สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คตส.อัดอสส.ไม่ทำหน้าที่ ย้ำเป็นพยานให้จำเลย

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



อดีตคตส.อัดอสส.หลังแพ้คดีกล้ายางเป็นทนายแผ่นดิน แต่ไม่ทำหน้าที่ แฉมีกระบวนการดิสเครดิตเป็นพยานให้จำเลย ด้าน"สัก"แนะจับตา"หวยบนดิน"สำนวนแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ประกอบด้วย นาย นาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. นายอุดม เฟื่องฟุ้ง นายกล้านรงค์ จันทิก นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสัก กอแสงเรือง และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้ร่วมกันประชุมนอกรอบ หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีทุจริตกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดออกมาโจมตีการทำงาน ของคตส. จนทำให้คดีต้องแพ้

จากนั้น เวลา 11.15 น. นายสัก ในฐานะโฆษกคตส. แถลงว่า สาเหตุต้องแถลง เพราะโฆษกอัยการสูงสุดพาดพิงคตส. โดยมีการวิจารณ์ สั่งสอน และหยามการทำงานของคตส. โดยคตส. ขอชี้แจงว่า การแถลงครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยคตส.ยอมรับ และถือเป็นข้อยุติ แต่กลับมีการกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้องในองค์กรหลักในกระบวนการยุติธรรมออกมา วิจารณ์ จึงอยากถามว่า หลังจากศาลพิพากษาแล้ว องค์กรอัยการมีหน้าที่ต้องออกมาชี้แจงหรือไม่ หากไม่มีหน้าที่แล้วออกมาชี้แจง ก็จะให้สังคมไปพิจารณาเอง เพราะทำให้สังคมวุ่นวาย และทำให้องค์กรกระบวนการยุติธรรมเสื่อม ซึ่งมีมาแล้วหลายองค์กร ที่มีความเสื่อมมาจากผู้นำ

นายสัก กล่าวว่า ศาลฎีกาได้พิพากษาว่า คตส.ได้แจ้งข้อกล่าวหาครบถ้วน และมีอำนาจเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถนำพยานในชั้นตรวจสอบมาใช้ในชั้นไต่สวนได้ ส่วนที่อัยการเห็นว่า คตส.ไม่มีอำนาจฟ้องเองจนจำเลยยกมาเป็นข้อต่อสู้ ศาลได้พิพากษาแล้วว่า คตส.มีอำนาจฟ้อง

“การที่บอกว่า คตส.ฟ้องคดีเองทำให้รัฐเสียหาย ต้องเสียค่าทนายความ เนื่องจากอัยการมีหน้าที่ฟ้องคดีแทนแผ่นดิน แต่ไม่ทำหน้าที่กฎหมายจึงกำหนดให้คตส.ต้องจัดหาทนายความฟ้องเอง โดยขอให้สภาทนายความ ส่งทนายความฟ้องความให้ จนขณะนี้ยังไม่มีการจ่ายค่าทนายแต่อย่างใด จึงขอถามสังคมว่า ถึงเวลาสมควรแล้วหรือยัง ที่จะมีองค์กรอิสระภาคประชาชน มาทำหน้าที่ในกรณีที่องค์กรของรัฐไม่ทำหน้าที่ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ไต้หวัน เกาหลี เหมือนสุภาษิตจีนที่ว่า อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ” นายสัก กล่าว

นายสัก กล่าวว่า การที่อัยการออกมาแถลงว่า จะฟ้องใครต้องมีหลักฐานเพียงพอ ที่ศาลจะลงโทษได้ ขอถามอัยการว่า ผลที่สุดแล้ว ผลแห่งคดีที่อัยการฟ้อง ไม่มีการยกฟ้องเลยใช่หรือไม่ แต่ปรากฎว่า มีผู้รับผิดชอบระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ไปเบิกความพยานฝ่ายจำเลย ทั้งคดีกล้ายาง และคดีหวย 2 ตัว 3 ตัว และตอบคำถามทนายจำเลยบางประการว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อกฎหมาย มันเป็นเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวพัน ผลจึงออกมาในลักษณะนี้

