จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

สนามบินสุวรรณภูมิฉาวอีกรอบ หลังบีบีซี แฉ กรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษขโมยของในดิวตี้ฟรีถูกจับได้ แต่มีการถูกรีดสินบนให้หลุดคดี ทำภาพลักษณ์เสียหาย “โสภณ” เต้นสั่ง ทอท.ล้อมคอก เพิ่มมาตรการ ประสานข้อมูลแจ้งสถานทูตทุกประเทศเรียกความเชื่อมั่น พร้อมเร่งติดกล้องวงจรปิดเพิ่มในเขตสายพานลำเลียงกระเป๋า หลังผู้โดยสารร้องกระเป๋าหาย ถูกกรีดขโมยของข้างในอื้อ ด้าน คิง เพาเวอร์ อ้างหลักฐานชัดขโมยจริงถึงแจ้งความ โบ้ยไม่รู้เรื่องเรียกสินบนเหตุเป็นขั้นตอนของตำรวจ ด้านตำรวจท่องเที่ยวแจงไม่เกี่ยวสินบน
       
       จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกดำเนินคดีข้อหา ลักทรัพย์จากร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และ นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงเทพฯ ได้เสนอข่าวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเป็นเหยื่อขบวนการต้มตุ๋นระหว่างสอบสวน และประกันตัว รวมถึงการร้องเรียนของผู้โดยสารเรื่องกระเป๋าสูญหาย และถูกกรีดขโมยทรัพย์สินภายใน
       
       วานนี้ (22 ก.ค.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจระบบสายพานลำเลียงสัมภาระผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและ พื้นที่ร้านค้าปลอดภาษีที่เกิดเหตุ โดยเปิดเปิดเผยภายหลังว่า กรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษขโมยสินค้าถูกจับกุมดำเนินคดี ได้ร้องเรียนสื่อต่างประเทศ ระบุว่า มีขบวนการต้มตุ๋นระหว่างสอบสวนและประกันตัว นั้น พบว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.จะต้องแจ้งไปยังสถานทูตของประเทศนั้นๆ ว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมทั้งต้องจัดที่พักรอเจ้าหน้าที่ประสานของประเทศ นั้น เพื่อความยุติธรรมโปร่งใส เพราะถือว่ายังอยู่ในพื้นที่ของ ทอท.
       
       นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทอท.จะต้องเพิ่มอีก 2 เรื่อง คือ ทำหนังสือไปยังสถานทูตต่างๆ ชี้แจงมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสร้างความมั่นใจ พร้อมทั้งให้ความร่วมมือในการที่ประเทศต่างๆ จะสามารถตรวจสอบข้อมูลกรณีที่พลเมืองของคนเองที่เข้ามาในประเทศไทยและถูก ดำเนินการกรณีลักทรัพย์
       
       ทั้งนี้ ในส่วนของ สายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระของสนามบินสุวรรณภูมิ มีระบบตรวจสอบที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ ทอท.เพิ่มมาตรการในการดูแลให้มากขึ้น เช่น เพิ่มกล้องวงจรปิดในจุดล่อแหลม มุมอับ มุมมืด จุดขนถ่ายระหว่าง สายพานลำเลียงกระเป๋ากับคอนเทนเนอร์ ที่น่าจะเกิดปัญหา และให้ความสำคัญกับงานที่ ทอท.ทำสัญญาให้บริษัทภายนอก (Outsource) เข้ามาดำเนินการ จะต้องเน้นบุคลากรที่มีคุณภาพ
       
       นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ยอมรับว่า ทอท.เป็นเพียงเจ้าของพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการจับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่สนามบิน เพราะกฎหมายกำหนดหน้าที่ไว้ชัดเจนเช่น กรณีเกี่ยวกับรถยนต์ เป็นอำนาจของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ทางคดีอาญาเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการกำกับดูแลพื้นที่ ทอท.ได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ทอท.สามารถดำเนินการจับกุมการ กระทำความผิดซึ่งหน้าได้ในบางกรณี ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ในส่วนของอำนาจเพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกับผู้ถือกฎหมายเดิม
       
