากล่าว
       
       อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวเอเอฟพีจากการที่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ไทยตลอดทั้งวันจันทร์(13) พวกเขาบอกว่าไม่มีผู้เสียชีวิตและปฏิเสธข่าวลือจากสถานีวิทยุฝ่ายฝักใฝ่ ทักษิณที่อ้างว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
       
       มหาเศรษฐีโทรคมนาคม ซึ่งถูกรัฐประหารในปี 2006 หลบหนีออกจากประเทศไทยในเดือนสิงหาคมก่อนพิพากษาจำคุก 2 ปีในข้อหาคอร์รัปชัน
       
       เอเอฟพีระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้กล่าวปราศรัยผ่านโทรศัพท์และ วิดีโอหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยุยงผู้ต่อต้านรัฐบาลซึ่งฝักใฝ่เขาออกมาชุมนุมบนท้องถนน
       
       กลุ่มคน "เสื้อแดง" ได้ยกระดับการชุมนุมเป็นการขับไล่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ลงเอยที่การประท้วงครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่แล้วและบุกเข้าไปยังโรงแรมซึ่งจัด ประชุมอาเซียนซัมมิท
       
       ทั้งนี้แม้ว่าในการปราศรัยเมื่อเร็วๆนี้เขาได้เรียกร้องผู้สนับสนุน ดำเนินการ "ปฏิวัติประชาชน" ทว่าระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ทักษิณ เลียบเคียงถึงการไกล่เกลี่ย
       
       "ผมอยากเรียกร้องให้ทุกคนร่วมใจกันเพื่อความสงบ ไม่ใช้กำลัง สงครามนำมาซึ่งสงครามและความรุนแรงนำมาซึ่งความรุนแรง ผมไม่คิดว่านั่นเป็นวิธีการที่ถูกต้อง" ทักษิณกล่าว


 

"แม้ว-มาร์ค"เปิดสงครามผ่านCNN

ประชาชาติธุรกิจ
"ทักษิณ ชินวัตร" ออกซีเอ็นเอ็น แพร่ภาพไปทั่วโลก กล่าวหากองทัพยิงประชาชนเสียชีวิต แล้วนำศพขึ้นรถหลบหนี ย้ำประธานองคมนตรี-ทหารใช้สองมาตรฐานจัดการ ปชต.ถูกแทรกแซงด้าน"อภิสิทธิ์"ย้ำเป็นรัฐบาลที่มาเส้นทางเดียวกับ"แม้ว" ฟังเสียงชาวบ้านและเคารพสิทธิมนุษยชนและสื่อ

ซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร   เมื่อเวลา 18.10 น. เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นออกอากาศไปทั่วโลก โดยเป็นการให้สัมภาษณ์จากสถานที่ไม่เปิดเผยว่า ระบุว่า คนไทยที่ออกมาประท้วงครั้งนี้ เพราะต้องการเห็นประชาธิปไตยแท้จริงเกิดขึ้นในประเทศ ที่ผ่านมา ประชาธิปไตยเป็นของคนกลุ่มน้อยจำนวนหนึ่ง ผู้ชุมนุมมามือเปล่า เพื่อต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติ แต่ตนก็ไม่เข้าใจทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ใช้วิธีการปราบปราบที่รุนแรง โหดเหี้ยม   ผู้สื่อข่าวถามซีเอ็นเอ็นถามว่า มันยากจะเข้าใจว่า ประชาธิปไตยสำหรับประเทศไทย ในความหมายของคุณคืออะไร เมื่อรัฐบาลก่อนๆ เคยถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด กรณีซื้อเสียง จะมีประชาธิปไตยจากเรื่องนี้ได้อย่างไร ขณะนี้ยังคงมีความสับสนว่าคนไทยต้องการอะไรกันแน่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า  ในไทย องค์กรอิสระหลายแห่งถูกแทรกแซงด้วยคนบางกลุ่ม สถาบันเหล่านั้นไม่ได้มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อประชาชน พวกเขาสามารถปลดนักการเมือง ซึ่งมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน มีการเลือกปฏิบัติสองมาตรฐานเกิดขึ้น คนไทยเห็นการปฏิบัติสองมาตรฐานเช่นนี้มาไม่น้อยกว่า 3 ปี การปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงครั้งนี้ เป็นตัวอย่างชัดเจนยิ่ง ในเรื่องสองมาตรฐาน นั่นคือเหตุผลทำไมประชาชนถึงพยายามจะออกมา   เมื่อถามว่า จะกลับประเทศไทยเมื่อไร พร้อมจะมาเผชิญกับการถูกจำคุกหรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมพร้อมจะไปเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ขณะนี้ต้องการเห็นการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยสันติ อันที่จริง ผู้ชุมนุมมามือเปล่าอย่างสันติ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรมที่แท้จริง แต่พวกเขากลับถูกตอบโต้ด้วยวิธีไม่เป็นประชาธิปไตย รวมถึงใช้การปราบปรามที่รุนแรง หากพวกคุณดูสิ่งทีเกิดขึ้นที่พัทยา สิ่งที่เกิดขึ้นหน้ากระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 12 เมษายน และเหตุเกิดในเช้าวันนี้ สื่อมวลชนก็ถูกแทรกแซงโดยสมบูรณ์ พวกเขาไม่สามารถพูดเรื่องจริงได้ แม้แต่โฆษกของกองทัพ (พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด) ก็โกหกประชาชน ที่ บอกว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริงและยิงปืนขึ้นฟ้า ทั้งที่ความจริงแล้ว พวกเขายิงปืนในแนวราบ ทั้งที่จริงแล้วยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวตามโรงพยาบาล จำนวนมาก เท่าที่ทราบอย่างน้อย 60 คน"   ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ประชาธิปไตยที่คุณว่า ยังหมายถึงการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งคุณถูกกล่าหาเรื่องคอรัปชั่น คนไทยจะไว้ใจคุณได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบทันทีว่า ไม่ ตนถูกโค่นล้มด้วยการปฏิวัติ รัฐประหาร พวกเขาตั้งคณะกรรมการ ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตนในทางการเมือง และกระบวนการที่เขาดำเนินการไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่า ระบบทั้งหมดไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไม ประชาชนจึงออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ประชาธิปไตยอยู่ภายใต้การควบคุมของคนบางกลุ่ม  กองทัพ หรือประธานองคมนตรีที่เข้ามาแทรกแซงทุกอย่าง แม้แต่ในยุคที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม เขามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร หรือแม้แต่ในศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นการแทรกแซงที่เกิดขึ้นจริง   เมื่อถามว่า วางแผนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนต้องการขอร้องให้ทุกฝ่ายให้หันหน้าเข้าหากันโดยสันติวิธี ไม่ใช่ใช้กำลังทหาร เพราะสงครามไม่สามารถยุติได้ด้วยสงคราม เช่นเดียวกับความรุนแรงก็ไม่อาจยุติได้ด้วยความรุนแรง นั่นคือหนทางที่เกิดขึ้น พวกเขาพยายามจะโกหกคนทั้งโลก และโกหกคนไทย แต่ในประเทศไทยมีคำกล่าวที่ว่า ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด พวกเขาพยายามปกปิดทุกอย่าง ทั้งที่กองทัพยิงใส่ ประชาชน ยิงทะลุหัวใจของคน และศพถูกนำขึ้นรถทหารหลบออกไป พวกเขาพยายามปกปิดทุกอย่าง ตนต้องการให้ทุกคนหันกลับมาร่วมมือกันและใช้สันติวิธี     ซีเอ็นเอ็น สัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ   ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์โผ่านซีเอ็นเอ็น ในช่วงเวลา 19.00 น.วันเดียวกันตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณที่กล่าวหาว่า เป็นรัฐบาลไม่ได้มาจากระบอบประชาธิปไตย ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ว่า มันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันนี้ กระบวนการในการเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาก็เป็นหนทางเดียวกับที่รัฐบาลที่ แล้วทั้ง 2 รัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ และเขาก็ไม่เคยกล่าวหาว่ากระบวนการเหล่านั้นไม่เป็นไปตามประชาธิปไตยเลย ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตามหลักกฎหมาย และตามกระบวนการรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ผมขอย้ำว่าไม่มีใครปฏิเสธถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปทางการเมือง แต่เราไม่สามารถดำเนินการให้ลุล่วงได้ด้วยการใช้ความรุนแรงหรือการจลาจล หรือการไม่เคารพต่อหลักกฎหมาย และแน่นอนว่า เขาไม่ได้กล่าวหากระบวนการเหล่านั้นไม่เป็นประชาธิปไตย ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตามหลักกฎหมาย และตามกระบวนการรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ตนขอย้ำว่า ไม่มีใครปฏิเสธถึงความจำเป็นที่ต้องปฏิรูปทางการเมือง แต่เราไม่สามารถดำเนินการให้ลุล่วงไปได้โดยการใช้ความรุนแรง  หรือการไม่เคาพรกฎหมาย แน่นอนว่าคุณไม่สามารถทำได้ด้วยการข่มขู่ฝ่ายตรงกันข้าม
ผู้สื่อข่าวถามว่า แน่ใจว่าจะสามารถทำให้คนไทยหันมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการสนับสนุนอย่างมากในไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนในต่างจังหวัด  แน่ใจหรือไม่ว่ามีความสามารถจะดำเนินการนั้นได้ การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในไทยเมื่อเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากตนเข้ารับตำแหน่ง และได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อม โดยได้รับเลือกเข้ามา 21 ที่นั่งจาก 27 ที่นั่ง ทั้งหมดเป็นชัยชนะที่ประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะ
เมื่อถามว่า นั่นเป็นเพราะเหตุผล ผลการเลือกตั้งสูสี จึงต้องพรรคร่วมรัฐบาลที่หันมาจับมือกับประชาธิปัตย์ จากที่เคยร่วมกับพรรคพลังประชาชน  ในส่วนของคุณมีอิทธิพลเพียงพอ จะจูงใจคนในรัฐบาลอย่างไร  นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ในการเลือกตั้งก่อนหน้านั้น การนับคะแนนนิยมในการเลือกพรรคการเมือง  พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ไเพียงแค่แสนกว่าคะแนน และเรามาไกลที่จะยืนยันได้ว่า เราเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย เป็นรัฐบาลที่เคารพสิทธิมนุษยชน ไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม  มีความรับผิดชอบไม่แทรกแซงสื่อมวลชน   ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นถามว่า จะสื่อสารให้คนไทยเข้าใจได้อย่างไร เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณรับฟังเสียงชาวบ้าน จนทำให้คนในชนบทรู้สึกว่า ถูกรัฐบาลปัจจุบันทอดทิ้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง เราวางนโยบายซึ่งให้ความสำคัญกับคนยากจนในชนบทและผู้ที่ไร้โอกาสในสังคม หนึ่งในงบประมาณก้อนใหญ่ที่สุดของรัฐบาลคือการอุดหนุนและพยุงราคาสินค้า เกษตร กำหนดนโยบายเรียนฟรี 15 ปีและจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ นโยบายเหล่านี้ล้วนแต่มุ่งให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและคนยากจนในสังคม แต่เราจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายเหล่านี้ได้ทั้งหมด และทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้มีเพียงรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งที่จะทำสิ่งนี้ให้ พวกเขา แต่รัฐบาลจากการเลือกตั้งทุกรัฐบาลก็พร้อมที่จะดำเนินนโยบายเพื่อประโยชน์ ของประชาชน นอกจากนี้ นโยบายใดๆที่เกิดขึ้นในช่วงของอดีตรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราก็ยังคงทำอยู่ต่อไป
  เมื่อถามอีกว่า คิดคว่าความวุ่นวายเช่นนี้จะดำเนินไปถึงเมื่อไร และคุณจะได้ด้รับความสนับสนุนจากกองทัพอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า  "สิ่งที่ผมจะทำคือการนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนสู่ประเทศโดยเร็วที่สุดเท่า ที่จะเป็นไปได้ เราคิดว่า ภายในเย็นวันนี้เราจะสามารถควบคุมสถานการณ์ส่วนใหญ่ไว้ได้ เพื่อจะได้เน้นความสำคัญไปที่การชุมนุมประท้วงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลที่ยัง ดำเนินอยู่ และเราพยายามจะขอให้พวกเขาสลายการชุมนุมไป ขอให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับความยุติธรรม"


