สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รวม ข่าว / บทความ ม็อบเสื้อแดง (2)

ยุติศึกเสื้อแดง...ก่อนศก.ล่มสลาย

โพสต์ทูเดย์
หมดสิ้นแล้วความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาชาวโลก ซึ่งทุกคนก็แทบไม่เชื่อเหมือนกันว่า ประเทศไทยเป็นอะไรไปได้มากมายถึงขนาดนี้
จากอดีตชื่อเสียงของประเทศไทย ถ้าเปรียบเทียบกันในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันแล้ว ประเทศไทยติดอยู่ในกลุ่มลำดับต้นๆของชาติ สมาชิกในภูมิภาคนี้ที่ได้รับความสนใจ และเป็นเป้าหมายของนานาชาติ ทั้งในแง่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

ความหวังสุดท้ายของภาคธุรกิจในเวลานี้ คือ การจบสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มม็อบเสื้อแดงให้เร็วที่สุด ด้วยยุทธวิธีขั้นเด็ดขาด เนื่องด้วยเวลานี้ม็อบดำเนินกิจกรรมโดยขาดเหตุผลและหลักการประชาธิปไตยไป แล้ว

จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งคืนความสงบให้บ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ ของประเทศที่ไม่ต้องการเลือกสีแบ่งฝ่ายเป็นลำดับแรก

เพราะความหวังอันเลือนรางต่อการประคับประคองเศรษฐกิจประเทศในเวลานี้ ช่างยากเย็นยิ่งกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา สถานการณ์เพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ทำให้ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) และ หอการค้าไทย ตลอดจนภาคธุรกิจท่องเที่ยวต่างออกมาแสดงท่าทีชัดเจน ขอให้รัฐบาลจัดการแก้ปัญหาม็อบให้เรียบร้อยภายใน 1-2 วัน

หากจบเทศกาลสงกรานต์แล้ว ยังไม่สามารถแก้ไขหรือคลี่คลายปัญหาให้ทุเลาลงได้ ปล่อยทุกอย่างให้ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ทุกเสียงพูดตรงกันว่า อนาคตประเทศไทยคงหมดสิ้นนับจากนี้

ขณะนี้ภาคธุรกิจเหลือที่จะรอไหว ไม่เฉพาะแต่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเท่านั้น ที่เดือดร้อนย่ำแย่ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ แม้แต่ในกลุ่มภาคการค้าทั้งในประเทศและกลุ่มผู้ประกอบการภาคส่งออก การค้าขายติดขัดไปทั่ว

เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มการค้าระหว่างประเทศ ตอนนี้ประเทศคู่ค้าต่างก็เป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทยไม่แพ้คนในชาติ

ใครๆ ก็ห่วงว่าความสามารถในการจัด ส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ หรือออร์เดอร์ของไทย จะยังทำได้ตรงตามเวลาเหมือนเดิมหรือไม่

ถึงแม้ไม่มีการปิดสนามบิน แต่การป่วน การจราจรทั่วเมือง ปิดถนนสายหลักย่านใจกลางกรุง และเส้นทางหลวงเชื่อมต่อจังหวัดใหญ่หลายๆ จังหวัด ก็เป็นเหตุให้การจัดส่งสินค้าไปยังจุดหมายต่างๆ สะดุดไปโดยปริยาย

ปัญหาที่เกิดขึ้นทันทีในขณะนี้คือ การชะลอคำสั่งซื้อของบรรดาประเทศลูกค้า เพื่อรอประเมินสถานการณ์

เรื่องการเดินทางเข้ามาติดต่อซื้อขายในประเทศไทยก็เป็นอันเลิกพูดถึง ได้เลย เช่นเดียวกับการเชิญชวนต่างชาติเข้ามาลงทุน ก็ต้องพับแผนเอาไว้ก่อน และแน่นอนว่ากระเทือนถึงแผนการเดินสายโรดโชว์กระตุ้นการลงทุนในประเทศต่างๆ ด้วย รัฐบาลคงต้องปรับแผนกันยกใหญ่หลังจากนี้ เนื่องจากดันทุรังไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะในบ้านยังจัดการสะสางปัญหาไม่ได้

