สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ไทยฉาว! คณะลูกขุนสหรัฐฯ ตัดสินผู้สร้างหนังผิดจริงติดสินบนอดีตผู้ว่าฯ ททท.

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
       เอเอฟพี/เอเจนซี - คู่สามีภรรยาผู้สร้างภาพยนตร์จากลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ถูกพบว่ามีความผิดในข้อหาติดสินบนอดีตผู้ว่า ททท.ของไทย 1.8 ล้านดอลลาร์ (รวม 63 ล้านบาท) เพื่อให้ได้จัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่กรุงเทพฯเมื่อปี 2007 เจ้าหน้าที่ศาลอเมริการะบุเมื่อวันจันทร์(14)
       
       เกรัลด์ กรีน วัย 77 ปี และแพทริเซีย กรีน วัย 52 ปี ถูกคณะลูกขุนรัฐ พบว่ามีความผิดในข้อหาสมรู้ร่วมคิด ฟอกเงิน และละเมิดหมายต่อต้านคอร์รัปชัน แถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมระบุ
       
       ทั้งนี้ ทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่าติดสินบนนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อให้ได้สิทธิจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ
       
       นายกรีนส์และนางกรีนส์ จ่ายเงินสินบน 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 63 ล้านบาท ให้แก่นางจุฑามาศ โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของลูกสาวและเพื่อนของนางจุฑามาศ แลกเปลี่ยนกับการให้คู่สามีภริยาดำเนินการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติดัง กล่าว ด้วยงบประมาณ 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ แพทริเซีย กรีน ยังถูกพบว่ามีความผิดกรณีทุจริตขอคืนภาษีด้วย
       
       ทั้งนี้ กำหนดระวางโทษของทั้งคู่จะมีขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม และคาดว่าสองสามีภรรยาอาจต้องติดคุกมากกว่า 20 ปีเลยทีเดียว
       
       ด้านรอยเตอร์ ระบุว่า นางจุฑามาศ ศิริวรรณ  เคยออกมายืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด ขณะที่เธอมีความเกี่ยวข้องกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งถูกรัฐประหารในปี 2006 และถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาคอร์รัปชัน


ลูกขุนสหรัฐฯชี้2ฝรั่งผิดติดสินบน-ปปช.จะชี้มูลจุฑามาศ พ.ย.นี้

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
คณะลูกขุนสหรัฐฯชี้ผัวเมีย ผอ.สร้างภาพยนตร์ ผิดติดสินบนผู้ว่าททท.เพื่อจัดงานบางกอกฟิล์ม ศาลตัดสิน17ธ.ค. ด้าน ปปช.ระบุจะชี้มูลความผิดพ.ย.นี้

คณะ ลูกขุนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (11 ก.ย.) ได้ตัดสินกรณี นายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน มีความผิดในข้อหาสมคบคิด และฟอกเงิน ตามคำฟ้องที่ระบุว่าสามีภรรยาคู่นี้ตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้า เพื่อติดสินบนนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ในขณะนั้น รวมเป็นเงิน 18 ล้านดอลลาร์ แลกกับการได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ระหว่างปี 2545-2550

ศาลมีกำหนดตัดสินโทษในวันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งทั้งคู่อาจถูกจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่นางจุฑามาศยังไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยสามีภรรยาคู่นี้ ถือเป็นบุคคลในธุรกิจบันเทิงคู่แรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายการ ทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐ

ทางด้านทนายของนางแพทริเซีย แย้งว่า การจ่ายเงินดังกล่าวไม่ใช่สินบน ทั้งคู่เป็นคนดี เป็นเจ้าของบริษัทที่ทำให้คนจำนวนมากมีงานทำ และเป็นบริษัทที่ลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาธุรกิจในไทย ขณะที่ทนายความของนายเจอรัลด์ ระบุว่า อัยการต้องการส่งสารไปถึงธุรกิจบันเทิงโดยใช้คดีของลูกความเขาเป็นทางผ่าน

ทั้งนี้ เนื้อหาในคำฟ้อง ยังให้รายละเอียดการจ่ายสินบนว่า มีบางส่วนที่จ่ายเป็นเงินสดให้นางจุฑามาศโดยตรง ในรูปของค่านายหน้าประมาณ 10-20% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่เหลือโอนเข้าบัญชีธนาคารบุตรสาว และเพื่อนของนางจุฑามาศ แล้วชดเชยด้วยการโก่งราคาค่าจัดงาน

