สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

หมอพรทิพย์ พิสูจน์ชัดเจนคลิปเสียงนายกฯถูกตัดต่อถึง 62 ครั้ง!

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“หมอพรทิพย์” พร้อมอาจารย์จากเทคโนพระจอมเกล้าธนบุรี ตรวจพิสูจน์คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีแล้ว พบว่า มีการตัดต่อถึง 62 ครั้ง และยังพบว่า มีการนำเสียงจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 มาตัดต่อ

       
       วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายสมโชค บุญกำเนิด รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับ ดร.วชิรศักดิ์ วานิชชา รศ.ดร.นิพนธ์ เจริญกิจการ อาจารย์คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และ ดร.สันติธรรม พรหมอ่อน อาจารย์คณะวิศวคอมพิวเตอร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แถลงข่าวการพิสูจน์คลิปตัดต่อเสียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริง
       
       พญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าวว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้ประสานผ่านมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าว ว่า มีการตัดต่อหรือไม่ จากนั้นจึงประสานไปยังสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านไอที ให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว และจากการตรวจสอบของอาจารย์ทั้ง 3 ท่านโดยใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ไฟล์ตัดต่อเสียง ชื่อโปรแกรม AUDACITY พบว่า คลิปดังกล่าวมีคลื่นเสียงดังไม่ต่อเนื่อง มีช่วงที่หยุดเงียบ ตะกุกตะกัก ทั้งหมด 62 ช่วง แต่หากเป็นเสียงออริจินอล ที่ไม่ได้ตัดต่อเสียง ก็จะต้องได้ยินเสียงแบ็กกราวด์ หรือเสียงสิ่งแวดล้อมดังต่อเนื่องกัน จะไม่มีช่วงหยุดเงียบเหมือนไฟล์เสียงตัดต่อ
       
       พญ.คุณหญิง พรทิพย์ กล่าวต่อว่า แม้หูของมนุษย์จะฟังคลิปดังกล่าวเหมือนเสียงดังต่อเนื่องกัน ไม่พบความผิดปกติอะไร แต่เมื่อใช้โปรแกรมดังกล่าว ก็ตรวจพบว่า มีช่วงเงียบที่เกิดจากการตัดต่อถึง 62 ช่วง ดังนั้น เทคโนโลยีดังกล่าวจึงสามารถพิสูจน์ยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่า คลิปเสียงมีการตัดต่ออย่างแน่นอน นอกจากนี้ จากข้อเท็จจริงที่ว่าการพูดของคนเราในแต่ละครั้ง จะไม่เหมือนกัน เมื่อคณะอาจารย์จากเทคโนฯบางมด ได้ทำการตรวจสอบคำพูดทั้งหมดที่ปรากฏภายในคลิปดังกล่าว พบคำว่า “พัทยาเนี่ย” เมื่อค้นหาดูจึงพบว่าตรงกับประโยคที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดในรายการเชื่อมั่น ประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 ที่มีการนำมาใช้ในการตัดต่อเสียงในครั้งนี้ด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ได้พิสูจน์ว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือไม่ และมาจากต้นตอไหน ทราบเพียงข้อมูลว่าเป็นไฟล์เสียงที่มีการตัดต่อแล้วเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องสืบหาที่มาของคลิปดังกล่าวต่อไป


"มาร์ค"ยัวะเอาผิดคลิปเสียงตัดต่อสั่งสลายม็อบ แฉคนเผยแพร่เครือข่ายบริษัทอดีตนายกฯ


จากประชาชาติธุรกิจ
"มา ร์ค"ยัวะคลิปเสียงตัดต่อสั่งสลายม็อบ เรียก"พัชรวาท"เข้าพบ จัดการเอาผิดคนเกี่ยวข้อง ชี้หลายคนที่เผยแพร่เกี่ยวข้องกับบริษัทอดีตนายกฯ "ศิริโชค"รีบโชว์กราฟพิสูจน์ บอกเหมือนกับตัดแปะ ปูด"อดิศร"เปิดคนแรกใน"พีทีวี" "จตุพร"โบ้ยไม่เกี่ยว ให้ถามทหาร-คนในรัฐบาล