“ไทม์ส”ชู “มาร์ค”เหนือ “นช.แม้ว”แก้วิกฤติได้เยี่ยม-ตอบสื่อชัดเจนกว่า

ASTVผู้จัดการออนไลน์
“ไทม์ส” ยก"มาร์ค"นำชาติพ้นอนาธิปไตย ทำให้ภาพการสลายม็อบออกมาในเชิงบวก แถมมีชัยชนะเหนือ “นช.แม้ว”ในสงครามสื่อ ระบุตอบโต้ CNN,BBC อย่างมีเหตุมีผล อดทน และชัดถ้อยชัดคำ ตรงข้ามกับอดีตนายกฯ หนีคดี ที่ตอบคำถามอย่างเลื่อนลอยและไม่น่าเชื่อถือ

       
       นิตยสารไทม์ส ออกบทวิเคราะห์กรณีการการจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงในประเทศไทย ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีชัยชนะเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในการทำสงครามสื่อสารมวลชนอย่างชัดเจน รวมทั้งยังสามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นจากภาวะอนาธิปไตยมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้เกือบจะเพลี่ยงพล้ำ ทำให้ประเทศไทยต้องกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าผู้นำประเทศมหาอำนาจเอเชีย จากความวุ่นวายที่พัทยาจนต้องยกเลิกการจัดประชุมอาเซียน +3 และ +6
       
       ไทม์ส วิเคราะห์ว่า การแก้ปัญหาของนายอภิสิทธิ์ทำให้ข่าวการชุมนุม ซึ่งตามปกติมักจะเป็นความหายหะ กลับออกมาในเชิงที่ค่อนข้างเป็นบวก และตามรายงานข่าวที่ออกมามีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน จากการที่ผู้ประท้วงต่อสู้กับชาวบ้าน ทำให้มองเห็นว่าประเทศไทยคงจะออกจากปัญหานี้อย่างไม่ยากเย็นนัก เมื่อทหารในสภาพกดดันถือปืนกลมือเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงที่บ้าคลั่งพร้อม ระเบิดขวดอยู่ในมือ ความหายนะย่อมจะเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่วินาที แต่ทหารไทยก็ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และมุ่งที่จะสลายการชุมนุมมากกว่าที่จะมุ่งทำร้ายผู้ประท้วง โดยการยิงกระสุนเปล่าขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เท่านั้น
       
       การมีชัยชนะเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณ ของนายกฯ นักโทษหนีคดี ในสงครามสื่อครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีสามารถตอบโต้ข้อกล่าวหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และเรื่องการกล่าวอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุวุ่นวายในกรุงเทพมหานครได้ใน ทุกประเด็น ซ้ำร้าย ในการให้สัมภาษณ์สดตอบโต้กันผ่านสำนักข่าว CNN และ BBC วานนี้ นายกรัฐมนตรีสามารถตอบคำถามได้อย่างมีเหตุมีผล อดทน และชัดถ้อยชัดคำ ซึ่งแตกต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตอบคำถามอย่างเลื่อนลอยและไม่น่าเชื่อถือ
       
       อย่างไรก็ตาม ไทม์สเชื่อว่านายกรัฐมนตรียังคงมีงานหนักรออยู่ ต่อเรื่องที่จะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มคนเสื้อแดงราว 4,000 คน ที่ถอยกลับไปรวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ ซึ่งเป็นเรื่องยาก และอาจถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรงจากคนเสื้อแดงบางคนด้วย ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์จะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีข้อสงสัยปลีกย่อยต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือไม่ให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อ จนอาจสูญเสียแรงสนับสนุนไป


 

Abhisit Vejjajiva won the media battle but the hardest job is yet to come

On Saturday he was made to look like a clown in front of Asia’s most powerful leaders. By Sunday it was hard to believe that he would be around for more than a few days. Yet despite this, yesterday the Thai Government of Abhisit Vejjajiva appeared to be slowing his country’s slither into anarchy.