แม้กระทั่งการค้าการขายในประเทศ ก็ได้ผลกระทบอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน เพราะเทศกาลรื่นเริงถูกยกเลิกงานไปหลายพื้นที่ หยุดยาวก็จริงแต่ไม่มีใครกล้าออกมากิน ดื่ม เที่ยว ช็อป

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางกรุงที่อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อ การชุมนุมของกลุ่มม็อบเสื้อแดง ก็ปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัย ต้องคอยดูสถานการณ์วันต่อวัน เรียกว่าทุกอย่างเลวร้ายไปหมด

ความเสียหายที่มีการประเมินกันไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในแง่ของผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ อย่างภาคการท่องเที่ยวที่ระบุว่าจะสูญเสียรายได้ 1.3-2 แสนล้านบาท และภาคการลงทุนเชื่อว่าจะหดหายไปอีก 20%

ถึงเวลานี้ทั้งมูลค่าความเสียหาย ภาพลักษณ์ของประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน คงต้องประเมินกันใหม่แบบวันต่อวัน อิงกับสถานการณ์และระดับความรุนแรง ซึ่งมูลค่าความ เสียหายคงเพิ่มขึ้นอีกนับไม่ถ้วน เพราะยังเหลือภาคส่งออกที่ยังไม่ได้มีการประเมินตัวเลขอย่างเป็นทางการ ตลาดค้าปลีกในประเทศ รายได้ของ ห้างสรรพสินค้า ก็ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขความเสียหายเช่นกัน

แน่นอนว่าสุดท้ายเศรษฐกิจประเทศปีนี้คงพูดถึงได้แต่ตัวเลขติดลบ ซึ่งก็ยังประเมินได้ยากว่าจะลบมากแค่ไหน ในเมื่อรัฐบาลไม่มีเวลาไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องหันมาจัดทัพเปิดศึกทางการเมืองเต็มสูบ

นอกจากนี้ งบประมาณของชาติที่จะต้องโถมเข้าไปจัดการกับปัญหาม็อบ ก็จะเป็นอีกอุปสรรคที่ไปเบียดบังงบประมาณที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

ที่แน่ๆ ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศคง ไม่ติดลบน้อยแน่นอน ถ้ารัฐบาลยังไม่รีบจบ ศึกแดงเดือดนี้ในเร็ววัน



สหรัฐประณามม็อบเสื้อแดง

โพสต์ทูเดย์
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามม็อบเสื้อแดงใช้ความรุนแรงประท้วงรัฐบาล แนะให้ใช้แนวทางสันติวิธี

นาย โรเบิร์ต วู้ด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในไทยว่าเป็น ความรุนแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ และว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจับตามองสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วง ตลอดจนบรรดาแกนนำทั้งหลายยุติการใช้ความรุนแรง หันมาใช้แนวทางสันติในการแก้ปัญหาแทน
         

นอกจากนี้ นายวู้ด ยังเชื่อมั่นว่า สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพ ได้ติดต่อเพื่อฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลไทยแล้ว
         

"เราปรารถนาให้ความตึงเครียดในกรุงเทพฯลดลงและไม่มีความรุนแรง ซึ่งเรามั่นใจว่ารัฐบาลปัจจุบันของไทยทราบจุดยืนของสหรัฐในเรื่องนี้อยู่ แล้ว" โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าว
         

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศเตือนพลเมืองชาวอเมริกัน ที่กำลังอยู่ในประเทศไทยว่าเจตนาของผู้ชุมนุมอาจเปลี่ยนสันติภาพเป็นการ เผชิญหน้าและมีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวสู่ความรุนแรง จึงขอให้ประชาชนชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดในกรุงเทพ


40 สว.ค้านวุฒิถกแก้ม็อบ

โพสต์ทูเดย์
สว.สมชาย ค้านปธ.วุฒิฯนัดประชุมถกแก้วิกฤติ ไม่เห็นด้วย เสนอนายกฯยุบสภา-ลาออก หนีแก้เสื้อแดงก่อจลาจล