ปปช.เผยคดีจุฑามาศ คืบได้ข้อมูลFBI

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดี นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการจัดงานนิทรรศการภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ พ.ศ.2550

โดยกล่าวว่า ในวันที่ 16 ก.ย.นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อประมวลข้อมูลให้รอบด้าน หลังจากได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับฟังการพิจารณาคดีของศาลสหรัฐอเมริกา โดยจะนำข้อมูลทั้งจากฝ่ายโจทก์และจำเลยมาพิจารณา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะนำคำตัดสินของคณะลูกขุนมาประกอบการพิจารณาสรุปสำนวนคดีว่ามีเจ้า หน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ หากยังมีข้อมูลส่วนใดที่ยังไม่ชัดเจนคณะอนุกรรมการฯ ก็จะประสานงานกับทางอัยการสูงสุด เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางสหรัฐฯ แต่เบื้องต้นข้อมูลที่ได้รับจากสำนักงานสอบสวนกลางแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือเอฟบีไอ ถือว่ามีความชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการทำธุรกรรมทางการเงินในต่างประเทศ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีอำนาจในการไปเรียกข้อมูล เอกสารหลักฐานการเงินในต่างประเทศดังกล่าว ดังนั้น จึงถือว่าข้อมูลที่เอฟบีไอส่งมาให้คณะอนุกรรมการฯ นั้นสำคัญต่อการสรุปสำนวนคดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามจากการไต่สวนคดีนี้นอกจาก เรื่องการทุจริตแล้วยังพบว่ามีการกระทำผิดในตำแหน่งหน้าที่ด้วย ส่วนผู้ถูกกล่าวหานั้นก็ไม่ได้มีเฉพาะนางจุฑามาศเพียงคนเดียว แต่ยังรวมไปถึงรักษาการผู้ว่าฯ ททท.อีก คนหนึ่งด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าคณะอนุกรรมการฯจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหา ทั้งหมดได้ ภายในเดือน ก.ย.นี้ และจะสามารถสรุปสำนวนคดีเพื่อชี้มูลความผิดได้ภายในเดือน พ.ย.นี้แน่นอน

DSI เผยส่งสำนวนคดีบางกอกฟิล์มฯให้ปปช.เมื่อต้นปี'51

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตโครงการบางกอกฟิล์มเฟสติวัล ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ท.ท.ท.) เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความไม่โปร่งใสในโครงการบางกอกฟิล์มฯภาย หลังกระทรวงยุติธรรม และเอฟบีไอของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินคดีกับนายเจอรัลด์ และนางแพทิเซีย กรีน ฐานจ่ายสินบนให้ กับเจ้าหน้าที่ในประเทศไทย โดยผลการตรวจสอบเบื้องต้น ดีเอสไอพบหลักฐานน่าเชื่อว่ามีการทุจริตฮั้วประมูล เอื้อประโยชน์ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดได้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ และพบว่ามีพนักงานในองค์กรของรัฐเรียกรับสินบน ซึ่งคดีเป็นอำนาจสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดีเอสไอจึงได้ส่งสำนวนคดีทั้งหมดให้ป.ป.ช.ไต่สวนตามกฎหมายตั้งแต่ต้นปี 2551 ซึ่งที่ผ่านมาป.ป.ช.ได้เรียกตนเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง แล้ว

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ในชั้นตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน จึงไม่ได้เรียกผู้บริหารระดับสูงของท.ท.ท. รวมถึงนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท.ท.ท. เข้าให้ปากคำ รวมทั้งไม่ได้เรียกบุคคลใดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เป็นเพียงการเรียกเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างและการประกวดราคาโครงการบางกอก ฟิล์มของท.ท.ท. ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546-2549 และเรียกเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล ซึ่งก็พบมูลความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ


ศาลนครลอสแองเจลิสตัดสินสามีภรรยา"กรีนส์"ผิดจริง ติดสินบนอดีตผู้ว่าฯททท.ของไทย

จากประชาชาติธุรกิจ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ว่า คณะลูกขุนนครลอสแองเจลิส ตัดสินเมื่อวันศุกร์ว่า นายเจอรัลด์ กรีนส์ และนางแพทริเซีย กรีนส์ คู่สามีภรรยาเจ้าของบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ในแวดวง ฮอลลีวูดของสหรัฐฯ ซึ่งถูกตั้งข้อหาติดสินบนอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อให้ได้รับงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2550 มีความผิดในข้อหาสมคบคิดและฟอกเงิน โดยศาลมีกำหนดตัดสินโทษในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ และทั้งคู่อาจถูกจำคุกตลอดชีวิต ส่วนอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ อัยการระบุในคำฟ้องว่า สามีภรรยาคู่นี้ตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าเพื่อติดสินบนอดีตผู้ว่าการ ททท.โดยจ่ายเงินไปทั้งหมด 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 61.2 ล้านบาท) แลกกับการได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ฯ สินบนบางส่วนจ่ายเป็นเงินสดให้โดยตรง ในรูปของค่านายหน้า ตกประมาณ 10-20% ที่เหลือโอนเข้าบัญชีธนาคารบุตรสาวและเพื่อนของอดีตผู้ว่าการ ททท. แล้วชดเชยด้วยการโก่งราคาค่าจัดงาน
ด้านทนายของนางแพทริเซีย โต้แย้งว่า การจ่ายเงินดังกล่าวไม่ใช่สินบน ทั้งคู่เป็นคนดี เป็นเจ้าของบริษัทที่ทำให้คนจำนวนมากมีงานทำ และเป็นบริษัทที่ลงทุนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาธุรกิจในไทย
ส่วนทนายความของนายเจอรัลด์ ระบุว่า อัยการต้องการส่งสารไปถึงธุรกิจบันเทิงโดยใช้คดีของลูกความเขาเป็นทางผ่าน สามีภรรยากรีนส์เป็นบุคคลในธุรกิจแวดวงบันเทิงคู่แรกที่ถูกตัดสินว่ามีความ ผิดตามกฎหมายการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯ


ชาวมะกันผิดติดสินบนอดีตผู้ว่าททท.

จาก โพสต์ทูเดย์
คณะลูกขุนตัดสินสามี-ภรรยาผิดติดสินบนผู้ว่าฯททท.

วันนี้ (15กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะลูกขุนนครลอสแองเจลิสตัดสินเมื่อวันศุกร์ว่า นายเจอรัลด์ กรีนส์ และนางแพทริเซีย กรีนส์ คู่สามีภรรยาเจ้าของบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ในแวดวง ฮอลลีวูดของสหรัฐฯ ซึ่งถูกตั้งข้อหาติดสินบนอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อให้ได้รับงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2550 มีความผิดในข้อหาสมคบคิดและฟอกเงิน ศาลมีกำหนดตัดสินโทษในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ และทั้งคู่อาจถูกจำคุกตลอดชีวิต ส่วนอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแต่อย่างใด

อัยการ ระบุในคำฟ้องว่า สามีภรรยาคู่นี้ตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าเพื่อติดสินบนอดีตผู้ว่าการ ททท. โดยจ่ายเงินไปทั้งหมด 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 61.2 ล้านบาท) แลกกับการได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ฯ สินบนบางส่วนจ่ายเป็นเงินสดให้โดยตรง ในรูปของค่านายหน้า ตกประมาณ 10-20% ที่เหลือโอนเข้าบัญชีธนาคารบุตรสาวและเพื่อนของอดีตผู้ว่าการ ททท. แล้วชดเชยด้วยการโก่งราคาค่าจัดงาน

ทนายของนางแพทริเซีย แย้งว่า การจ่ายเงินดังกล่าวไม่ใช่สินบน ทั้งคู่เป็นคนดี เป็นเจ้าของบริษัทที่ทำให้คนจำนวนมากมีงานทำ และเป็นบริษัทที่ลงทุนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาธุรกิจในไทย

ขณะ ที่ทนายความของนายเจอรัลด์ ระบุว่า อัยการต้องการส่งสารไปถึงธุรกิจบันเทิงโดยใช้คดีของลูกความเขาเป็นทางผ่าน สามีภรรยากรีนส์เป็นบุคคลในธุรกิจแวดวงบันเทิงคู่แรกที่ถูกตัดสินว่ามีความ ผิดตามกฎหมายการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐ

 

view