สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดรายชื่อขบวนการฮุบป่า สุวิทย์ สั่งสอบด่วน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เปิดรายชื่อ "2บริษัทเอกชน-ที่ดินจังหวัด-ป่าไม้จังหวัด"ร่วมขบวนการฮุบป่าเชียงรายหมื่น ไร่ "สุวิทย์"สั่งสอบด่วน ระบุเคยสั่งตั้งแต่ปี47

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยกรณีปัญหาบุกรุกสวนป่าแม่สลอง และสวนป่ากิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย   ที่พบมีเอกชนปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ มาสวมสิทธิ์โฉนดที่ดินรุกเขตสวนป่า รวมพื้นที่ราว 10 , 000 ไร่ว่า   เรื่องนี้ในสมัยที่ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีทส.ครั้งแรกในช่วงปี 2547 ได้เคยสั่งการให้มีการตรวจสอบปัญหามาแล้วครั้งหนึ่ง   แต่ไม่ทราบว่าสาเหตุใดถึงไม่มีความคืบหน้า     ขณะนี้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสรุปผลการดำนินการในช่วงที่ผ่าน มา และนำมารายงานให้ตนทราบอย่างเร็วที่สุดแล้ว   เพื่อจะได้รู้ว่ามีปัญหา และอุปสรรคอะไร   เพราะถือเป็นเรื่องเก่าที่เคยสั่งการให้ติดตามตรวจสอบเอาไว้ 5 ปีแล้ว แต่กลับยังไม่มีข้อสรุปอะไร

เมื่อถามว่ามีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.แม่จัน ได้สรุปผลการสอบสวนและดำเนินคดีร้องทุกข์ผู้ทำผิดที่มีรายชื่อของเอกชนและ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องมาให้แล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้คงต้องรอเอกสารก่อน ทั้งนี้ยอมรับว่าตนยังไม่เห็นว่ามีรายชื่อข้าราชการรายใด หรือจากหน่วยงานไหนเกี่ยวข้องอยู่บ้าง   ทั้งนี้สั่งการให้กรมป่าไม้ นำเอกสารและข้อมูลทั้งหมดมารายงานให้ทราบแล้ว และถ้าผลการตรวจสอบพบว่ามีเอกชนรุกสวนป่าจริงๆ เป้าหมายของกระทรวงทรัพยากรฯคือต้องนำเอาพื้นที่กลับคืนมาอยู่แล้ว

ตำรวจแม่จันจี้ตรวจสอบขรก.-เอกชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตรวจสอบปัญหาทุจริตออกโฉนดทับซ้อนพื้นที่ปลูกป่าหน่วยจัดการต้นน้ำ แม่สลอง จ.เชียงราย ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา พันตำรวจโทสุเมธ ก้อนคำ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ปฏิบัติราชการแทนผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแม่จัน จ.เชียงราย ได้ทำหนังสือมาที่สำนักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เพื่อสอบถามความคืบหน้าการร้องทุกข์ดำเนินคดีกรณีทุจริตการบุกรุกพื้นที่สวน ป่าพื้นที่แปลงปลูกป่าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลองแปลงปลูกป่า พ.ศ. 2513-2547 อ.แม่จัน ว่าหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องมีการร้องทุกข์ผู้ที่ถูกดำเนินคดีหรือไม่ เมื่อไหร่ มีผู้เสียหายเป็นใคร รวมทั้งมีผู้ใดหรือหน่วยงานไหนเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่   และขอสำเนาหลักฐานการแจ้งความร้องทุกข์

รายชื่อผู้ที่สถานีตำรวจภูธรแม่จัน ทำหนังสือสอบถามเรื่องการดำเนินคดีนั้น ได้แก่ 1 .บริษัทไฮแลนด์ รีสอร์ท จำกัดและบริษัทไพน์เลคฮิลล์ จำกัด 2. นายบุญเลิศ เคลื่อนเพชร ที่ดินจ.เชียงราย สาขาแม่จัน 3. นายดำรง พิเดช ป่าไม้เชียงราย ในขณะนั้นปี 2540   4. นายพินิจ บัวแดง ป่าไม้จังหวัด ในขณะนั้นปี 2541   5. นายวิสิทธิ์ ถาวร ป่าไม้อ.แม่จัน ในขณะนั้น และ 6. นายสุเทพ ไชยนิลวงศ์ ป่าไม้แม่จัน  

