จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ผู้การฯ เชียงราย เผยพิรุธยืมชื่อผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปดำเนินคดีฮุบที่สวนป่ากิ่วทัพยั้ง ปี 47 ระบุรอเอกสารเพิ่มเติมสัปดาห์ ก่อนออกหมายจับ

พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดกรณีออกโฉนดทับที่สวนป่ากิ่วทัพยั้งและสวนป่าแม่สลอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ว่า ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่ผลการประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากยังขาดเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกส่วนหนึ่ง ขณะที่สำนวนการสอบสวนก่อนหน้านี้ทั้งในส่วนของกรมป่าไม้และ ตำรวจยังพบข้อพิรุธที่ขัดกัน โดยคาดว่าหลังจากได้รับเอกสารจากหน่วยงานอื่นใน สัปดาห์หน้าทุกอย่างจะชัดเจนกว่านี้

อย่างไรก็ดี หลังจากนำข้อเท็จจริงจากสำนวนเดิมของกรมป่าไม้และของตำรวจภูธรภาค 5 มาประมวลร่วมกันแล้ว พบว่ามีข้อพิรุธ โดยพบว่าในการดำเนินคดีฮุบที่สวนป่ากิ่วทัพยั้งในปี 2547 มีการนำชื่อผู้ต้องหาที่เสียชีวิตแล้วไปดำเนินคดี  ซึ่งเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการสวมชื่อผู้ต้องหาหนี ผิด อย่างไรก็ดีจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนเดิมมั่นใจว่าจะมี น้ำหนักเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตัวจริงได้

ส่วนกรณีที่นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แนะให้ตำรวจเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฏหมายไปดูรายละเอียดในข้อกฏหมายว่าจะสามารถทำได้หรือไม่  

พบออกโฉนดบนยอดเขาเชียงรายอีก468ไร่

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
พบออกโฉนดบนยอดเขาสูงกลางป่าอีก 468 ไร่ ถางจนเตียน ส่วนบุกรุกพื้นที่ปลูกป่าต้นน้ำแม่สลอง 6,650 ไร่ ยังไม่คืบหน้า ไร้เขาหน่วยงานของรัฐแจ้งดำเนินคดี

จากกรณีปัญหาการบุกรุกที่ดินบริเวณพื้นที่ปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย จำนวน 5,481 ไร่ จากจำนวนพื้นที่ทั้งหมด 6,650 ไร่ โดยพื้นที่การบุกรุกดังกล่าว เอกชนผู้ครอบครองที่ดินได้มีการออกโฉนดทับพื้นที่ป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำ แม่สลองที่ได้มีการปลูกป่าไว้เพื่อเป็นการอนุรักษ์พื้นที่แหล่งต้นน้ำและบาง ส่วนมีการปรับพื้นที่ปลูกสร้างเป็นรีสอร์ทหรูขนาดใหญ่กลางป่า ขณะเดียวกันทางด้านตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในกรณีนี้ได้ เนื่องจากขาดเจ้าทุกข์ที่จะร้องต่อพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการบินสำรวจของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พบว่าจากพื้นที่ปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลองทั้งหมด ขณะนี้ยังคงมีสภาพพื้นที่สวนป่าให้เห็นอยู่อีกประมาณ 20-30 % และเป็นพื้นที่ซึ่งมีการทำการเกษตรไปแล้วประมาณ 70 % ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ซึ่งมีการปลูกสร้างเป็นรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ จำนวน 2 แห่ง ประมาณ 10 %

นอกจากนี้ ที่บริเวณบ้านดงสุวรรณ ตำบลจอมสวรรค์ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย  พบมีการแผ้วถางพื้นที่บนยอดเขาสูงจนเหี้ยนเตียน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบปรากฏว่าเป็นที่ดินซึ่งมีโฉนด จำนวน 468 ไร่ ในบริเวณเดียวกันพบรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ VITARA หมายเลขทะเบียน ศฮ 6115 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างประตูรถมีสติกเกอร์ บริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ซึ่งเรื่องนี้จะมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินทำการพิสูจน์ทราบอีกครั้ง ว่าโฉนดดังกล่าวที่ผู้ครอบครองที่ดินนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ได้มาโดยชอบธรรมหรือไม่ เพราะลักษณะของพื้นที่ น่าจะมีความสูงมากเกินกว่าจะสามารถออกโฉนดได้

ส่วนที่บริเวณสวนป่ากิ่วทัพยั้ง อำเภอแม่จัน คาดว่าจะมีการบุกรุกพื้นที่สวนป่าไม่น้อยกว่า 50 ไร่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบรายละเอียดการถือครองอีกครั้ง เพราะจากภาพที่ปรากฏทางอากาศ การถือครองน่าจะอยู่ในเขตสวนป่าอย่างชัดเจน

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่พบว่ามีผู้กระทำผิดอย่างชัดเจน ในบริเวณพื้นที่ปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง อำเภอแม่จัน แต่ยังไม่มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหรือบุคคล ที่จะเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ทำให้ตำรวจ อาจจะต้องทำหนังสือไปยังหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรง เพื่อประสานการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

ทางด้านนายวรวิทย์ เชื้อสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด มีการรายงานเข้าไปยังส่วนกลางเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะมีการสั่งการอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตามปัญหานี้อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานราชการหลายหน่วย ซึ่งแต่ละส่วนคงต้องว่ากันไปตามบทบาทหน้าที่ ตามรูปการณ์ของปัญหา

แหล่งข่าวจากข้าราชการระดับสูงในจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เหตุผลที่ปัญหานี้แม้จะพบการกระทำผิดอย่างเด่นชัด แต่ผลทางคดียังไม่มีความคืบหน้า เป็นเพราะการกระทำผิดดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวพันกับหน่วยงานราชการหลายหน่วยที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะหากจะมีการตรวจสอบกันในทางลึกต่อตัวบุคคลและหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของป่าไม้ และที่ดิน เพราะเรื่องนี้จะต้องร่ายยาวมาตั้งแต่การเข้าครอบครอบเพื่อทำประโยชน์ ตลอดจนการออกโฉนดทับพื้นที่ป่า ซึ่งขั้นตอนและขบวนการจัดการ กระทั่งได้มาซึ่งโฉนดที่ดิน จะต้องผ่านการดำเนินการและตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐจากหน่วยงานใดบ้าง