จาก ประชาชาติธุรกิจ
กลยุทธ์ ซัพพลายเชนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรธุรกิจนานาประเภทต้องให้ความ สนใจ แต่ความเป็นจริงกลับพบว่ามีบริษัทเพียงกลุ่มน้อยเท่านั้นที่มีกลยุทธ์ ซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในองค์รวม
โดย ผลการสำรวจบริษัทจำนวน 105 บริษัทของโลจิสติกส์ บูโร (เอเชีย) พบว่า บริษัท 61% ไม่มีแผนกลยุทธ์ด้านนี้ และส่วนใหญ่เชื่อว่าบริษัทได้รับผลกระทบ ทางลบจากการขาดกลยุทธ์
ขณะที่บริษัทที่มีกลยุทธ์ซัพพลายเชน ก็ประสบปัญหาขาดการสื่อสารทำความเข้าใจในองค์กร ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ไม่ดีเหมือนที่วางแผนไว้
ใน การสัมมนาเรื่อง "การพัฒนายุทธศาสตร์ซัพพลายเชน" นายโรเบิร์ต ไอไบร์น กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท โลจิสติกส์ บูโร (เอเชีย) ชี้ว่า ปัจจัยที่ทำ ให้กลยุทธ์ซัพพลายเชนไม่ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ การขาดความเข้าใจ เป้าหมายของธุรกิจและความต้องการ ของลูกค้า ตลอดจนประเมินศักยภาพของ บริษัทสูงเกินความเป็นจริง ไม่สามารถ ดึงฝ่ายบริหารระดับสูงเข้ามาร่วมในการกำหนดและเดินหน้ากลยุทธ์
อีกทั้งขาดการสื่อสารภายในองค์กร และนอกองค์กรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ ทุกฝ่ายเข้าใจถึงความสำคัญ แนวทาง และเป้าหมายของซัพพลายเชน
และ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จึงได้แนะนำเคล็ดลับสู่ความสำเร็จที่บริษัทต่างๆ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนด กลยุทธ์ซัพพลายเชน โดยประเด็นสำคัญคือภาคธุรกิจต้องตระหนักว่าไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับกลยุทธ์ เพราะแต่ละธุรกิจมีความแตกต่างกัน ทั้งในแง่ของกลุ่มลูกค้า ประเภทธุรกิจ ลักษณะเฉพาะ และความซับซ้อนของบริการต่างๆ
ดังนั้นสิ่งที่ผู้ ประกอบธุรกิจจะต้องใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ซัพพลายเชน คือ มีความเข้าใจกลยุทธ์ของธุรกิจของตนเองอย่างชัดเจน และรู้จักกลุ่มลูกค้าอย่างทะลุปรุโปร่ง เพื่อออกแบบซัพพลายเชนให้สอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าว โดยธุรกิจจะต้องกำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการให้ชัดเจนก่อนวางแผนกลยุทธ์เพื่อให้ บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ตัวอย่าง เช่น สำหรับธุรกิจค้าปลีก เป้าหมายสำคัญคือการขายสินค้าคุณภาพราคาย่อมเยา ดังนั้นจึงต้องมีสินค้าอยู่ในสต๊อกเสมอ เพราะหากไม่มีปริมาณสินค้าเพียงพอและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ก็จะทำให้เสียลูกค้าให้กับคู่แข่ง
ทั้งนี้การออกแบบกลยุทธ์ซัพพลาย เชนก็ต้องตอบรับกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ ด้วยการควบคุมต้นทุนของซัพพลายเชนไม่ให้สูงเกินไป หรือในธุรกิจแฟชั่นที่อายุสินค้าบนชั้นจำหน่ายสั้นมาก เพราะต้องปรับเปลี่ยนตามฤดูแฟชั่น
ระบบซัพพลายเชนจะต้องมีความ ยืดหยุ่นและสามารถบริหารจัดการการซื้อขายที่รวดเร็วได้ ทั้งนี้การบริหารซัพพลายเชนที่ดีไม่ใช่เรื่องของคุณภาพคลังสินค้า แต่เป็นการเน้นที่ผลลัพธ์ที่ต้องการและเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากกว่า
นอก จากนี้ผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจและสามารถสร้างสมดุลระหว่างผลลัพธ์ต่างๆ ที่บริษัทต้องการ เพราะการมุ่งเน้นองค์ประกอบหนึ่งๆ ในซัพพลายเชนมากเกินไป อาจเป็นการเพิ่มต้นทุน หรือลดประสิทธิภาพขององค์ประกอบ อื่นๆ
ดัง นั้นบริษัทจะต้องสามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและเป็นรูปธรรม เช่น การหมุนเวียนของสินค้าในสต๊อก ต้องพิจารณาการสต๊อกสินค้า ตามระยะเวลาการวางจำหน่ายสินค้า อาทิ สินค้าแฟชั่นขายปลีกต้องการการหมุนเวียน มากกว่าสินค้าทั่วไป
และหาก ต้องการให้กลยุทธ์มี ประสิทธิภาพจำเป็นต้องดึงให้ผู้บริหาร ระดับสูง และตัวแทนจากทุกแผนกที่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนกลยุทธ์ จากนั้นจำเป็นต้องมีการสื่อสารทำความเข้าใจ ฝึกอบรม พนักงาน
เพื่อช่วยให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจถึงความสำคัญของซัพพลายเชน และสามารถร่วมดำเนินให้บรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