จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สทศ.ผิดหวังเด็กไทย สอบGAT/PAT 2 ครั้ง คะแนนไม่กระเตื้อง โดยเฉพาะด้านคณิต-วิทย์ สถาปัตย์แผ่วลง เผยเด็กสอบGAT ได้ 0 คะแนน 8,000 คน

วานนี้ (15 ส.ค.) ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) แถลงข่าวผลการสอบความถนัดทั่วไป หรือGAT และความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ หรือPATครั้งที่ 2 เดือนก.ค.2552 เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2552 หลังเวลา 24.00 น. ผ่านเว็บไซต์ สทศ.www.niets.or.th ว่าในการสอบครั้งที่ 2 นี้ มีผู้เข้าสอบทั้งหมดประมาณ 360,000 คน ซึ่งมีผู้ขาดสอบประมาณ 10 -20 % โดยผลสอบคะแนนสูง- ต่ำในแต่ละวิชา พบว่า GAT คะแนนสูงสุด 287.50 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 1 สูงสุด 300 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนนPAT 2 สูงสุด 235 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 3 สูงสุด 260 คะแนน ต่ำสุด 5 คะแนน PAT 4 สูงสุด 189 คะแนน ต่ำสุด 3 คะแนนPAT 5 สูงสุด 219 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 6 คะแนนสูงสุด 168 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนนPAT 7 ความถนัดทางด้านภาษาต่างประเทศ โดยแยกออกเป็น PAT 7.1 สูงสุด 261 คะแนน ต่ำสุด 3 คะแนน PAT 7.2 สูงสุด 273คะแนน ต่ำสุด 36 คะแนน PAT 7.3 สูงสุด 294 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 7.4 สูงสุด264คะแนน ต่ำสุด 3 คะแนน PAT 7.5 คะแนนสูงสุด 296.25 คะแนน ต่ำสุด 48.75 คะแนน และ PAT 7.6 สูงสุด 186 คะแนน ต่ำสุด 51 คะแนน

ขณะที่คะแนนเฉลี่ยต่ำ-สูง การสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 1 เดือนมี.ค. พบว่า GAT คะแนนสูงสุด 290 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 1 สูงสุด 300 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 2 สูงสุด 254.50 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 3 สูงสุด 240 คะแนน ต่ำสุด 5 คะแนน PAT 4 สูงสุด 225 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 5 สูงสุด 222 คะแนน ต่ำสุด 38 คะแนน PAT 6 สูงสุด 165 คะแนน ต่ำสุด 18 คะแนน PAT 7 โดยแยกออกเป็น PAT 7.1 สูงสุด 270 คะแนน ต่ำสุด 30 คะแนน PAT 7.2 สูงสุด 288 คะแนน ต่ำสุด 39 คะแนน PAT 7.3 สูงสุด 294 คะแนน ต่ำสุด 0 คะแนน PAT 7.4 คะแนนสูงสุด 291 คะแนน ต่ำสุด 27 คะแนน PAT 7.5 สูงสุด 277 คะแนน ต่ำสุด 41 คะแนน และPAT 7.6 สูงสุด 279 คะแนน ต่ำสุด 45 คะแนน

