สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ระบุห้ามเบิกจ่ายยาสมุนไพรพัวพันผลประโยชน์แสนล้าน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


 

เครือข่ายใช้ยาสมุนไพรยื่นกรรมาธิการสอบคลังกรณีห้ามเบิกจ่ายยาสมุนไพร เชื่อพัวพันผลประโยชน์บริษัทยา ทุจริตยา

นายวีรพงษ์ เกรียงสินยส ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย ในฐานะแกนนำเครือข่ายการใช้ยาสมุนไพรแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางกระทรวงการคลังออกแนวทางการเบิกจ่ายยา โดยห้ามเบิกจ่ายยาสมุนไพรที่ อยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาตินั้น ในวันนี้ (30 มิ.ย.) ทางเครือข่ายได้เข้ายื่นหนังสือคณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการ ทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ภายหลังจากที่ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

"เครือข่ายเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง และมีความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเรื่องนี้หลังจากที่มีการนำเสนอข่าว และเรื่องเพื่อของทราบข้อเท็จจริงในการออกแนวทางปฏิบัตินี้ กลับไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆ จาก รองปลัดกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ดูแล"

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนที่ในหนังสือคำสั่งกระทรวงการคลังที่มีการอ้างข้อมูลการศึกษาของสถาบัน วิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) นั้น ทางเครือข่ายได้ขอข้อมูลดังกล่าวจากกระทรวงการคลัง แต่กลับไม่ได้รับข้อมูลอะไรเลย และเมื่อสอบถามไปยัง สวรส. ก็ทราบแต่เพียงว่ามีนักวิชาการที่อยู่ภายใต้ร่ม สวรส. เป็นผู้ทำการศึกษาและเก็บข้อมูล แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเช่นกัน

โดยระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านยาปัจจุบันกว่า 120,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายยาแผนปัจจุบัน ในส่วนยาสมุนไพรนั้นมีเพียงแค่ 3% หรือแค่ 3,600 ล้านบาทเท่านั้นและในความเป็นจริงอาจน้อยกว่านั้น ถือว่าน้อยมากแต่ทำไมจึงมาปรับลดค่าใช้จ่ายยาสมุนไพรแทน ทำให้กระทบต่อการพัฒนายาสมุนไพรไทยของประเทศ

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า แนวทางปฏิบัติห้างเบิกจ่ายยาสมุนไพรนอก บัญชีนั้น จะเริ่มต้นใช้ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) ซึ่งทางเครือข่ายเป็นห่วงว่า ในวันพรุ่งนี้จะเกิดความปั่นป่วนในโรงพยาบาล เนื่องจากประชาชนในระบบสวัสดิการข้าราชการที่เคยเบิกค่ายาสมุนไพรและรักษาบำบัดได้ จะเบิกไม่ได้ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเรื่องนี้ และอาจขัดแย้งกับทางโรงพยาบาลได้

นอกจากนี้โรงพยาบาลส่วนใหญ่มีรายการบัญชีเบิกจ่ายยาบัญชีเดียวที่ใช้ 3 ระบบรักษาพยาบาล ทั้งหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และประกันสังคม จึงเกรงว่า การห้ามเบิกจ่ายยาสมุนไพรในระบบข้าราชการจะส่งผลต่อการเบิกจ่ายในระบบอื่นๆ ด้วย

“นายกรัฐมนตรีเองก็งงกับการออกแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการคลัง และจากการเข้าพบ นายกรัฐมนตรีแค่บอกว่าจะดูให้เท่านั้น ทั้งๆ ที่หนังสือที่ทางเครือข่ายยื่นไปนั้น ขอให้เลื่อนการบังคับใช้ออกไปก่อน” แกนนำเครือข่ายการใช้ยาสมุนไพรประเทศไทย กล่าว และว่า เรื่องนี้อาจมีผลประโยชน์บริษัทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหากเบิกจ่ายยาสมุนไพรนอก บัญชียาหลักไม่ได้ ซึ่งมีรายการมากกว่ายาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ผู้ป่วยต้องหันกลับไปใช้ยาแผนปัจจุบันแทน ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ต่อบริษัทยาในระยะยาว แถมยังเป็นการสกัดกั้นการวิจัยยาสมุนไพรด้วย

ขณะนี้ทางเครือข่ายจะอยู่ระหว่างการหารือกับนักกฎหมาย เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งจะทราบผลสรุปภายใน 2-3 วันนี้


ครม.สั่งยกเลิกห้ามเบิกยาสมุนไพรไม่มีกำหนด

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สธ.เผยครม.ตีกลับกรมบัญชีกลางทบทวนห้ามเบิกจ่ายยาสมุนไพร ไม่มีกำหนด ระบุสวนทางสนับสนุนยาสมุนไพรในประเทศ

นาย วิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประกาศกรมบัญชีกลาง ว่าด้วยระเบียบใหม่ของกระทรวงการคลังในการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาล ข้าราชการ โดยให้ยกเลิกการเบิกจ่ายยาสมุนไพรนอก บัญชียาหลักให้แก่ข้าราชการ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ว่า ประกาศดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ได้มอบให้กรมบัญชีกลางกลับไปทบทวนเรื่องดังกล่าว เพราะมองว่าการยกเลิกเบิกจ่ายยาสมุนไพรแก่ข้าราชการ สวนทางนโยบายสนับสนุนการใช้ยาสมุนไพรในประเทศ และการยกระดับให้การรักษาด้านแพทย์แผนไทยเป็นทางเลือกให้แก่คนไทยและทั่วโลก

ด้านเครือข่ายส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพรแห่ง ประเทศไทย มองว่า หากประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะทำให้ข้าราชการส่วนใหญ่ถูกปิดกั้นการรักษา เพราะประกาศดังกล่าวนอกจากห้ามไม่ให้ข้าราชการเบิกยาสมุนไพรแล้ว ยังห้ามเบิกการนวดบำบัดและห้ามสถานพยาบาลออกหนังสือรับรองกรณีใช้ยานอกบัญชี ยาหลักอีกด้วย ถือเป็นการเอื้อต่อธุรกิจยาแผนปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด 

view