"มาร์ค"โวยคลิปตัดต่อเสียง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ประกาศเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่ทำและส่งต่อคลิปเสียงที่มีถ้อยคำลักษณะสั่ง ให้ยั่วยุผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าเป็นการใช้วิธีการสกปรก ตัดต่อให้ประชาชนเข้าใจผิด หวังให้เกิดความวุ่นวาย ความรุนแรงต่อบ้านเมือง เนื่องจากไม่เคยพูดในลักษณะดังกล่าว และไม่เคยต้องการที่จะเห็นการทำร้ายใดๆ
ทั้งนี้ คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการตัดต่อเสียงนายอภิสิทธิ์ดังกล่าวมีความยาว 3.41 นาที ระบุว่าเป็นการประชุมลับที่บ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ในค่ายทหาร กองพันทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (พัน 1 รอ.) ก่อนที่จะนำไปสู่การสลายการชุมนุมในเช้าวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา มีถ้อยคำโดยสรุปทำนองว่า นายอภิสิทธิ์สั่งการให้ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบกับผู้ชุมนุม และให้ใช้อาวุธเข้าคลี่คลาย ให้วางแผนสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดสภาพของความโกลาหลทั่วไป โดยอ้างว่าแกนนำผู้ชุมนุมได้มีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้เป็นเครื่องมือเจ้าหน้าที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"ผมก็อยากให้ท่านสร้างสถานการณ์ต่างๆ ทำให้มีภาพผู้ชุมนุมเอาปืนไปยิงใส่กลุ่มคนที่มาต่อต้านผู้ชุมนุม ซึ่งพอเหตุการณ์มันลุกลามปั๊บ เราประกาศใช้ พ.ร.ก.มันก็จะได้รับการยอมรับบทบาทและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากว่ามีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลังจากที่มีปฏิบัติการต่างๆ ในเรื่องของทหาร พวกเราทุกคนต้องพยายามที่จะปกปิดการให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ ของเจ้าหน้าที่" เสียงในคลิประบุ และว่า ถ้ามีสถานีไหนได้มีส่วนที่เสนอความรุนแรงจากภาครัฐ ขอให้เจ้าหน้าที่ไปปิดสถานีวิทยุ โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียงทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปเสียงดังกล่าวฟังแล้วไม่น่าเชื่อถือนัก เพราะดูจงใจที่จะให้เกิดความไม่สงบขึ้น ซึ่งคนปกติจะไม่พูดเช่นนั้น
ลั่นดำเนินคดีทางกฎหมาย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ฟังดูแล้วก็รู้ว่าเป็นเสียงของตนจริงๆ แต่เสียงข้างหลังและระดับเสียงไม่เท่ากัน เพราะไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อ "ขอยืนยันว่านโยบายที่ผมใช้ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมความไม่สงบต่างๆ อยู่บนหลักของกฎหมายในการเคารพสิทธิเสรีภาพอย่างชัดเจน และไม่เคยต้องการที่จะเห็นการทำร้ายใดๆ ทั้งสิ้น ผมไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีการใช้วิธีการที่สกปรก เป็นวิธีการที่ล่อแหลมที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายความรุนแรงต่อบ้านเมือง ซึ่งผมก็จะดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ทำ"
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความผิดด้านคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเป็นการใช้เทคโนโลยีการตัดต่อและเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ส่วนคนที่ส่งคลิปเสียงต่อๆ กันไป แม้บางคนจะไม่มีเจตนา แต่การส่งคลิปเสียงต่อๆ กันไปก็จะมีความผิดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะชี้แจงกับประชาชนอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ขอบคุณสื่อที่ให้โอกาสผมชี้แจงเบื้องต้น ซึ่งจะทำอย่างต่อเนื่องและเมื่อพิสูจน์ได้หลายคนต้องรับผิดชอบ เพราะพอทราบมาเหมือนกันว่า หลายคนที่เผยแพร่มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง อยู่กับเครือข่ายบริษัทของอดีตนายกฯอยู่บ้าง และมีที่อยู่ของคนที่ปล่อยเป็นคนแรกอยู่แล้ว แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย" เมื่อถามว่า จะมีการจับคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าจับได้ก็ยิ่งดี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม
"สาทิตย์" จี้" ไอซีที"เอาผิด
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทันทีที่เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ได้เดินเข้าห้องทำงานของผู้สื่อข่าวเพื่อขอฟังคลิปเสียงดังกล่าวที่มีความ ยาวประมาณ 5 นาที โดยนายสาทิตย์ได้ฟังอย่างตั้งใจ และกล่าวขึ้นตอนหนึ่งว่า "ตัดต่อได้ร้ายมาก"
ภายหลังการฟังจบ นายสาทิตย์กล่าวว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกฯแล้ว นายกฯบอกว่าได้ฟังแล้วเช่นกัน และได้สั่งให้ไปพิสูจน์เสียงแล้ว จึงสามารถดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่คลิปนี้ไม่ว่าจะเป็นการฟอร์ เวิร์ดเมล หรือไปเปิดบนเวที เพราะเข้าข่ายความผิดทางประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
"เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไม่เพียงกระทบต่อตัวนายกฯเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อความมั่นคงของประเทศด้วย โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ต้องจัดการกับเรื่องนี้" นายสาทิตย์กล่าว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องตลกและเป็นตลกร้าย มั่นใจว่าประชาชนทั่วประเทศมีวิจารณญาณสามารถวิเคราะห์ได้
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เจตนาของมือปล่อยคลิปออกมาในช่วงนี้ คงต้องการทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อตัวนายกฯ และชี้ให้เห็นว่านายกฯใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย โดยพยายามลดความน่าเชื่อถือของนายกฯลงเรื่อยๆ นั่นเป็นวิธีการของคนที่อยู่เมืองนอกสั่งการมา และมีส่วนเชื่อมโยงไปถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 30 สิงหาคมนี้ด้วย
"ศิริโชค"โชว์กราฟพิสูจน์เสียง
เวลา 16.00 น. นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ได้นำภาพกราฟคลื่นเสียง 2 แผ่น โดยแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงการพูดของคนปกติ และอีกแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงจากคลิปเสียงคล้ายนายกฯมาให้กับผู้สื่อ ข่าวดู พร้อมระบุว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป sonysound forg พบว่ามีการตัดต่อ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเสียงพูดของคนปกติทั่วไป กราฟคลื่นเสียงจะมีลักษณะเริ่มจากหัวเสียง หางเสียง และมีช่วงเว้นหายใจ แต่จากภาพกราฟคลื่นเสียงที่อ้างว่าเป็นของนายกฯ พบว่าเส้นกราฟคลื่นเสียงไม่มีหัวเสียง แต่เริ่มที่หางเสียงเลย มีลักษณะโดนหั่น มีรอยตัด และการเชื่อมต่อของเสียง จะไม่มีการเฟด เหมือนลักษณะแตงกวาเป็นชิ้นตอนเอามีดไปตัดเป็นแว่นๆ โดยเฉพาะช่วงที่สั่งให้ใช้ความรุนแรง จะเห็นชัดเจนว่าเริ่มที่ช่วงกลางเสียงเลย และไม่มีช่วงเว้นหายใจด้วย จึงเหมือนกับการตัดมาแปะเฉยๆ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้สามารถนำไปพิสูจน์ในศาลได้ด้วย เพราะเป็นการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์
"คนทำมีฝีมือพอใช้ได้ โดยคนฟังอาจคล้อยตาม แต่ถ้าดูคลื่นเสียงแล้วจะเห็นว่าตัดต่อแน่นอน ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อรัฐ สามารถนำไปก่อจลาจลได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะหาคนผิดมาลงโทษได้" นายศิริโชคกล่าว
อนุฯสอบเหตุการณ์ดินแดงได้ที ขอสอบคลิป
ด้านคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์บริเวณดินแดง ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ที่มี พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้นัดประชุมที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.30 น. เพื่อสรุปผลการทำงานเป็นนัดสุดท้ายก่อนสรุป โดยมีวาระสำคัญคือ การเชิญชาวบ้านที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าโดดลงจากรถทหารระหว่างที่กำลังถูกนำไป ฝังที่ จ.ราชบุรี มาให้ปากคำ แต่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ อนุกรรมการจากพรรคเพื่อไทยอ้างว่าไม่สามารถติดต่อชาวบ้านคนดังกล่าวได้
