สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทุ่ม3หมื่นล.รับกองทุนชรา

จาก โพสต์ทูเดย์


“กรณ์” เดินหน้าตั้งกองทุนการออมเพื่อวัยชรา กวาดแรงงานนอกระบบร่วม กินบำนาญยามแก่เฒ่า เผยเข้า 100% รัฐสมทบ 2.29 หมื่นล้านบาท
กรณ์ จาติกวณิช
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอการจัดตั้งกองทุนการออมเพื่อชราภาพ (กอช.) เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 โดยกองทุนดังกล่าวจะมีรูปแบบการทำงานคล้ายกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งจะมีการบริหารให้เกิดดอกผล โดยรัฐจะประกันผลตอบแทนขั้นต่ำไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี

เนื่องจากในปีหน้าจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องจัดตั้งกองทุนกอช. ขึ้นมาเพื่อรองรับ ผู้ทำงานนอกระบบประกันสังคม

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการช่วยเหลือให้แรงงานนอกระบบที่มีอยู่ถึง 24 ล้านคน มีระบบการออมเพื่อรองรับวัยเกษียณอายุ

สำหรับรูปแบบการออมเพื่อการเกษียณอายุ จะให้สิทธิแก่ประชาชน โดยเฉพาะแรงงานที่อยู่นอกเหนือระบบประกันสังคม และระบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ให้มีระบบบำนาญ เพื่อเป็นเครื่องมือดูแลคุณภาพชีวิตยามชรา อีกทั้งสร้างความเท่าเทียม และเป็นธรรมจากการดูแลของภาครัฐ และเป็นการให้แรงงานมีรายได้หลังวัยเกษียณขั้นพื้นฐาน รวมถึงยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ กองทุนการออมเพื่อชราภาพกำหนดสัดส่วนการออมเงินตามช่วงอายุ โดยอายุ 20-31 ปี จะต้องออมเงินเดือนละ 100 บาท รัฐบาลสมทบให้อีก 50 บาท เมื่อเกษียณอายุจะมีรายได้ต่อเดือน 3,260 บาท

ช่วงอายุ 31-50 ปี จะต้องออมเงินเดือนละ 250 บาท รัฐบาลสมทบอีก 80 บาท เมื่อเกษียณอายุจะมีรายได้ต่อเดือน 2,042 บาท

ช่วงอายุ 51-60 ปี จะต้องออมเงินเดือนละ 500 บาท รัฐบาลสมทบอีก 100 บาท เมื่อเกษียณจะมีรายได้ต่อเดือน 576 บาท

ทั้งนี้ รายได้ต่อเดือนดังกล่าวนี้ยังไม่รวมเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอีกเดือนละ 500 บาท ที่จะได้จากรัฐบาล

แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การจัดตั้งกองทุนการออมเพื่อชราภาพนั้น หากมีผู้เข้าระบบกอช. ครบ 100% ตามที่สำรวจไว้ รัฐบาลจะมีภาระสมทบปีแรกจำนวน 2.29 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.27% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หากประชาชนเข้าร่วมการออมในระบบ 80% รัฐบาลจะต้องสมทบจำนวน 1.83 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.22% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และหากประชาชนเข้าระบบแค่ 30% รัฐบาลจะต้องจัดสรรเงินสมทบ 6,887 ล้านบาท คิดเป็น 0.08% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นายกรณ์ กล่าวยืนยันว่า ต้องการผลักดันให้กองทุนกอช. เกิดขึ้นจริง จึงต้องการให้ผ่านครม. ในเดือนก.ย.นี้ และจะส่งให้รัฐสภาพิจารณาโดยเร็วหากไม่มีเหตุพลิกล็อกทางการเมือง ซึ่งมั่นใจว่าครม. จะอนุมัติร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการสร้างหลักประกันชีวิตให้กับประชาชนคนไทยทุกคน

view