Whether this is a temporary lull before more violence will become clear in the next few days. It is a sign of how far Thailand has fallen that news which in normal times would be disastrous, starts to sound quite positive. If early reports are correct and only two people died in Bangkok yesterday, reportedly in fights between locals and protesters, then Thais have got off lightly. When nervous soldiers with automatic weapons meet furious protesters with petrol bombs, tragedies can unfold in seconds. But the Thai troops seem to have followed orders to employ restraint, and disperse crowds rather than attack them — and to fire their live bullets well up into the air. Mr Abhisit won the media battle yesterday — in their respective television interviews with the BBC and CNN, he seemed reasonable, patient and articulate while Thaksin Shinawatra, his exiled antagonist, was shrill and unconvincing.

The hardest job is still to come. About 4,000 protesters have fallen back to the streets in front of Government House. There are women and elderly people there, and children. To clear such a crowd without bloodshed would be difficult anyway — and the suspicion lingers that some of the Red Shirts are courting a violent response. A few unambiguous martyrs, genuinely innocent victims, would galvanise the movement at a moment when it may be in danger of losing momentum. This is what Mr Abhisit must avoid at all costs. 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

comment from this article


It is good to see some media does know about the real situation in Bangkok. I am living here and monitoring the incident closely. Thai PM is most appreciative person who controls situation with calm and peace. No dead by government's operation at all. Two thumbs up for Mr. Abhisit!!

Intaniacu, Bangkok, Thailand


Thank you. Abhisit Vejjajiva.

Aey, Kanchanaburi, Thailand


I have never had faith in any government or politician before. But I do have faith in my PM Abhisit Vejjajiva. He is my true HERO! Thailand is lucky to have him as the PM that could lead the country out of the riot without violence.

Rinna Clanuwat, Bangkok, THAILAND


Its over! Red shirts was gone. Peaceful is coming.

Riki, BKK, Thailand


I must congratulate Times on a very balanced and unbias news article as compared to BBC or CNN!!!!

Chroong K., Bangkok,


Mr Abhisit is one of the greatest prime ministers Thailand has ever had. He's solved the problem patiently and this is what he deserves.

Glory Mr Abhisit, you are a hero!

Alitta, Bangkok, Thailand


Now we have a Prime Minister we can be proud of. Thaksin's attempts to create a chaos from which he can benefit from, or at least gain revenge from, have backfired. His claims of peaceful protests are shown to be ridiculous. His allegations that many people were killed, nonsense. Thailand has won!

Natee, Chiang Mai, Thailand


In my view, most Thais, especially in Bangkok, are against the red shirt people and their master mind, Thaksin Shinawatra.

This chaos is one of the attempts by Thaksin to get his power (and money) back..........

Pocco, Bangkok, Thailand

PS.

The best result from this is that Thaksin Shinawatra will have little credit in the rest of the world as a "warrior for democracy".

His back sliding and wriggling in front of the world's media, in the last 3 days has caused my emotions to go from fury to incredulity at his lack of backbone.

Jak S., Bangkok, Thailand


Congrats to the Times in having a more balanced, analysis and reporting on the very complicated situation in Thailand.

Rather than avoiding the simplistic terms of red shirt vs. yellow shirts or democracy vs. military.

Jak S., Bangkok, Thailand


one of the very few perceptive reports to come from anyone in the foreign media. Bravo Richard. I am sure that the poverty of good analysis and reportage on the situation in Thailand is due very much to the language barrier. Thank God we have an articulate prime minister now.