จากนั้นอนุกรรมการจากพรรคเพื่อไทย ทั้งนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ จึงขอเสนอวาระพิเศษ เพื่อให้ประชุมพิจารณาว่าจะตรวจสอบคลิปเสียงคล้ายนายกฯหรือไม่ โดยนำคลิปเสียงดังกล่าวมาเปิดให้ที่ประชุมฟัง 2 ครั้งติดๆ กัน ทั้งนี้ ไม่มีอนุกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในห้องประชุมแม้แต่คน เดียว
ปูด"อดิศร"เปิดคนแรกใน"พีทีวี"
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน อนุกรรมการจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คลิปดังกล่าว นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้นำไปเปิดในรายการตัวเองออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์พีทีวี ดังนั้น จึงถือว่า รายการของนายอดิศรเป็นที่มาของคลิปดังกล่าวได้ และประเด็นที่ควรจะตรวจสอบต่อไปคือ หากมีการตัดต่อคลิปดังกล่าวจริง ก็ควรจะสอบถามต่อไปว่า แล้วแต่ละวรรค นายอภิสิทธิ์ได้ไปพูดไว้ที่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังอภิปรายเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ที่ประชุมคณะอนุกรรมการมีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้สอบสวน และจะเชิญนายอภิสิทธิ์และผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง
พล.ต.ต.สุเทพกล่าว ว่า วันที่ 31 สิงหาคม จะนำคลิปเสียงคล้ายนายกฯไปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด ใหญ่ เพื่อขอขยายเวลาในการตรวจสอบออกไปอีก
"จตุพร"ให้ถามทหาร-คนในรบ.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)-แดงทั้งแผ่นดิน แถลงว่า แกนนำเสื้อแดงได้ฟังมาหลายวันแล้ว แต่พยายามไม่เชื่อและให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของเสียง จึงพยายามไม่พูดหรือนำมาขยายความ รวมทั้งภาวนาให้เป็นการตัดต่อ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าคนที่พูดไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นเพียงสัตว์นรกกระหายเลือด นายอภิสิทธิ์นั้นไม่ควรนั่งในตำแหน่งนายกฯต่อไป และรัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ไม่ได้ เพราะเป็นยิ่งกว่าฆาตรกรมือเปื้อนเลือด
"ขอให้นายอภิสิทธิ์สบายใจได้ว่าคนเสื้อแดงจะไม่นำเรื่องนี้มาปรักปรำ หรือเคลื่อนไหวโจมตี เพราะไม่ต้องการใช้กระบวนการใต้ดิน แต่นายอภิสิทธิ์ควรไปย้อนดูว่าเคยพูดอะไรไว้บ้างและมีศัตรูอยู่ที่ไหน ที่สำคัญคือ ควรไปสำรวจภายในของรัฐบาล โดยเฉพาะช่วงหลังมีปัญหาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เนื่องจากคลิปดังกล่าวเป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์จริง ก็ต้องไปถามทางทหาร เพราะในวันที่เกิดเรื่องนายอภิสิทธิ์ได้เข้าไปพักอยู่ในค่ายทหาร กองพันทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (พัน 1 รอ.)
นายกฯสั่งผบ.ตร.หาคนผิด
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่อาคารรัฐสภา 1 ประมาณ 45 นาที ว่า นายกฯเรียกมาพบเกี่ยวกับการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ โดยนายกฯได้มอบหมายให้ไปเจรจาว่าทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง กันได้ โดยจะรีบดำเนินการทันทีเพราะนายกฯได้สั่งการแล้ว
"นายกฯยังได้มอบหมายให้ไปดูแลเรื่องคลิปเสียงที่ระบุว่าเป็นนายกฯสั่ง การเหตุการณ์ในเดือนเมษายน ซึ่งต้องเอาคลิปมาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เป็นการตัดต่อหรือไม่ ต้องขอเวลาในการตรวจสอบ โดยคงต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย" พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า ทราบว่าคลิปเสียงดังกล่าวมีการเผยแพร่ครั้งแรกที่ จ.อุดรธานี จึงได้สั่งการในสันติบาลในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตรวจสอบที่มาที่ไปแล้ว รวมทั้งสันติบาลในส่วนอื่นๆ ด้วย รวมทั้งได้ส่งคลิปเสียงดังกล่าวให้กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจไปตรวจสอบทั้งเรื่องเสียงและการตัดต่อแล้ว