รายงานผลสอบปลัด ก.ทรัพย์

ขณะที่จากการตรวจสอบเอกสารผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตาม คำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2550 ซึ่งได้รายงานให้นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัด ทส.เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2551 มีข้อสรุปว่า มีการทุจริตออกโฉนดทับซ้อนพื้นที่ปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง จ.เชียงราย รวม 76 แปลง มีโฉนด 45 แปลง ไม่มีโฉนด 28 แปลง และมีหนังสือสำคัญที่หลวง 3 แปลง รวมพื้นที่ออกเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนสวนป่าแม่สลอง 1651 ไร่ ทั้งนี้ยังมีการนำเอกสารโฉนดที่ดินที่ออกทับซ้อน มาเข้าร่วมโครงการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ ท้องที่ต.บ้านใหม่พัฒนา ต.ป่าซาง อ.แม่จัน โดยใช้หลักฐานสัญญาเช่าที่ดินของบริษัทไฮแลนด์รีสอร์ท จำกัด รวม 7 แปลงโฉนดที่ดิน 12 ฉบับ โดยได้ดำเนินการในปี 41 จำนวน 4 แปลง ซึ่งคณะกรรมการฯสรุปว่ามีการทำเอกสารปลอมและใช้เอกสารปลอมมาอ้างออกโฉนด และประเด็นสุดท้าย กรณีนำโฉนดที่ดินที่ออกทับซ้อนมาขึ้นทะเบียนสวนป่าและตัดไม้ที่รัฐได้ทำการ ปลูกไปใช้ประโยชน์


ตร.แม่จันเผยขรก.อีกเพียบรวมขบวนการฮุบป่าหมื่นไร่

 

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ตร.แม่ จันชี้คดีออกโฉนดทับที่สวนป่า มีข้าราชการร่วมเพียบ แต่ไร้ผู้ร้องเรียน แฉพิรุธโยนเรื่องไปมาจนคดีไม่คืบ ที่ดินแม่จันเต้น เร่งตรวจสอบ

พ.ต.อ.เชวงชัย ธีระกุล ผกก.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า คดีที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.ป่าไม้ แม้จะมีพนักงานสอบสวนเป็นตำรวจในพื้นที่ แต่อำนาจการสอบสวนอยู่ที่อำเภอหรือฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของกระทรวงมหาดไทย คดีออกโฉนดทับที่สวนป่าแม่สลองมีการสอบสวนมาก่อนหน้านี้หลายปี และพบว่ามีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้องหลายราย ทั้งยังมีบริษัทเอกชนที่ไม่มีตัวตนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องข้อมูลที่ได้มาจาก การสอบสวนถือว่าเป็นประโยชน์พอสมควร

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายได้เรียกคดีนี้กลับไปเพื่อ ตรวจสอบรายละเอียดพร้อมทั้งมีการประชุมหารือ ซึ่งหลังจากนั้นจะสั่งการมายัง สภ.แม่จัน ให้ดำเนินการอีกครั้ง

พ.ต.อ.เชวงชัย กล่าวว่า คดีนี้เป็นการโกงออกโฉนดและซื้อขายที่ดิน ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก และไม่มีอิทธิพลในพื้นที่จนเป็นปัญหา แต่อุปสรรคอยู่ที่ว่าในตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นผู้ออกมาร้องทุกข์เท่านั้น ซึ่งผู้ร้องทุกข์จะเป็นใครก็ได้ และในที่สุดหากมีคำสั่งจาก ภ.จว.เชียงราย ก็อาจเป็นเจ้าหน้าที่ของ สภ.แม่จัน เป็นผู้ร้องทุกข์เองเพื่อให้คดีเดินหน้าและมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความ ผิด

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นกว่า 10 ปี ทำให้มีผู้กระทำผิดบางรายเสียชีวิตไปแล้ว แต่ส่วนที่ยังเหลืออยู่ก็จะต้องดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน

ที่ดินแม่จัน เร่งตรวจสอบฮุบที่สวนป่าแม่สลอง
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเปิดเผยขบวนการฮุบที่สวนป่าหมื่นไร่ เจ้าหน้าที่รัฐ เอกชนและที่ดินจังหวัดร่วมแปลงเอกสาร ปลอมลายเซ็น เปลี่ยนที่สวนป่ากิ่วทัพยั้ง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ข้าวต้ม ป่าห้วยน้ำลึกและพื้นที่สวนป่าแม่สลอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นโฉนดที่ดินกว่าหมื่นไร่ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เร่งทำการตรวจสอบ หากพบผู้กระทำผิดเตรียมเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

