สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ศิลปะบนศีรษะ ความงามที่สาวทำงานอยากลอง

จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ STORY

โดย ทีมงาน D-Life






ถึงแม้ที่ผ่านมา ภาพของ "สกินเฮด แนวไถแกะลาย"

จะเป็นเรื่องของผู้ชายฮิปฮอป แร็ปโย่ หรือหนุ่มบีบอย

ที่บรรจงตัด-แต่งให้ศีรษะมีงานศิลป์สุดเจ๋ง

แต่ วันนี้ สกินเฮดกำลังเป็นเรื่องที่ผู้หญิงสนใจ และไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ทำงานในสายงานที่เกี่ยวกับอาชีพศิลปิน นักแสดง เพียงอย่างเดียวเสียด้วย

เทรนด์ที่ว่าปรากฏชัดเจนในต่างแดน โดยเฉพาะเมืองที่อุดมไปด้วยผู้คนที่นิยมฮิปฮอป บีบอย

จำ ได้ว่า ในครั้งที่ DLife เดินทางไปเยือนคณะแพทยศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ขณะกำลังเตรียมเข้าฟังโปรเฟสเซอร์อยู่นั้น พลันได้พบกับนักศึกษาแพทย์สาวสุดเท่ตัดผมแนวสกินเฮดไปครึ่งศีรษะ และยังบรรจงตัดแต่งเป็นตัวอักษรย่อบอกอะไรสักอย่างเอาไว้บนศีรษะ

เห็น ครั้งนั้นยังอดคิดไม่ได้ว่า สาวไทยใครฤๅจะกล้า ยิ่งเป็นสาวที่เตรียมตัวใส่เสื้อกาวน์ หรือสาวที่ทำงานออฟฟิศด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าใช่แนวนี้....

แต่ไม่น่าเชื่อว่า ให้หลังไม่นาน กลับได้พบสาวไทยตัดผมสไตล์สกินเฮดที่มีความแรงมากๆ กับการสลักลวดลายบนศีรษะ

เธอคนนี้ไม่ใช่ศิลปิน แต่เป็นสาวทำงานออฟฟิศอย่างเราๆ นี่แหละ

บาลานซ์งานและศิลปะ

ชนาพา เดชะปัญญา

สาว ออฟฟิศคนที่ว่า มีนามว่า อิฐ-ชนาพา เดชะปัญญา ผู้บริหารงานลูกค้า บริษัท อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัด วัย 25 ปี ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และหลงใหลในทรงผมนี้เข้าอย่างจัง

แรก พบ เธอไม่ได้สกินจนผมเกือบหมดศีรษะ แต่เธอเลือกสกินด้านซ้าย แล้วให้ช่าง ตัดแต่งลวดลายเท่ๆ ให้ ส่วนด้านขวาถักเปีย ติดหนังศีรษะ ขณะผมที่เหลือ เธอปล่อยยาวตามปกติ

"ตัวเองเป็นคนชอบอะไรแปลกใหม่ เคยทำทรงอื่นมาเยอะแล้ว ทั้งแอฟโฟ่ เดดล็อก เปลี่ยนตลอด เพราะนิสัยส่วนตัวจะเป็นคนเบื่อกับอะไรจำเจ เวลาเห็นคนอื่นไปทำรีบอนด์ เราก็ไม่ชอบ เพราะดูแล้วไม่อินดิวิดอล อีกอย่าง ด้วยหน้าที่การงานที่มีความเครียด บางครั้งเรารู้สึกว่า ทำไมเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้เลย ถ้าเช่นนั้นก็เปลี่ยนตัวเองดีกว่า ก็เลยตัดสินใจหันมาเปลี่ยนทรงผม เพื่อเติมชีวิตชีวาให้กับชีวิต"

เธอ บอกว่า มุมมองในการทำทรงผมแรงๆ แบบนี้เกิดขึ้น ก็เพราะเพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่นของเธอ สมัยที่เธอติดตามครอบครัวไปใช้ชีวิตอยู่ที่นครเซียงไฮ้มากว่า 4 ปี

