คลอดร่างกฎหมายคุ้มครองที่ดินเกษตร อำนาจเบ็ดเสร็จเพิกถอนสิทธิที่ดินนอมินี
“คณะกรรมการมีหน้าที่กำหนดนโยบายเกี่ยวกับกำหนดเขตคุ้มครองพื้นที่ เกษตรกรรม การป้องกันการถือครองที่ดินจากคนต่างด้าวและนายทุน ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งสามารถดูแลที่ดินของตนเองได้” นายนิกร กล่าว
นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในเดือนก.ย. เพื่อขอความเห็นจากรัฐสภาออกเป็นกฎหมายโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องปัญหาการถือครองพื้นที่เกษตรกรรมของคนต่างชาติโดยผ่านตัวแทนชาว ไทยมีปรากฏแล้วในหลายพื้นที่
“ร่างกฎหมายนี้นอกจากการนิยามคำว่านอมินีแล้ว กฎหมายจะลงไปตรวจสอบถึงในลักษณะการแต่งงานกับคนไทยทั้งจดทะเบียนสมรส และไม่จดทะเบียนสมรส เมื่อไปซื้อที่ดินจะต้องมีการสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และคณะกรรมการ คุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมจังหวัด ร่วมสอบสวนด้วยอย่างเข้มงวดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งทุกกรณีที่มีลักษณะเข้าข่ายถือครองแทนคนต่างด้าวพบพฤติกรรมเป็นนอมินีจะ ต้องถูกเพิกถอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทันที” นายธวัชชัย กล่าว
นายธวัชชัย กล่าวด้วยว่า พื้นที่ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิแล้วนั้น คณะกรรมการ คุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมมีอำนาจในการจัดซื้อที่ดินแปลงนั้นได้ทันที โดยกำหนดราคาไม่เกินราคาประเมินของกรมธนารักษ์ โดยผู้ถือครองไม่มีสิทธิในการยื่นอุทธรณ์ หรือฎีกาใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้หากผู้ครอบครองที่ดินรายใดไม่ต้องการทำการเกษตรก็จะดำเนินการเข้า ไปจัดซื้อเพื่อนำมาจำหน่ายแก่เกษตรกรต่อไป
แฉ3พฤติกรรมตปท.ฮุบที่นาไทย
จาก โพสต์ทูเดย์อลงกรณ์ แฉ 3 พฤติกรรมต่างชาติเข้าครอบครองที่นาไทย
ดันกม.ป้องนอมินีฮุบที่นา คุมซื้อ-ขายที่ดินเขตคุ้มครอง
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ก.เกษตรฯ คลอดร่างกฎหมายการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม วางกรอบให้เกษตรกรรู้จักบำรุงรักษา ดูแลซื้อขายที่ดิน ควบคุมการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์
นายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างการยกร่างกฎหมายการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม โดยมีนายธวัชชัย สำโรงวัฒนา รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานคณะทำงานศึกษาและยกร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม พ.ศ. ....
ขณะนี้ร่างแรกของกฎหมายเสร็จแล้ว โดยมีหลักการให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งเหตุผลในการยกร่าง เนื่องมาจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่ดินจึงเป็นปัจจัยสำคัญและเป็นรากฐานของการผลิตทางการเกษตร จึงจำเป็นต้องบำรุงรักษา และฟื้นฟูดิน รวมทั้งพัฒนาให้เหมาะสมแก่การประกอบการเกษตรได้อย่างยั่งยืนและนำไปสู่การ เป็นครัวของโลก
ประกอบกับผลของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้มีการนำที่ดิน ที่เหมาะสมกับการเกษตรไปใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ หรือเป็นเจ้าของที่ดินแทนคนต่างด้าว ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และความเป็นอยู่ของเกษตรกร อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมในลักษณะที่เป็นองค์รวม ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกษตรกรสูญเสียที่ดิน อันจะมีผลต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ตลอดจนดูแลการซื้อขายที่ดินในเขตคุ้มครอง เพื่อควบคุมการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ด้านเกษตรกรรมอย่างเต็มที่
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้มีคณะกรรมการการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมกลาง โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน และส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ มีหน้าที่กำหนดนโยบายเกี่ยวกับกำหนดเขตคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม การป้องกันการถือครองที่ดินจากคนต่างด้าวและนายทุน
รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง สามารถดูแลที่ดินของตนเองได้ และกำหนดให้มีกองทุนเพื่อการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ให้เกษตรกรกู้ยืมไปใช้ในการลงทุนพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส่งเสริม ดำรง และสนับสนุนยุวเกษตรกรและเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง อนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาพื้นที่เกษตรกรรม และดำเนินการอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย ตามที่คณะกรรมการกำหนด นอกจากนี้ หากมีกรณีที่คนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดิน กฎหมายฉบับนี้จะมีกลไกในการนำที่ดินดังกล่าวกลับคืนมา โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจในการจัดซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวคืน ในราคาที่กำหนดได้ในทันที
การพิจารณายกร่างกฎหมายการคุ้มครองที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมดังกล่าว จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยกร่างกฎหมายการคุ้มครองพื้นที่ เกษตรกรรมที่มีนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร่งด่วนต่อไป