       นอกจากนี้ ทอท.อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิด ในส่วนของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าเพิ่มอีก 327 จุด ในจุดที่เป็นมุมอับและล่อแหลม จากที่มีอยู่แล้ว 165 จุด ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552 นี้ ซึ่งจะทำให้มีกล้องวงจรปิดเพิ่มเป็น 492 จุด
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า การสูญหายของกระเป๋าผู้โดยสาร หรือถูกกรีดขโมยสิ่งของภายในมีเฉลี่ย วันเว้นวัน ซึ่งแต่ละสายการบิน จะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้โดยสารของตนเองในอัตราขั้นต่ำ 400 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 13,200 บาท ต่อกระเป๋า 1 ใบ ส่วนผู้รับบริการภาคพื้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิมี 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)และ บางกอกไฟลท์เซอร์วิสเซส (บีเอฟเอส) ซึ่งในส่วนงานนั้นจะมีการจ้างแรงงานภายนอกเข้ามาเป็น Sub Contract ด้วย ซึ่งในการควบคุมพนักงานค่อนข้างทำได้ยาก
       
       นายสมบัตร เดชาพานิชกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า กรณีมีการขโมยของในร้านค้าดิวตี้ฟรี เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบริษัทมีมาตรการดุแลโดยใช้กล้องวงจรปิด ซึ่งกรณีนักท่องเที่ยวอังกฤษ 2 คนขโมยของในร้านค้านั้น มีหลักฐานในกล้องวงจรปิดชัดเจน จึงมั่นใจจึงแจ้งความดำเนินคดี โดยตามระบบจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ ตำรวจท่องเที่ยว และฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ ทอท.เพื่อเป็นบุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นพยานในการดำเนินการเพื่อความยุติธรรม
       
       อย่างไรก็ตาม นายสมบัตร กล่าวว่า หลังจากแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกระบวนการดำเนินคดีเป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนว่าถูกเรียกสินบนนั้น ไม่ทราบข้อเท็จจริง
       
       สำหรับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2552 เวลา 22.30 น.พนักงานรักษาความปลอดภัยร้านดิวตี้ฟรี (DW-2 ) ชั้น 4 ฝั่งตะวันตก ของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งว่า กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อ Givenchy ราคา 6,700 บาท หายจากชั้นวาง 1 ใบ ตรวจจากกล้องวงจรปิดพบมีผู้ต้องสงสัย 2 คน จึงได้มีการประสานงานกับพนักงานรักษาความปลอดภัยดำเนินการติดตามจับกุม ซึ่งพบผู้ต้องสงสัยชายและหญิง ตามรูปพรรณที่พบในกล้องวงจรปิดนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน Eattion ชั้น 3 ฝั่งตะวันตก แต่แยกกันคนละโต๊ะ จึงได้ประสานไปยังตำรวจท่องเที่ยวเพื่อเข้าดำเนินการตรวจค้นผู้ต้องสงสัย หญิง แต่ไม่พบกระเป๋าที่ขโมยมา ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยชายเดินไปยังชั้น 2
       
       จากการติดตาม พบกระเป๋าที่ถูกขโมยไปถูกทิ้งในถังขยะหน้าห้องน้ำชายบริเวณเดียวกับที่ผู้ ต้องสงสัยชายเดินไป จึงควบคุมทั้ง 2 คนส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ
       
       นายสมบัตร กล่าวว่า บริษัทได้ทำคำชี้แจงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมถึงสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยและได้ชี้แจงรายละเอียดพร้อมภาพเหตุการณ์ วงจรปิด ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซด์ของบริษัท ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการกับผู้กระทำผิดกรณีลักทรัพย์ในร้านค้าต่างๆ นั้น เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและดำเนินการอย่างรัดกุม ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
       
       ตร.ท่องเที่ยวปฏิเสธไม่เกี่ยวสินบน
       
       พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวยืนยันว่า ตำรวจท่องเที่ยวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน วันเกิดเหตุ รปภ.ของร้านดังกล่าวเป็นผู้จับกุม และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ราชาเทวะ โดยไม่ได้ส่งตัวให้ตำรวจท่องเที่ยวตามขั้นตอน ทำให้เกิดช่องโหว่ เพราะหากถูกจับไม่ว่ากรณีใดต้องส่งตัวมาให้ตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งจะมีล่ามช่วยแปล ทำให้มีคนกลางเข้ามาล่อลวงหรือเรียกรับเงิน