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าจากการได้ร่วมหารือกับกลุ่ม 40 สว. ทั้ง นส.รสนา โตสิตระกูล ,นายคำนูณ สิทธิสมาน ,นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายมณเฑียร บุญตัน  รวมถึง สว.บุคคลอื่น ต่างไม่เห็นด้วยอย่างต่อกรณีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา  ได้นัดประชุมเพื่อหารือต่อกรณีแก้ปัญหาวิกฤตจลาจลทั้งที่รัฐบาลได้ดำเนินการ แก้ปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง  ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการนัดที่ผิดจังหวะอย่างยิ่ง  เพราะก่อนหน้านี้ในการประชุมครั้งวันที่ 3 เมษายน 52 ทางตนเองได้ยื่นให้ที่ประชุมพิจารณาต่อกรณีปัญหา แต่ประธานในที่ประชุมได้ชิงหนีปิดการประชุมไปก่อน อย่างไรก็ตามหากที่ประชุมวันนี้ดำเนินการต่อก็ไม่ถือว่าเป็นมติของวุฒิสภา เพราะสมาชิกหลายคนอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด และไปทำธุระในต่างประเทศ

นายสมชาย กล่าวว่า นอกจากนั้น กรณีที่สมาชิกวุฒิสภาบางราย  เสนอให้นายกรัฐมนตรี ยุบสภาหรือลาออก เพื่อคลี่คลายวิกฤตก็ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะสถานการณ์ตอนนี้กลุ่มเสื้อแดงไม่ได้ชุมนุมอย่างสงบ แต่ได้ดำเนินการก่อการจลาจล  ยิงประชาชนที่ต่อต้านเสียชีวิต รวมถึงได้สร้างความเดือดร้อนและก่อการวุ่นวายไปทั่วตามที่ภาพข่าว และสาธารณชนได้รับทราบอย่างทั่วกันแล้ว จึงจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาให้สังคมส่วนรวม ซึ่งตามหลักสากลหลายประเทศทั่วโลกก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างนี้ด้วย


รถเมล์ถูกเสื้อแดงยึด 52 คัน

โพสต์ทูเดย์
ขสมก.เริ่มเปิดให้บริการตามปกติแล้ว สรุปถูกเสื้อแดงยึด52คัน ทำใจถูกเผาหมด
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขณะนี้รถโดยสารประจำทางของขสมก.ได้เริ่มออกให้บริการตามปกติตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา แต่มีการเปลี่ยนเส้นทางบางในบางสายที่ยังมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านอยู่ อาทิ เส้นทางอนุสาวรีย์ที่ตรงเข้าสู่สนามเป้า ถ.ศรีอยุธยา ที่วิ่งมุ่งหน้าไปยังวัดเบญจมบพิตร ทางขึ้นทางด่วนยมราช บริเวณแยกผ่านฟ้า ถ.ราชสีมาที่วิ่งตรงมายังถ.ราชดำเนิน ลานพระบรมรูปทรงม้า ฯลฯ ซึ่งบางสายอาจจะใช้การวิ่งอ้อมเส้นทางปกติ แต่บางสายอาจระยะการวิ่งลง เช่น รถเมล์ขสมก.สายเหนือที่วิ่งบนถนนพหลโยธิน ซึ่งจะมาจอดแค่ป้ายสถานีสวนจตุจักรเท่านั้น ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการสอบถามเส้นทาง สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามที่หมายเลข 184 ได้ตลอดเวลา

ผอ.ขสมก.ยังกล่าวถึงจำนวนรถเมล์ซึ่งถูกผู้ ชุมนุมยึดไป ว่า จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 52 คัน เป็นรถเมล์ขสมก. 33 คัน รถเมล์ร่วมบริการ 19 คัน โดยรถเมล์ของขสมก.นั้น ขณะนี้ได้คืนมาแล้ว 14 คัน ถูกเผาทั้งคัน 3 คัน เสียหายบางส่วนหลายคัน ยังอยู่ในที่ชุมนุมอีก 19 คัน คาดว่าจะถูกเผาทั้งหมด

ผวาม็อบ!ห้างกลางกรุงหลายแห่งยังปิดบริการ

โพสต์ทูเดย์
วันนี้สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเซ็นทรัลเวิลด์ ยังคงปิดให้บริการอีก 1 วัน ปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมืองให้มีความชัดเจนก่อน โดยจะมีการพิจารณาเหตุการณ์กันวันต่อวัน และจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป 