J. Peter, Pathum Thani, Thailand


 


 

'แม้ว'ซวยแล้ว!USประณามพฤติกรรมป่าเถื่อนเสื้อแดง

ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเอฟพี - สหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(13) ประณาม "ความรุนแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้" ของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในประเทศไทย
       

       "เรากำลังจับตาสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิดและขอประณาม...ความรุนแรง ที่ไม่สามารถยอมรับได้จากผู้ชุมนุม" โรเบิร์ต วูด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวในวอชิงตัน
       
       เขาบอกต่อว่าสหรัฐฯเรียกร้องกลุ่มผู้ประท้วงและแกนนำหยุดใช้ความ รุนแรง แน่นอนว่าพวกเขามีสิทธิในการชุมนุม แต่ก็ควรกระทำในแนวทางสันติ
       
       นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวเมื่อวันจันทร์(13) ปฏิบัติการทางทหารยุติการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอันบ้าคลั่งในกรุงเทพฯ "ใกล้บรรลุเป้าหมายแล้ว"
       
       เสียงประณามดังกล่าวของสหรัฐฯ มีขึ้นตามหลังอังกฤษที่ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เรียกร้องให้ทหารและผู้ประท้วงในกรุงเทพฯ ระงับใข้ความรุนแรง ขณะเดียวกันก็ประกาศเตือนพลเมืองในการเดินทางมาประเทศไทย
        
       วูด ระบุต่อเชื่อว่าทางสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯ ได้ติดต่อกับทางการไทยแล้ว "ปรารถนาของเราคือความตึงเครียดที่ลดลงและไม่มีความรุนแรง -- บางอย่างที่รัฐบาลปัจจุบันของไทยทราบจุดยืนของสหรัฐฯอยู่แล้ว"
       
        กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเตือนพลเมืองที่กำลังอยู่ในประเทศไทยว่า "เจตนาของผู้ชุมนุมอาจเปลี่ยนสันติภาพเป็นการเผชิญหน้าและมีความเป็นไปได้ ที่จะขยายตัวสู่ความรุนแรง" และได้แจ้งเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมและต้องระมัดระวังเป็น พิเศษไม่ว่าอยู่ที่ไหนในกรุงเทพฯ


 

ไม่ได้อยากดังแบบนี้! สื่อทั่วโลกยังคงประโคมข่าวไทย

ASTVผู้จัดการออนไลน์

บีบีซีของอังกฤษพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งมาตลอด โดยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ขณะที่ล่าสุดคนกลุ่มเสื้อแดงเริ่มทยอยกันสลายตัว
       เอเจนซี- สื่อชั้นนำในต่างประเทศยังคงเกาะติดสถานการณ์ขลาจลในประเทศไทย โดยต่างประโคมข่าวว่าความรุนแรงได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นแล้ว แม้มองว่าสถานการณ์ล่าสุดเริ่มเริ่มคลี่คลายคงแล้ว แต่ยังระบุไปทำนองเดียวกันว่า ความวุ่นวายในไทยเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นเวลาหลายสิบปี

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 113 คน ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้วยอย่างน้อย 25 คน
       

สกายนิวส์รายงานว่า นช.ทักษิณ ทูลฯขอในหลวงให้ทรงช่วยยุติความรุนแรง
       

วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า กองทัพไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
       

ด้านนิวยอร์กไทมส์รายงานอ้างโฆษกกองทัพไทยระบุว่า จะมีการจรจา
       

เลอมงด์ของฝรั่งเศส รายงานโดยสัมภาษณ์นายนัฐวุฒิ ใสเกื้อ ระบุว่า ยอมยุติการชุมนุมไปก่อนในช่วงสงกรานต์ แต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติการต่อสู้เพื่อเรียกร้อง ประชาธิปไตย
       

ซินหัวภาคภาษาอังกฤษของจีนรายงานโดยเสนอภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างที่ไม่ปรากฏมาก่อน
       

สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า การเมืองไทยปะทุขึ้นตั้งแต่การก่อความรุนแรงในการประชุมอาเซียนซัมมิตใน เมืองพัทยา แต่แกนนำยอมยุติการชุมนุมแล้ว เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิต
       

เวียดนามนิวส์ก็รายงานเกาะติดสถานการณ์ในไทย
       

 

 

view