ไอซีทีสั่งปิดเว็บแพร่คลิปตัดต่อนายกฯสั่งสลายม็อบเสื้อแดง ไล่บี้พวกฟอร์เวิร์ดเมล์ต่อ !!

จากประชาชาติธุรกิจ
  ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์  สุวรรณฉวี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)  กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีที่เผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ขณะนี้ว่า ทางกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังหาหลักฐานและเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งปิดเว็บไซต์ที่มีการ เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวในวันนี้
 “ไอ ซีทีทราบว่ามีการเริ่มเผยแพร่คลิปเสียงเมื่อตอนเที่ยงคืนวันที่ 26 ส.ค. จึงได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Security Operation Center : ISOC ร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงและขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย สกัดกั้นการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ซึ่ง ณ ตอนนี้น่าจะปิดกั้นได้หมดแล้ว”
 และ เมื่อวานนี้ ได้ส่งคลิปเสียงดังกล่าวให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์หลักฐาน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเอเชีย ไปตรวจสอบแล้วว่ามีการตัดต่อคลิปเสียงในช่วงไหนบ้าง แต่ในเบื้องต้นยืนยันว่ามีการตัดต่อแน่นอน
 “ขณะนี้เรากำลังหาต้นตอที่ เผยแพร่คลิปดังกล่าว คาดว่าจะเป็นเผยแพร่ผ่านทีวีดาวเทียม แล้วมีการอัพโหลดขึ้นบนเว็บไซต์ และนำเข้าไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทูปด้วย  คาดว่าบ่ายนี้น่าจะรู้แหล่งเผยแพร่ที่เป็นต้นตอ แต่อาจจะยังไม่รู้ไปถึงชื่อบุคคลที่เป็นผู้เผยแพร่” รัฐมนตรีไอซีทีกล่าวและว่า
 การเผยแพร่คลิปดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิด ต่อความมั่นคง มุ่งหวังให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และปลุกระดมประชาชนในประเทศ  ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550  มาตรา 14 (3)  ที่ห้ามนำเนื้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  และผู้ที่ทำการส่งต่อเนื้อหาดังกล่าว ยังมีโทษตาม มาตรา 14 (5) ด้วยซึ่งผู้ฝ่าฝืนทั้ง 2 มาตรา มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  ขณะเดียวกันยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอีกหลายมาตราที่เกี่ยวข้องด้วย  และแม้ผู้กระทำผิดจะอยู่ในต่างประเทศก็แต่ผลแห่งการกระทำเกิดขึ้นในประเทศ ไทย ย่อมถือว่ากระทำความผิดตามกฎหมายไทยด้วย
  "บ่าย 3 โมงวันนี้จะมีการแถลงอีกครั้ง ถึงต้นตอที่เผยแพร่คลิปเสียงนายกฯ พร้อมผลการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญที่จะบอกว่ามีการตัดต่อคลิปเสียงในช่วง ไหนบ้าง"
โฆษกปชป.ซัดต้นตอแพร่คลิปมาจากบ.ใกล้ชิด"ทักษิณ"ชื่อย่อ"เอสซี" พบอีเมลล์ส่ง"คลิปลับมาร์ค"แล้ว