ส่วนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งว่า วันนี้ (14 เม.ย.) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาต่าง ๆ เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ยกเว้น เซน และสาขาสีลมคอมเพล็กซ์ ด้านห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

ขณะที่โรงภาพยนตร์ และโบว์ลิ่งในเครือเอสเอฟ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป เปิดให้บริการตามปกติ ยกเว้นสาขาสยามพารากอนที่ปิดบริการ


ยอดผู้บาดเจ็บจากม็อบเสื้อแดง123ราย

โพสต์ทูเดย์

เผย ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บล่าสุด 123 ราย นอนรพ.50 ราย ไอซียู2 ราย จิตแพทย์แนะใช้วันครอบครัวให้คุ้มค่า เตือนเสพสื่อระวังเครียด พักเป็นระยะๆ

นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะระหว่างกลุ่ม เสื้อแดงและชาวบ้านย่านนางเลิ้งตั้งแต่เวลา 4.50 น.วันที่ 13 เมษายน จนถึงขณะนี้ 9.00 น.มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 123 ราย เป็นผู้ป่วยที่รับการรักษาและกลับบ้านแล้ว 71 ราย เสียชีวต 2 ราย ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 50ราย เป็นชายทั้งหมด พักอยู่ที่รพ.ราชวิถี 6 ราย รพ.รามา 10 ราย รพ.ทหารผ่านศึก 15 ราย รพ.มิชชั่น 3 ราย รพ.หัวเฉียว 4 ราย รพ.กลาง 5 ราย รพ.พระมงกุฎ 5 ราย รพ.วชิระ 1 ราย รพ.ตำรวจ 1 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู 2 ราย

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคม กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประชาชนมีความตึงเครียดจากสถานการณ์การชุมชุนของกลุมนปช.ในช่วงหลายวันที่ ผ่านมา ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมาซึ่งมีการสลายผู้ชุมนุมโดยไม่ไม่รุนแรงมากนักโดยการสูญเสียค่อน ข้างน้อย ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เส้นทางการจราจรดีขึ้น ทุกอย่างกลับเป็นปกติ หากรัฐบาลให้ความมั่นใจในความมปลอดภัยซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานอยู่ แล้ว ทุกอย่างจะต้องกลับมาดีขึ้นแน่นอนส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจบนั้นอยู่ ไอซียู 2 ราย
         

“จริงๆ ช่วงนี้เป็นวัดหยุดวันครอครัวถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของปี เวลาที่ผ่านไปเป็นเวลาสำคัญในครอบครัว ดังนั้นจึงควรใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เพราะหากครอบครัวดี สังคมก็จะดีด้วยโดยการ ใช้เวลาอย่างเหมาะสม ดูแลเอาใจใส่เด็กและสูงอายุ ไม่ใช่สนเรื่องการเมืองอย่างเดียว หากเราไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง ก็อยากให้ใช้เวลากับครอบครัวถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งกว่า”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
         

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ความเครียดเกิดขึ้นเนื่องจากมีความเห็นต่างกัน ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยง ไม่ให้มีข้อขัดแย้ง ซึ่งปกติคนทั่วไปจะมีความเครียดสะสมที่มาจากปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ครอบครัว ผู้ป่วยในครอบครัว จึงควรใช้เวลาในการพูดคุยแก้ปัญหาเรื่องราวๆ ต่างๆ เหล่านี้ ดีกว่าโดยเน้นให้ รู้จักหน้าที่ มีการแสดงออกที่เหมาะสม จัดเรียงลำดับความสำคัญ อะไรมีความสำคัญมากที่สุด
         

