สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เอกสารทางกฎหมาย กับบริษัทธุรกิจครอบครัว/คอลัมน์หน้าต่างบานแรก

จาก โพสต์ทูเดย์
รายงานโดย :กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์

ประธานกรรมการ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่:


ผู้อ่านได้ทราบแล้วว่ารูปแบบของบริษัทครอบ ครัวที่ดีที่สุดคือบริษัทจำกัด การจัดสรรหุ้นให้แก่สมาชิกในครอบครัวก็มีความสำคัญ เพราะบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้แต่งตั้งหรือคณะกรรมการและกำกับดูแลการบริหาร จัดการธุรกิจต่อไป

ผู้เขียนได้เขียนถึงการจัดสรรหุ้นมาแล้ว เพราะการดำเนินการ ในเรื่องบริษัทครอบครัว ไม่ว่าการแต่งตั้งกรรมการ การอนุมัติ เรื่องสำคัญก็จะต้องผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และเอกสารที่สำคัญ ของการบริหารจัดการบริษัทก็คือ “ข้อบังคับ” ของบริษัทซึ่งได้จดทะเบียนไว้กับกระทรวงพาณิชย์ และเป็นเอกสารมหาชนที่ใครๆ ก็ตรวจสอบได้

ผู้เขียนได้เคยพยายามไปค้นหาข้อบังคับของครอบครัว ตระกูลใหญ่ๆ ในประเทศไทยว่า มีตระกูลใดบ้างที่จัดทำข้อบังคับ ของบริษัทครอบครัวไว้รอบคอบและรัดกุมไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ การขจัดหรือระงับข้อพิพาทการส่งผ่านธุรกิจ แต่แทบจะหา ไม่ได้เลย...

ส่วนใหญ่ก็จะเจอแต่ข้อจำกัดในการโอนหุ้น ผู้เขียนเลยต้องจัด ทำร่างขึ้นเองให้กับหลายครอบครัว แต่ก่อนจะไปทำความเข้าใจเรื่อง ข้อบังคับบริษัท

ผู้เขียนขอเรียนว่าเอกสารทางกฎหมายที่มีความสำคัญของธุรกิจครอบ ครัวมีมากกว่าข้อบังคับ วัตถุประสงค์ในการจัดทำเอกสารทางกฎหมายของธุรกิจครอบครัวคงมีหลายประการต่อ ไปนี้

(1)       เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์แนวทางการบริหารจัดการของบริษัทครอบครัวให้เป็นไปตามกฎหมายและมืออาชีพ

(2)       เพื่อกำหนดมาตรการการถ่ายโอนความเป็นเจ้าของ การถ่ายโอนอำนาจในการบริหารจัดการของสมาชิกในครอบครัวให้เป็นไปได้ด้วยดีโดย ความเห็นชอบ และไม่มีความขัดแย้งและด้วยความพร้อมใจของสมาชิกในครอบครัว

(3)เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการระงับข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งระหว่าง สมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้บริหาร กรรมการ และผู้ถือหุ้นได้ชัดเจนและเป็นธรรม...

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการ การแข่งขันและจัดสรร ผลประโยชน์ การถ่ายโอนอำนาจ โดยหลีกเลี่ยงการฟ้องร้องคดี ให้สามารถตกลงกันเองได้อย่างสันติโดยกระบวนการเจรจาต่อรอง ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม แทนที่ต้องนำข้อพิพาทไปสู่ศาลและล่วงรู้ต่อสาธารณชนซึ่งย่อมกระทบต่อชื่อ เสียง ฐานะการเงินของธุรกิจครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เหตุผลหลักใหญ่ที่ธุรกิจครอบครัวไม่สามารถเจริญได้อย่างยั่งยืน ส่วนใหญ่ก็คือเรื่องข้อพิพาทกัน และก็มักจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์และการบริหารจัดการและการถ่ายโอนอำนาจของ สมาชิกในครอบครัว

ดังนั้น เอกสารกฎหมายที่สำคัญของธุรกิจครอบครัวจึงจะต้องได้รับการพิจารณาอย่าง ละเอียดครบถ้วนตั้งแต่การจัดตั้งธุรกิจครอบครัวโดยเฉพาะข้อบังคับ หากใครจดทะเบียนตั้งไปแล้วก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข

ผู้เขียนเห็นว่าเอกสารทางกฎหมายที่สำคัญมี 4 ประเภท คือ       

(1)       ข้อบังคับของบริษัท ซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับแรก ข้อบังคับของบริษัทที่ดีจะขจัดปัญหาข้อพิพาทได้ โดยข้อบังคับนั้นจะต้องให้สอดคล้องกับครอบครัวแต่ละครอบครัวไป ไม่ควรใช้ข้อบังคับที่เป็นมาตรฐานปกติของกระทรวงพาณิชย์หรือตามกฎหมายแพ่ง ว่าด้วยบริษัท

(2)       สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) แต่บางครอบครัวอาจไม่ต้องการเปิดเผยรายละเอียดบางอย่าง เช่น สิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งไม่อาจจะให้กำหนดไว้ในข้อบังคับ หรือไม่ต้องการเปิดเผยแก่บุคคลภายนอก รวมทั้งขั้นตอนการระงับข้อพิพาทที่ไม่อยากเปิดเผยก็ควรมีสัญญาระหว่างผู้ถือ หุ้น แต่ให้ผู้ถือหุ้นมีการลงนามรับทราบเงื่อนไขทุกคน และบทบาทของสมาชิกในครอบครัวที่ไม่ได้ลงนามก็ไม่ผูกพัน

(3)       พินัยกรรม เจ้าของธุรกิจครอบครัวจะต้องมีการจัดทำพินัยกรรมกันให้เรียบร้อยว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่จะตกเป็นของทายาทคนใดเพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาท อย่าถือว่าเป็นการแช่ง เพราะเป็นกรณีการแบ่งสรรความเป็นเจ้าของ และทุกคนก็รู้ล่วงหน้า (ซึ่งผู้เขียนจะได้เขียนถึงแนวทางการทำพินัยกรรมให้ทราบต่อไป)

(4)       ธรรมนูญครอบครัวหรือข้อพึงปฏิบัติ (Code of Conduct) สำหรับสมาชิกในครอบครัวนั้น ส่วนใหญ่ใช้กับครอบครัวขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมในต่างประเทศ โดยเอกสารจะกำหนดว่าควรจะ มีวิธีการบริหารจัดการอย่างไร มีเจตนารมณ์ เป้าประสงค์ ปรัชญา ผลประโยชน์ที่จะจัดสรรในสมาชิกในครอบครัวจะจัดสรรอย่างไร ข้อกำหนดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อจะได้ให้สมาชิกในครอบครัวเป็นแนว ทางปฏิบัติที่ถูกต้องและเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ

ไว้ฉบับหน้าเรามาดูความสำคัญของการกำหนดข้อบังคับของบริษัทครอบ ครัว หรือบริษัทโฮลดิงกันต่อไปนะครับว่าจำเป็นแค่ไหน และควรกำหนดอย่างไร

view