นายศักดิ์ณรงค์ พิชัยณรงค์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ สำนักงานที่ดินอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางสำนักงานที่ดินอำเภอแม่จัน ได้ทำการเร่งทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ผู้ที่มีเอกสารในที่ดินในบริเวณดัง กล่าว ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างมาก เชื่อว่าคงจะไม่มีการบุกรุกถึง 10,000 ไร่ โดยพบว่าที่ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการแจ้งว่าได้มีการบุกรุกที่ดินกว่า 30 แปลง หรือประมาณกว่า 1,000 ไร่ ในเขตป่าป่าสงวน เจ้าหน้าที่ก็จะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด

ขณะนี้ได้รอหลักฐานจากทางกระทรวง ทส.ในการนำหลักฐานข้อมูลมาให้กับสำนักงานที่ดินอำเภอแม่จัน ในการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าได้มีการบุกรุกไปในส่วนใดบ้าง แต่หากพื้นที่เป็นเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องผู้ที่ถือเอกสารก็มีสิทธิ์ที่จะ เข้าไปประกอบกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ได้ แต่หากว่าได้มีการบุกรุกจริง เจ้าหน้าที่จะได้มีการตรวจสอบว่าได้มีกลุ่มบุคคลไหน หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายไหนได้เกี่ยวข้อง พร้อมกับจะได้ทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในทันที พร้อมกับจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย

กระนั้น ตามอำนาจหน้าที่ หากพบการกระทำผิดในการบุกรุกในเขตป่าสงวน หรือมีการออกเอกสารสิทธิ์บุกรุกเข้าไปในเขตป่าสงวนเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็สามารถที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายในทันที

ด้านนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่อย่างละเอียด ซึ่งการบุกรุกพื้นที่ไปกว่า 10,000 ไร่ ยังคงไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดเนื่องจากแผนที่ใช้อยู่กันในปัจจุบัน เป็นที่แผนที่ที่ไม่มีละเอียดเพียงพอ โดยอัตราในแผนที่ยังคงเป็น 1 ต่อ 50,000 ไร่ จึงไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่คาบเกี่ยว พื้นที่ป่าสงวน หรือพื้นที่สาธารณะ

อย่างไรก็ตาม ก็ด้มีการวางมาตรการคุมเข้มให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มีการดูแล รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ท้องถิ่นและประชาชนในแต่ละพื้นที่ ในห้ามทำการบุกรุก พร้อมกับจะได้มีการนำเอกสารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามาตรวจสอบ หากพบว่าได้มีการกลุ่มนายทุน หรือผู้มีอิทธิพลเข้ามาบุกรุกก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สนง.บริหารพื้นที่อนุรักษ์15 โยนกันวุ่น

วันที่ 14 ก.ย. ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย เพื่อสอบถามถึงข้อมูลและความคืบหน้าคดีทุจริตออกโฉนดทับที่สวนป่าแม่สลอง จ.เชียงราย กว่า 5,481 ไร่ และพื้นที่อื่นรวม หมื่นไร่ของบริษัทเอกชน หลังจาก "กรุงเทพธุรกิจ"รายงานว่าการทุจริตออกโฉนดทับที่ป่าครั้งนี้ทำกันเป็นขบวน การ

แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ต่างปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล แต่โยนความรับผิดชอบระหว่างส่วนงานภายใน เริ่มจากส่วนป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากร ที่ระบุว่าเรื่องดังกล่าวอยูในความรับผิดชอบของส่วนฟื้นฟูแลพัฒนาพื้นที่ อนุรักษ์

เมื่อสอบถามไปตามที่ระบุไว้ เจ้าหน้าที่ส่วนฟื้นฟูฯกลับระบุว่าอยู่ในความรับผิดชอบของส่วนป้องกันฯ แต่เมื่อสอบถามถึงความชัดเจนในหน่วยงานรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่กลับอ้างว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่ในความดูแลของนายวรวิทย์ เชื้อสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 หากต้องการทราบข้อมูลนายวรวิทย์สั่งไว้ว่าให้สอบถามโดยตรง ขณะที่เจ้าหน้าที่อ้างว่านายวรวิทย์ติดราชการไม่สามารถติดต่อได้


ใครโกง?