จากประชาชาติธุรกิจ
โฆษกปชป. ซัดต้นตอแพร่คลิปมาจากบ.ใกล้ชิด"ทักษิณ"ชื่อย่อ"เอสซี"
  วันนี้(28ส.ค.2552)เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย 10 ส.ส.ของพรรคร่วมกันแถลงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามขอเปิดคลิปเสียงตัดต่อ เสียงนายกฯสั่งใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงช่วงสงกรานต์และอ่าน ข้อความในคลิปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณราย จ่ายฯ 53 ในคืนวันที่ 27 สิงหาคม
โดยนพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ความพยายามของส.ส.เพื่อไทยรวมถึงประธานวิปฝ่ายค้านที่พยายามจะเปิดคลิปเสียง ตัดต่อเสียงของนายกฯในการประชุมเมื่อคืนวันดังกล่าว ทั้งที่มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดต่อและเป็นเท็จ พรรคเห็นว่า เป็นการกระทำเพื่อเตรียมการสร้างความเกลียดชังในการชุมนุมวันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งที่ผ่านมายังมีการปลุกระดมเปิดคลิปต่อเนื่องทางวิทยุมีนายอดิศร เพียงเกษ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย นำมาเปิด และการทำงานในสภาเมื่อคืนวันดังกล่าว ฝ่ายค้านมุ่งดึงความรุนแรงนอกสภาเข้ามาในสภา เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคได้ตรวจสอบพบขบวนการต้นตอ ตั้งแต่เช้าวันที่ 26 สิงหาคม โดยมีการส่งอีเมลคลิปเสียงผ่านระบบอีเมล์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพ .ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คือ บริษัทชื่อย่อว่า “เอสซี” ในแผนกสารสนเทศ และส่งผ่านไปยังอีเมล์ประชาสัมพันธ์ของพรรคการเมืองหนึ่งก่อนที่จะส่งต่อไป ยังสื่อและบุคคลภายนอก ซึ่งอีเมล์นี้สื่อทราบดีว่าคือใคร   "ก่อนถึงวันที่ 30 สิงหาคม มีสัญญาณไม่ปกติหลายอย่าง การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดจนอาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวแก่มวลชนที่มาชุมนุมให้ เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ดี เรื่องการส่งต่อคลิปดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายกลายฉบับแล้ว และพรรคกำลังดูข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการทางคดีด้วย” นพ.บุรณัชย์ กล่าว   ตร.กำลังสืบต้นตออยู่และไล่หาบุคคลที่เกี่ยวข้อง
นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้ดูด้านกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ พบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประชุมคืนวันที่ 27 สิงหาคม ส.ส.พรรคเพื่อไทย พอรู้ว่าเปิดคลิปไม่ได้จึงเอาข้อความในคลิปมาพูด เพราะรู้ว่ามีเอกสิทธิ์ที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง อย่างไรก็ดี พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 12 และ 13 ว่าด้วยการส่งข้อมูล จำหน่าย เผยแพร่ข้อมูลที่ส่งผลต่อความเสียหายสาธารณะและเป็นเครื่องมือการกระทำความ ผิด ถือว่ามีความผิดและมีโทษ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงกำลังสืบต้นตออยู่และไล่หาบุคคล ที่เกี่ยวข้อง พรรคจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในคลิปที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย เอามาอ่านเผยแพร่ในการประชุมสภาด้วย   นายอรรถวิทย์ สุรวรรณภักดี ส.ส.กทม. รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องการเผยแพร่คลิปเท็จที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ ในฟอเวิร์ดอีเมล์พบว่า มีอีเมล์ในกองงานประชาสัมพันธ์ของพรรคการเมืองหนึ่งเป็นคนส่งคลิป ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการ เมือง มาตรา 94 (4) ว่าด้วยการกระทำอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายในหรือภายนอกราช อาณาจักร หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้ หากการฟอเวิร์ดอีเมล์ดังกล่าวอันเป็นเท็จแล้วนำไปสู่การชุมนุมที่มีความ รุนแรง เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ การที่ส.ส.มีเอกสิทธิ์คุ้มครองเป็นเรื่องในสภา และคนละเรื่องกับการส่งอีเมล์นอกสภา ซึ่งพรรคจะไปหารืออีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรตามมาตรานี้   พบอีเมลส่ง"คลิปลับมาร์ค"แล้ว   นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คลิปเสียงมีการพิสูจน์จากหน่วยราชกรที่เชื่อถือได้แล้วว่ามีการตัดต่อ แต่ยังมีความพยายามจะเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ถือเป็นการสร้างศพจากน้ำลาย คนที่ทำ ไม่ว่าจะเป็น พรรค ส.ส. หรือมือมืด ขอให้เลิก เพราะถ้าเป็นส.ส.หรือพรรค อาจโดนยุบพรรคได้ และจะมาโวยวายไม่ได้ เพราะเล่นนอกกติกา ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองร่วมมือกันทำงาน เพราะเศรษฐกิจประเทศกำลังแย่   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะส.ส.ของพรรค ยังได้พิมพ์เอกสารที่เป็นหน้าการส่งอีเมล์คลิปเสียงดังกล่าวมาแถลงด้วย ซึ่งในเอกสารดังกล่าวระบุว่า มีการส่งจากอีเมลชื่อ vimollas@scasset.com ใช้หัวข้อว่า “คลิปลับอภิสิทธิ์” โดยส่งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ไปยังอีเมล์อื่นและมีการฟอเวิร์ดต่อถึง 5 ครั้ง ก่อนจะไปถึงอีเมล์ชื่อ sutisa29@hotmail.com ซึ่งเป็นอีเมล์ของฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพรรคการเมืองหนึ่ง ก่อนที่จะส่งไปยังสื่อและบุคคลต่างๆ 