"เพื่อน ชาวญี่ปุ่นจะมองทรงผมแบบนี้เป็นงานศิลปะ ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนแนวกราฟิตี้ หรือชอบบีบอยมากมาย แค่รู้สึกว่า ชอบอะไรก็ทำ อย่างผมทรงนี้ ทำแล้วก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะกลายเป็นพังก์เกิร์ลเสียหน่อย เราก็ยังเป็นเรา ยังชอบเพลงแจ๊ซ บอสซาโนว่าอยู่"

เธอเล่าให้ฟังว่า แรกเริ่มในการตัดผมทรงนี้ เกิดจากความคิดที่จะตัดผมสั้นก่อน จากนั้นก็ยังไม่เป็นที่พอใจ และเกิดไปนึกถึงศิลปิน ส้ม-อมรา ขึ้นมา ก็เลยอยากทำทรงแบบเขา แต่ด้วยหน้าที่การงาน ก็ทำให้เรามานั่งคิดถึงบริบททางสังคมของเราด้วย เพราะงานของตัวเองต้องเจอผู้ใหญ่ ก็เลยออกมาเป็นทรงผมไถศีรษะด้านข้าง แต่ยังไว้ผมยาวเอาไว้ เพื่อนำมาปิด หากต้องไปงานพิธีการ หรือพบผู้ใหญ่

"ช่าง ที่ตัดให้ เขาเห็นเราเป็นผู้หญิง ยังถามเลยว่า จะเอาจริงหรือ ? เราก็ยืนยัน พอไถเสร็จก็เลือกลาย ลายแรกที่ทำ คือลายสายฟ้า เสียค่าตัดไป 450 บาท ซึ่งการตัดผมแบบนี้จะหาช่างตัดยากมาก แล้วผมแบบนี้ สองอาทิตย์ก็ยาวแล้ว ต้องคอยไปทำ"

อิฐบอกว่า ช่างทำผมที่เธอไว้ใจ มีแค่สามร้าน คือ ชลาชล รัชโยธิน, ช่างแจ๊ค ที่สยาม, ช่างผมที่ร้านในเดอะมอลล์งามวงศ์วาน

"การ ตัดผมแบบนี้ ช่างต้องฝีมือดี เส้นลายต้องเนี้ยบ เก็บดีเทลทุกเส้น ระดับความสั้นยาวของผมทั้งหมดต้องมีความบาลานซ์ เป็นงานศิลปะจริงๆ โดยลักษณะการทำลายมีสองแบบ คือลายง่ายๆ คือลายสายฟ้า เส้นโค้ง ส่วนลายยากๆ คือลายกราฟิก หรือแนวญี่ปุ่น"

เวลาเธอออกไปพบปะกับลูกค้า อิฐยอมรับว่า โชคดีที่ลูกค้าของเธอส่วนใหญ่เป็นแบรนด์เกี่ยวกับวัยรุ่น จึงดูเข้ากันได้ บางครั้งก็มีคนเดินเข้ามาชมเลยว่า เท่จัง แต่ไม่เคย มีใครบอกว่าสวยนะ (หัวเราะ) มีแต่บอกกับเราว่า เปรี้ยว แนว แรง แต่ก็มีเหมือนกัน ที่เดินๆ ไปแล้วคนหันมามองเราเหมือนว่า เราเป็นตัวประหลาด

"ที่แปลก คือมีคนมาจีบเราแล้วบอกว่า เป็นคนชอบของแปลก (หัวเราะ)"

เมื่อ ถามเธอว่า ทรงผมที่ว่า ฮิตมากน้อยแค่ไหน ตอบ... เดิมจะมีแต่พวกบีบอยเยอะ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ผู้ชายเมโทรก็ตาม ผู้หญิงอย่างเราก็มีนะ แต่อาจจะน้อย ตอนนี้คิดว่า แฮปปี้กับทรงผมทรงนี้นะ ส่วนใครจะว่าอย่างไร อันนี้เรายึดคติที่ว่า ในชีวิตไม่มีทางที่จะทำให้ทุกคนรักเราได้อยู่แล้ว ต่อทำให้ผมทรงหน้าม้าเต่อ ทรงยาวตรงเป๊ะ ก็เถอะ