ส่วนการเสพสื่อไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือทีวีนั้น นพ.ทวีศิลป์ กลาวว่า หน้าที่ของสื่อในการเสนอภาพข่าวเพื่อดึงความสนใจของคนที่ดูสื่ออยู่ด้วยทั้ง ภาพทั้งเสียงมีความตื่นเต้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพความรุนแรงไม่สงบทำให้เกิดความตื่นเต้น ความเครียดขึ้นได้ดังนั้นให้ดูว่าหากเป็นข่าวที่รับรู้มาแล้วระยะหนึ่งไม่มี ข่าวใหม่ ให้พักฟังข่าวเป็นระยะๆ โดยไม่เปิดทีวีค้างไว้ จะช่วยให้ความเครียดลดลงมากทั้งนี้ ทั้งนี้ ครอบครัวควร ปกป้องเด็กกับผู้สูงอายุ ที่ภาพข่าวอาจจะกระตุ้นให้เกิดเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กอาจหงุดหงิดก้าวร้าวไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็กต่ำกว่าวัยประถม หรือคอยอธิบายว่า พฤติกรรมอย่างนั้นสังคมไม่ยอมรับไม่เหมาะสมส่วน ผู้สูงอายุซึ่งการปรับตัวปรับใจได้ยากกว่าคนทั่วป อาจเกิดความวิตกกังวล เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยต่อทรัพย์สินชีวิต เป็นภัยใกล้ตัวก็จะวิตกมาก นอนไม่หลับหรือบ่นพูดซ้ำๆ ก็ขอให้ลูกหลานให้ความเข้าใจ เพราะเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุที่พบมากที่สุด


รวบมือเผาแบงก์กรุงเทพ-CP

โพสต์ทูเดย์
"สุเทพ"ควง ผบ.ตร.และโฆษก สตช. แถลงรวบ 3 ผู้ต้องหาเตรียมก่อเหตุเผาธนาคารกรุงเทพสาขาใหญ่-ตึกซีพี 1 คน รับสารภาพ ถูกจ้างวาน

เมื่อเวลา 11.35 น. ที่ผ่านมา  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง แถลงว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจดูแลเข้มงวดตามจุดสำคัญในกรุงเทพฯ มีผู้แจ้งเบาะแสระบุกลุ่มคนร้ายเตรียมก่อการเผาธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และสำนักงานซีพี สีลม ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลาง รับสารภาพ 1 ราย ว่าถูกจ้างวานมาก่อเหตุในวงเงิน 5 พัน 

พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสายลับมีคนเตรียมวางระเบิดธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และสำนักงานซีพี สีลม พบผู้ต้องหาในรถกระบะ วีโก้ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี รวมทั้งของกลาง ประกอบด้วยระเบิดเพลิงในขวดน้ำหวานและขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ถังน้ำมัน 20 ลิตร อาวุธปืนพกสั้น 4 กระบอก มีดพกสั้น เครื่องมือช่าง และมือถือ 6 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามวางเพลิง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า ยืนยันทั้งหมดเป็นผู้ต้องหารที่จับได้ในที่เกิดเหตุ และไม่ได้สร้างหลักฐานเท็จแต่อย่างใด


"กรณ์" เซ็ง เสื้อแดงป่วน! ศก.ทรุดหนัก

โพสต์ทูเดย์

รมว.คลัง สุดเซ็ง เสื้อแดงป่วน! ทำเศรษฐกิจประเทศเสียหายหนัก จัดเก็บรายได้ต่ำเป้า 200,000 ล.แถมรายได้ท่องเที่ยว-ส่งออกลด ความเชื่อมั่นหด ทำจีดีพี ติดลบเกิน 3 %

นาย กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเดิม ที่คาดว่าจะลดลง 200,000 ล้านบาท เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวและการส่งออกลดลงอย่างชัดเจน จากความเชื่อมั่นที่หดหายไป โดยกระทรวงการคลังเตรียมประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบร้อยละ 2.5-3 ปัจจุบันนี้อาจจะติดลบไปมากกว่านั้น
         

รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาโดยตลอด ในช่วง 3 เดือนของการทำงาน ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น แต่สำหรับเหตุการณ์ล่าสุด ยอมรับว่ารัฐบาลอาจต้องทำงานหนัก และกลับไปเริ่มต้นแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่ติดลบ แต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยมีแผนเดินทางไปชี้แจงกับนักลงทุนและหน่วยงานต่างประเทศ เกี่ยวกับแผนการลงทุน และศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในการประชุมธนาคารโลก ที่วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา การประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน +3 ที่บาหลี อินโดนีเซีย รวมทั้งพบปะกับนักลงทุนอังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติ
         

นอกจากนี้ นายกรณ์ ระบุด้วยว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาให้สงบโดยเร็ว แต่ก็ยอมรับว่าหนักใจกับการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ขอให้คนไทยใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข่าวสาร

 

 

 

 

 

view