"สทศ.ได้ทำการเปรียบเทียบคะแนนครั้งที่ 1 นั้น ทำให้เห็นได้ชัดว่าค่าเฉลี่ยในครั้งที่ 2 สูงขึ้น แต่ถ้าดูคะแนนภาพรวมยังไม่แตกต่างกันมาก  แต่ที่น่าสังเกตคะแนนทางด้านคณิตศาสตร์ -วิทยาศาสตร์ ครั้งที่ 2 เช่น PAT2ความถนัดทางด้านวิทยาศาสตร์ PAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรม รวมทั้งในส่วนของGAT ตอน 1 การคิด วิเคราะห์ เชื่อมโยง และตอนที่2 ความถนัดทางภาษาอังกฤษ ครั้งแรกมีผู้สอบได้คะแนนเต็ม 1,247 คน แต่ครั้งที่ 2 กลับมีเด็กที่สอบได้ 0 คะแนนทั้ง 2 ตอน สูงถึง 8,000 คน จากผู้เข้าสอบGAT ทั้งหมด 295,141 คน และภาษาต่างประเทศ อย่างฝรั่งเศส จีน คะแนนของเด็กก็ต่ำลงด้วย ทั้งๆ ที่คาดว่ายิ่งสอบมาก คะแนนน่าจะสูงขึ้น ซึ่งทางสทศ.จะทำการวิเคราะห์ต่อไปถึงสาเหตุของการสอบที่ยิ่งสอบมากครั้ง ทำไมเด็กถึงได้คะแนนน้อยลง"ผอ.สทศ. กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนที่ต้องการดูกระดาษคำตอบ หรือขอผลคะแนน สามารถติดต่อยื่นคำร้องที่ สทศ.อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 35 ได้ตั้งแต่วันที่ 24-30 ส.ค.2552 นี้ โดยเสียค่าใช้จ่าย 20 บาท ซึ่งสทศ.จะดำเนินการนัดวันมาดูกระดาษคำตอบ คาดว่าน่าจะตรงกับเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไม่ให้เด็กต้องหยุดเรียน

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวต่อไปว่า กรณีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยในการไม่ให้คะแนนนร.ที่เดาข้อสอบนั้น สทศ.ยังคงยืนยันตามเดิม ว่านร.ที่เดาข้อสอบ โดยการทิ้งดิ่ง ไม่ควรมีโอกาสได้คะแนน เพราะการสอบต้องสามารถวัดคุณภาพของนักเรียนได้จริง และข้อสอบต้องวัดการอ่านของเด็กได้ เนื่องจากตอนนี้เด็กไทยอ่านน้อยลง ส่วนที่โรงเรียนกวดวิชากล่าวอ้างว่าข้อสอบครั้งแรก ง่ายกว่าครั้งที่ 2 ขอยืนยันว่าข้อสอบGAT-PAT ไม่ว่าจะครั้งไหน ต่างเป็นข้อสอบที่มีมาตรฐานเดียวกัน ยากง่ายไม่แตกต่างกัน ซึ่งหากโรงเรียนกวดวิชาต้องการติว GAT-PATให้เด็ก อยากให้เน้นฝึกการอ่าน คิด วิเคราะห์

ทั้งนี้ ส่วนขอเรียกร้องของอนุกรรมาธิการการศึกษา(กมธ.) ที่ให้มีการลดค่าสมัคร สทศ.คงไม่สามารถลดได้ เพราะขณะนี้ขาดทุนอยู่แล้ว อีกทั้งรัฐบาลไม่ได้ให้งบประมาณในการดำเนินการ และเด็กไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชา เพียงแต่ครูแนะแนวในโรงเรียนต้องช่วยแนะนำ และค้นหาอาชีพคณะที่เด็กอยากจะเรียน

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวอีกว่าขณะนี้ สทศ.ได้นำข้อสอบ PAT โดยให้นิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับPAT มาสอบเพื่อนำคะแนนมาเทียบกับผู้เข้าสอบม.5และม.5-ม.6 คาดว่าทราบผลสัปดาห์หน้าอย่างไรก็ตาม สำหรับการสอบGAT/PAT ครั้งที่ 2 นักเรียนที่สทศ.จะไม่ประกาศผลให้ ได้แก่ นร.ที่ระบายกระดาษคำตอบด้วยดินสอ 2 คน นักเรียนที่ทุจริตโดยนำมือถือเข้าห้องสอบ และนักเรียนที่ขาดสอบ ทั้งในรอบพิเศษ และรอบปกติ แต่ในส่วนของรอบพิเศษนั้น สทศ.จะทำการติดตามถึงเหตุผลที่นร.ไม่มาสอบต่อไป คาดว่าน่าจะรู้ผลภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม การประกาศผลGAT/PAT ครั้งที่ 2 ไม่มีกรณีเว็บล่ม เนื่องจากมีเด็กที่สนใจผลสอบจริงๆ เพียง 10 % เท่านั้น อีกทั้งคาดว่า ครั้งที่ 3 เดือนต.ค.นี้ น่าจะมีนร.มาสมัครสอบเพิ่มขึ้น