"ด้วยความที่มีคนในสังคมมองเราหลายๆ มุม จึงทำให้รู้สึกอยากบอกพวกเขาว่า อย่ามองคนแค่ภายนอก เพราะท้ายที่สุดไม่มีใครเหมือนกัน"

Never Say Cutz

ตัดลายสั่งได้ ร้านในใจชาวไถแกะลาย !


เป็นที่เลื่องลือระบือกันให้แซดในหมู่ผู้ที่ชอบตัดผม แบบ "ไถแกะลาย" ว่า ช่างมือดีอยู่ที่ Never Say Cutz ปากซอยสุขุมวิท 49-51

สืบ ไปเสาะมา เจ้าของก็คือหนุ่มฮิปฮอป "เวย์ ไทยเทเนี่ยม" ที่ซื้อกิจการร้านตัดผมแห่งนี้และดำเนินการต่อเนื่องมานานปีกว่าแล้ว ร้านตัดผมโทนสีขาว-ดำสไตล์ นิวยอร์กเกอร์ แม้จะเป็นบาร์เบอร์ที่ตัดได้ทุกแบบ แต่ที่เด่นและเป็นสไตล์โดดเด้งเข้าตา จนลูกค้าทั้งไทย-เทศและภูธรจากพัทยาต้องเข้าเมืองมาเป็นประจำ 2 เดือน/ครั้ง ก็คือเทคนิคการไถแกะลายนี่เอง

แฮ่ม ! แล้วไม่ได้มีแต่ลูกค้าหนุ่มฮิปฮอปเท่านั้น ผู้หญิงก็มีมาตัดแนวนี้ด้วยเหมือนกัน !

"5% เป็นผู้หญิง ตามปกติ ช่างเราไม่ถนัดตัดให้ผู้หญิงผมยาว แต่ผู้หญิงที่ชอบแนวนี้จะออกแนวพังก์หน่อยๆ มีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่ลายของผู้หญิงส่วนมากจะเป็น ลายน่ารัก ลายกราฟิกทั่วไป ซึ่งความสวยของลายมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ที่ร้านมีลายให้เลือกเยอะ ตัวอย่างลายมีให้ดูเป็นเล่มๆ บางลายก็ตัดนาน ที่ยากๆ จะเป็นลายที่ให้แกะลายภาพเหมือน มีลูกค้าคนหนึ่งมาจากพัทยา จะมาทุกๆ 2 เดือน ให้ตัดเฉพาะลายภาพเหมือนอย่างเดียวเลย ที่ตัดมาแล้ว เช่น โมนาลิซ่า, เหมา เจ๋อ ตุง, บ๊อบ มาเรย์ ฯลฯ" ช่างแจ๊ค ช่างตัดมือหนึ่งที่ร้านเล่าให้ฟัง

Never Say Cutz มีช่างประจำทั้งหมด 4 คน เวียนกันตัดตลอดทั้งวัน ซึ่งแต่ละคน มีความชำนาญมาก โดยเฉพาะช่างแจ๊ค ที่ฝึกตัดแกะลายสะสมประสบการณ์มา 3 ปีแล้ว โดยส่วนตัวช่างแจ๊คชอบดรอว์อิ้งภาพเหมือนอยู่แล้ว เขาบอกว่า การตัดผมแบบนี้ก็เหมือนงานศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ศิลปะบนหัวลูกค้าพลาดไม่ได้ ไม่เหมือนการวาดลงกระดาษ...