ถามต่อหน้า

จาก โพสต์ทูเดย์
นายกฯ ถามตรง "สมชาย เพศประเสริฐ" ต้นตอแพร่คลิปหรือไม่ เจ้าตัวปัดวุ่น ไม่เกี่ยว พร้อมให้สอบ

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้โอกาสหลังจาก พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร ยื่นเรื่องขอให้นายกรัฐมนตรีระงับการจัดซื้ออาวุธปืนของกรมการปกครอง ถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.สมชาย เป็นผู้แจกจ่ายคลิปเสียงสั่งใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีข่าวว่าผู้ที่แจกจ่ายอยู่ในพรรคการเมืองหนึ่ง ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย ถึงกับหน้าเสีย ปฏิเสธว่าไม่ใช่ต้นตอของการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว แต่ยอมว่าเคยได้รับคลิปเสียงและนำไปให้ผู้สื่อข่าวเปิดฟังเท่านั้น

สาทิตย์เผยคลิปถูกตัดต่อจาก3แหล่ง
 

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)ได้ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคลิปเสียง ของนายกรัฐมนตรีที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายกลุ่มเสื้อแดงใน ช่วงเดือนเม.ย.52 นั้น เป็นคลิปเสียงจากการตัดต่อ และเป็นเสียงที่ได้จาก 3 ส่วนมาตัดต่อกัน คือ เสียงของนายกรัฐมนตรีจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 19 และ 26 เม.ย.52 และอีกส่วนมาจากเว็บไซต์ abhisit.org 

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีที่ถูกตัดต่อนั้น ได้ถูกเผยแพร่ตามเว็บไซต์รวมถึงการส่งอีเมลล์ต่อกันมาตั้งแต่คืนวันที่ 25 ส.ค.แล้ว และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบหาต้นตอของผู้ที่เผยแพร่คลิปเสียง เพราะถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย 

โดยยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องรวม ทั้งมีความเชื่อมโยงกับบริษัทของอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการเผยแพร่คลิปในครั้งนี้เพื่อต้องการใส่ร้ายนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งต้องการสร้างเงื่อนไขการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 ส.ค.นี้

ส่วนกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล นำไปเผยแพร่ในรายการของสถานีนั้น นายสาทิตย์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่อไปและยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง

ปชป.แฉต้นตอมาจากSCผ่านพท.ก่อนถึงสื่อ

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยถึงที่มาของคลิปตัดต่อเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยได้นำหลักฐานการส่งต่ออีเมลล์ที่มีต้นตอมาจากบริษัทในเครือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และได้มีการส่งต่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทย(พท.) ก่อนที่จะนำมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน

"เมื่อวานนี้ได้มีกระบวนการที่เป็นต้นตอ ที่มาของคลิปปลอม โดยตั้งต้นมาจากบริษัทที่อยู่ในเครือที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ ทักษิณ และมีการดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่เช้าวันพุธที่ 26 ส.ค.โดยผ่านช่องทางระบบอีเมลล์บริษัทในเครืออดีตนายกฯ ที่ใช้ชื่อบริษัท SC และที่สำคัญได้มีการส่งผ่านอีเมลล์ไปยังผู้ติดต่อประสานงานพรรคเพื่อไทยที่ อยู่ในแผนกประชาสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทย ก่อนจะส่งต่อไปยังสื่อมวลชน" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การปล่อยคลิปดังกล่าวเพื่อต้องการสร้างความเข้าใจผิด หรือสร้างความเกลียดชังในตัวนายอภิสิทธิ์ เพื่อนำไปขยายผลต่อในการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งทางพรรคฯ กังวลว่าการดำเนินการในลักษณะนี้มีวัตถุประสงค์ชัดเจนเพื่อต้องการให้ผู้ ชุมนุมเกิดความเข้าใจผิดจนนำไปสู่การเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การฟอร์เวิร์ดเมลล์คลิปเสียงดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 50 เรื่องเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง มาตรา 94 อนุ 4 ที่ระบุว่า การกระทำซึ่งอาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายในหรือนอกราชอาณาจักร หรือขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบร้อย พรรคการเมืองอาจถูกยุบได้

"การฟอร์เวิร์ดด้วยข้อความที่เป็นเท็จต่อคลิปเสียงของนายกฯ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงที่จะปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ" นายอรรถวิชช์ กล่าว


view