สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ซี.พี.เสือปืนไวดึง ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดคลังนั่งที่ปรึกษาการเงิน-ลงทุน

จาก ประชาชาติธุรกิจ


ตามไปดู เส้นทางชีวิตของ ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดคลัง หลังเจอโศกนาฎกรรมถูกไล่ออกจากราชการ วันนี้ แหล่งข่าวหลายแหล่งยืนยันตรงกันว่า อดีตเทคโนแครตผู้ยิ่งใหญ่และฉลาดหลักแหลม ผันตัวเองเข้าไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทยักษ์ใหญ่ เรียบร้อยแล้ว !!

หลังจากนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่แทนนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ที่ถูกไล่ออกจากราชการฐานมีความผิดวินัยร้ายแรง
ชื่อของศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ก็ค่อยๆ หายไปจากแวดวงราชการและรัฐวิสาหกิจ
แต่ล่าสุด มีข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่า กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของเสี่ยธนินท์ เจียรวนนท์ ได้เทียบเชิญอดีตปลัดกระทรวงการคลังไปนั่งเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน เรียกว่า หลุดจากภาคราชการก็ไปนั่งภาคเอกชน
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในด้านธรรมาภิบาลของบริษัทขนาดใหญ่ แต่เสียงอีกด้านหนึ่งอ้างว่า คนมีฝีมือ ย่อมเป็นที่ต้องการของตลาด...เป็นธรรมดา ไม่เห็นแปลกในระบบทุนนิยม
และหากย้อนไปดูปรากฏการณ์เช่นว่านี้  จะพบว่าเป็นค่านิยมของ"บิ๊กข้าราชการไทย"ที่เกษียณ ปุ๊บ วันรุ่งขึ้นไปนั่งเก้าอี้ใหญ่ในบริษัทเอกชน ทันที
เป็น"วิน-วิน"ทั้งสองฝ่าย เอกชนก็ได้คนเก่งที่ยังมี คอนเนกชั่นในกระทรวง เพราะบิ๊กข้าราชการยังมีลูกน้องที่คอยซูฮก ไม่นับข้อมูลอินไซด์ในกระทรวง ขณะที่ บิ๊กข้าราชการ ก็ได้ค่าตอบแทนก้อนโต ไม่ต้องเหงาหลังวัย 60 ปี
  ย้อนกลับดูเส้นทางของ ศุภรัตน์  เอาเข้าจริง เรื่องราวความเป็นคนเก่งของศุภรัตน์ เป็นที่ยอมรับมาตั้งแต่เด็กๆ 
สมัย เป็นนักเรียน นายศุภรัตน์ถือว่าอยู่ในระดับท็อปๆ ของประเทศ โดยนายศุภรัตน์จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นต้นจากโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งใน จังหวัดอุทัยธานี แล้วเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผลการเรียนอยู่ในระดับติด 1 ใน 10 ของประเทศ 
ตอนสอบเอนทรานซ์ ติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนไปได้แค่ 1 เทอมก็ลาออก เพราะสอบชิงทุนของ ก.พ.จนได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ London School of Economics and Political Science ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก นายศุภรัตน์จึงจบปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์การเมืองที่นั่น และยังได้รับทุนจาก ก.พ.ให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่ Queen Mary College มหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ
หลังจากที่เรียนจบการศึกษาจากต่างประเทศ นายศุภรัตน์ก็ได้รับการบรรจุให้เป็นข้าราชการกองนโยบายและแผนภาษี จากนั้นในปี 2532 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการกองนโยบายภายใต้แรงผลักดันของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง
ผลงานของนายศุภรัตน์ที่เข้าตากรรมการมากที่สุดคือการปฏิรูประบบโครง สร้างภาษีสรรพากร โดยเปลี่ยนจากภาษีการค้าที่มีความซ้ำซ้อนมาเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้กันมา จนถึงปัจจุบัน จากนั้นกรมสรรพากรได้ส่งนายศุภรัตน์ไปศึกษาต่อในหลักสูตรระยะสั้นจนได้ ประกาศนียบัตรทางด้านภาษีซ้อนจากมหาวิทยาลัย Southern California และเข้ารับการอบรมในหลักสูตรบริหารชั้นสูงที่มหาวิทยาลัย Harvard ประเทศสหรัฐอเมริกา
พอปี 2543 นายศุภรัตน์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมสรรพากร และปี 2547 เป็นปลัดกระทรวงการคลัง และมาปิดฉากชีวิตราชการ โดย ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดขั้นร้ายแรง กรณีที่ไปแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากร 4 คน จากนั้นคณะกรรมการ อ.ก.พ.มีคำสั่งไล่นายศุภรัตน์ออกจากราชการ ถือเป็นโทษสูงสุด ซึ่งมีผลทำให้นายศุภรัตน์อดได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ และยังต้องคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดที่ได้รับ
คนเราเมื่อไม่ได้กล่อง ก็ควรใช้ความรู้ความสามารถ เมกมันนี่  เสียดีกว่า ?
ใครบางคนในกระทรวงการคลัง บอกว่า ถ้าช่วงชีวิต ศุภรัตน์ ไม่โคจรมาเจอ ทักษิณ ชินวัตร  เมื่อ 8 ปีที่แล้ว บางทีเขาอาจจะยังรักษาศีลไว้ได้ !!


อดีตปลัดคลัง ที่ปรึกษาซี.พี. ตั้ง"มูลนิธิแก้ว ควัฒน์กุล"ทำความดี แจกทุนการศึกษา ช่วยเหลือสังคม

จาก ประชาชาติธุรกิจ
  ก่อนหน้านี้ ประชาชาติออนไลน์ ได้นำเสนอ เส้นทางชีวิตของ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง หลังเจอโศกนาฎกรรมถูกไล่ออกจากราชการ  ได้เบนเส้นทางชีวิตไปสู่ภาคเอกชน โดยไปนั่งเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน ให้กับกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของเสี่ยธนินท์ เจียรวนนท์  ซึ่งข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมาก
   ล่าสุด จากการตรวจสอบกับกระทรวงมหาดไทย พบว่า  นายศุภรัตน์ ได้มอบหมายให้ นายวรวิทย์ เจนธนากุล และคณะ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิแก้ว ควัฒน์กุลที่จังหวัดอุทัยธานี อันเป็นจังหวัดบ้านเกิด
    ทั้งนี้  "มูลนิธิแก้ว ควัฒน์กุล" ที่มี นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ประธานกรรมการ  มีวัตถุประสงค์  เพื่อดำเนินการสาธารณประโยชน์ หรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่น ๆ เพื่อ
สาธารณประโยชน์   เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนและนักศึกษา  ส่งเสริมและสนับสนุนในการเผยแพร่พุทธศาสนา  บำรุง บูรณะ และปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน เป็นทุนภัตตาหาร การศึกษา และรักษาพยาบาลของพระภิกษุสามเณร  และไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการเมือง
   สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่เลขที่ ๓๒ ถนนบริรักษ์ ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอ เมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี  ทรัพย์สินของมูลนิธิ มีทุนเริ่มแรก คือเงินสด จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน)
  คณะกรรมการ ประกอบด้วย  นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ประธานกรรมการ นายวินัย วิทวัสการเวช รองประธานกรรมการ นางเสาวนีย์ กมลบุตร กรรมการ  นายวัฒนา ควัฒน์กุล กรรมการและเลขานุการ นายวรวิทย์ เจนธนากุล กรรมการและเหรัญญิก

view