เพื่อนคนหนึ่งหอบเอกสารพร้อมคำบอกเล่าที่น่าสนใจ ประเด็นที่เราพูดคุยกันในวันนั้น คือ

การทุจริต คอร์รัปชันของข้าราชการ การเมือง ของไทย รวมไปถึงวงการอื่นๆ ที่มักจะมีข่าวคราวเรื่องความไม่ซื่อสัตย์อยู่ต่อเนื่อง

เขาเริ่มต้นเล่าเรื่องในแบบฉบับเนิบๆ ว่า หากเป็นการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการราชการ "ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเข้าร่วมด้วย" เขาย้ำเหมือนจะเตือนนักข่าวอ่อนหัดที่วิ่งไล่ตามจับคดีทุจริต ที่มักจะจบลงด้วยคดีแห้ว หาคนผิดไม่ได้

เพื่อนคนนี้บอกว่า คดีทุจริต คอร์รัปชันของนักการเมือง ไม่สามารถทำได้ด้วยนักการเมืองเพรียวๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากไม่มีข้าราชการเข้าร่วมด้วย ทุกอย่างต้องเป็นขบวนการ

เหมือนกับข่าวคราวล่าสุด ที่ค่อนข้างจะน่ากลัว และน่าตกใจไม่น้อย ที่มีความพยายามฮุบที่สวนป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเป็นที่เอกชนด้วยการออกโฉนดแปลงที่ดินของหลวงเป็นที่ดินของตัวเอง ที่สำคัญ คือ เรื่องราวการฮุบที่ดินสวนป่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2536 แต่กระทั่งปัจจุบันยังไม่สามารถเอาผิดใครได้เลยแม้แต่คนเดียว

กรณีการทุจริตออกโฉนดที่ดินทับซ้อนที่สวนป่า แม่สลอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย จำนวนกว่า 6,650 ไร่ และการบุกรุกพื้นที่สวนป่ากิ่วทัพยั้ง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ข้าวต้ม-ป่าห้วยน้ำลึก จ.เชียงรายอีก 5,000 ไร่ ปัจจุบันยังเอาผิดใครไม่ได้

แม้ค่อนข้างชัดเจนว่า ขบวนการออกโฉนดที่ดิน มีการปลอมเอกสารสิทธิ ดังเส้นทางการปลอมเอกสารเพื่อออกโฉนดที่ดินที่ชัดเจนว่า ข้าราชการเข้ามามีส่วนร่วมในขบวนการดังกล่าว เริ่มต้นเมื่อสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาแม่จัน มีหนังสือ ที่ ชร 0020/5230 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2534 แจ้งมายังสำนักงานป่าไม้ จ.เชียงราย เพื่อแจ้งว่าจะได้รับคำร้องขอรังวัดออกโฉนดที่ดินจากราษฎรจำนวน 47 ราย จึงขอความร่วมมือให้ป่าไม้จังหวัดเชียงราย ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวว่าได้ขึ้นทะเบียน เพื่อใช้ในราชการหรือไม่

หลังจากนั้น สำนักงานที่ดิน จ.เชียงราย สาขาแม่จัน ได้ใช้เอกสารหนังสือ สำนักงานป่าไม้เขต เชียงราย ที่ กษ 0723/974 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2534 เรื่องการของรังวัดออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย (โดยมิได้แจ้งการครอบครอง) ลงนามโดยนายวิฑูรย์ โพธาราม เจ้าหน้าที่บริการงานป่าไม้ 7 รักษาราชการแทนป่าไม้เขตเชียงราย ซึ่งใจความหนังสือยืนยันว่า สำนักงานป่าไม้เชียงราย ได้ตรวจสอบแล้วว่า บริเวณดังกล่าว กรมป่าไม้ไม่ได้ทำประโยชน์ และไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ใช้ในราชการแต่อย่างใดและหนังสือสำนักงานป่าไม้เขต เชียงราย ที่ กษ 0723/3381 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2534 เรื่องขอให้ตรวจสอบพื้นที่ลงนามโดยนายแสงอนันต์ รัตนโกศล เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 7 ปฏิบัติราชการแทนป่าไม้เขตเชียงราย เอกเอกสารในการยืนยันให้สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงรายในการออกโฉนด แต่เอกสารทั้งหมดล้วนเป็นเอกสารปลอม

สำนักงานตำรวจแม่จันได้ตรวจสอบพบว่า เอกสารปลอมทั้งสองฉบับ และได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจแม่จัน ตามประจำวัน วันที่ 23 กรกฎาคม 2536 เวลา 11.40 น. คดี 394/36 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ปลอมแปลงเอกสารแล้ว แต่ปัจจุบันยังเอาผิดใครไม่ได้ และยังไม่สามารถนำพื้นที่ป่ากลับมาได้

 

view