"การตัดไถแกะลายนี่ ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย เพราะต้องตัดให้เข้ากับหน้าของแต่ละคนด้วย การตัดผมแบบนี้ก็เหมือนรอยสัก คนที่ตัดอาจอยากปลดปล่อยตัวเอง เพราะผมมันยาวขึ้นมาใหม่ได้ และแฟชั่นมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ fashion never die" หนุ่มเวย์เล่าให้ฟังบ้าง

สำหรับตัวเจ้าของร้านเอง จากประสบการณ์ที่เขาเติบโตมาจากอเมริกา เขาว่าตัวเองเคยตัดแบบนี้ตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้ไม่ตัด เพราะโตแล้ว

"คน ที่นู้นไม่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ความจริง ตัดผมก็ทำได้ไม่กี่ทรง การตัดแบบนี้ ถ้าเจอลายที่เจ๋งจริงๆ พอไปเจอกลุ่มเพื่อน ก็เป็น talk of the day แต่ต้องเป็นแนว สตรีตฟังก์นะ ผมบอกได้เลยว่า ช่างของเราได้เปรียบกว่า เรื่องความนุ่มนวลของการตัด เมื่อก่อน ตอนตัดที่นู้น ทุกครั้งต้องมีแผล แต่ช่างของเรานี่ไม่มีเลย...เรื่องความละเอียด การเก็บลายเนี้ยบมาก"

สนนราคา ค่าตัด ไม่แพงอย่างที่คิด ตามเวลาที่ใช้ ส่วนมากราคาประมาณ 200-600 บาท (ตามเวลาที่ใช้) ที่เคยตัดลายยากๆ อย่างภาพเหมือนโมนาลิซ่า ก็ 500 บาท ตัดเกือบ 2 ชั่วโมง แอบกระซิบถามหนุ่มเวย์ว่าลูกค้าเยอะพอรึเปล่า อู้ย...ฟังแล้วอึ้ง เพราะแต่ละวัน เฉลี่ยตัดผมเกือบ 50 หัว !

ฮิตไม่ ฮิต...หนุ่มเวย์บอก Never Say Cutz กำลังจะขยายอีกหนึ่งสาขาในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัด ก็จะเริ่มที่หาดใหญ่และเชียงใหม่ เร็วๆ นี้แหละ ! :D



อัน ที่จริง ทรงผมสกินเฮด (Skinhead) มีที่มาไม่ค่อยสู้ดีนัก ข้อมูลจากวิกิพีเดียบันทึกเอาไว้ว่า สกินเฮดคือทรงผมติดหนังหัว เริ่มแรกผู้นิยมไว้ทรงนี้จะเป็นหมู่ชนชั้นกรรมาชีพในสหราชอาณาจักร ช่วงยุคทศวรรษที่ 60 (ปลายปี 2503 และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงขีดสุดในอังกฤษช่วงปี 2513) โดยได้รับอิทธิพลมาจากพวกรู้ดบอยส์ในเวสต์อินดีส์ และพวกม็อดในสหราชอาณาจักร ในทศวรรษถัดมา สกินเฮดแพร่หลายในยุโรป อเมริกาเหนือ และทวีปอื่นๆ ต่อมาในช่วงปลายปี 2523 ในสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พวกสกินเฮดเริ่มเกลียดชังชาวต่างชาติที่อพยพเข้ามาและประสบความสำเร็จในการ ดำเนินชีวิต พวกสกินเฮดจึงเป็นพวกเหยียดผิว นิยมความรุนแรง และมีส่วนในการฆาตกรรมชาวต่างชาติ พวกรักร่วมเพศ ฯลฯ ในเมืองต่างๆ ของสหรัฐ ซึ่งต่อมาก็ได้ที่มาของชื่อสกินเฮด และจะมีลักษณะรอยสักตามแขน หรือลำตัว ชอบใส่เสื้อแขนยาวของนักบิน ใส่รองเท้าหุ้มข้อ มีเชือกรองเท้าสีสันต่างๆ กัน เช่น ขาว แดง และเหลือง ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว (หน้าพิเศษ D-Life)

view