นายสัก กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่า คตส.ทำหน้าที่เพื่อแผ่นดิน แต่กลับถูกกล่าวหา และฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและอาญา จากฝ่ายผู้ถูกตรวจสอบรวมกว่า 20 คดี แล้วยังต้องมาถูกกล่าวหาซ้ำเติม จากเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมของรัฐบางกลุ่มอีก ดังนั้น เราต้องจับตาดูว่า มีกระบวนการดิสเครดิตการทำงานของคตส. ผ่านบางกลุ่ม บางพวกในองค์กรกระบวนการยุติธรรม ซึ่งสังเกตได้ว่า กระบวนการนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่คตส.ชี้มูลความผิดคดีซีทีเอ็กซ์

นายสัก ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากคดีกล้ายางแล้ว ขอให้รอดูคดีหวย 2 ตัว 3 ตัว ในช่วงปลายเดือนก.ย. ว่า ศาลจะตัดสินอย่างไร เพราะจากการวิเคราะห์พบว่า 1.มติครม.ที่อนุมัติให้ออกหวยบนดินได้ ผิดกฎหมาย เพราะเป็นสลากกินรวบ ไม่ใช่สลากกินแบ่ง ถือเป็นการพนัน กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าผิด 2.มติครม.ที่อนุมัติให้สำนักงานสลากกินแบ่งฯไม่ต้องนำเงินส่งกระทรวงการคลัง 28 % ต้องถามว่า ครม.มีอำนาจยกเว้นการไม่นำเงินภาษีส่งคลังหรือไม่ เพราะถือว่า ไม่มีกฎหมายรองรับ และ 3.มติครม.ที่สั่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการศึกษาและการช่วยเหลือสังคม นำเงินไปใช้ในโครงการเพื่อสังคม ก็ถือว่า ไม่มีกฎหมายรองรับเช่นกัน

ด้านนายแก้วสรร กล่าวว่า คตส.คงไม่ไปฟ้องร้องโฆษกอัยการสูงสุด ที่ออกมาพาดพิงการทำงานของคตส. แต่การพูดในลักษณะเช่นนี้ มันไม่สวย เพราะจะมีผลกระทบกับอีกหลายคดี ที่รอการพิพากษาในชั้นศาล และในปปช. ซึ่งแต่ละคดีจะมีความแน่น และหนักเบาไม่เหมือนกัน ดังนั้น การพูดจึงไม่ควรมาก้าวล่วงคตส.เช่นกัน

เมื่อถามว่า การที่โฆษกอัยการสูงสุดออกมาพูดอย่างนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะมีผู้บริหารสูงสุดของอัยการสูงสุด ตกเป็นจำเลยในคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์หรือไม่ นายแก้วสรร ตอบว่า คตส.ไม่บังอาจไปคิดก้าวล่วงอย่างนั้น เพราะยังมีเรื่องในชั้นศาลอีกหลายคดี ไม่อยากไปละเมิดศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่คตส.แพ้คดีกล้ายาง เพราะมีคตส.บางคน ไปเป็นพยานฝ่ายจำเลยหรือไม่ นายแก้วสรร กล่าวว่า เขาเป็นคนที่ทนายจำเลย คณะกรรมการนโยบายพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อ้างอิงให้เป็นพยาน ซึ่งเขาเป็นเสียงส่วนน้อยในคตส. ที่เห็นว่า คชก. ไม่มีความผิด เพราะเป็นการอนุมัติงบตามอำนาจหน้าที่ ดังนั้น ที่เขาต้องไปให้ปากคำ เพราะทำตามอำนาจศาลในการเรียกพยาน

ทั้งนี้ ศาลได้ถามถึงการชี้มูลความผิดของ นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเขาได้ยืนยันไปว่า ที่ประชุมคตส.มีมติเป็นเอกฉันท์ แต่เมื่อศาลถามถึงหลักฐานการเชื่อมโยงถึงความผิดของนายเนวิน เขาก็ตกใจ และตอบไปว่า ไม่มีหลักฐานโดยตรงว่านายเนวิน เป็นคนสั่ง แต่มีพยานแวดล้อมบังคับให้เชื่อได้ว่า นายเนวิน มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เมื่อศาลชี้ออกมาอย่างนี้ ก็ต้องเคารพศาล

ด้านนายนาม กล่าวว่า ไม่หนักใจ ในการที่ศาลจะพิจารณาคดีหวยบนดินในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพราะมั่นใจในหลักฐานของคตส. แต่การต่อสู้ในข้อกฎหมาย ย่อมมีทั้งบวกและลบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อศาลตัดสินออกมาอย่างไร คตส.ก็พร้อมรับ แต่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง และเชื่อว่า คดีนี้ไม่มีเหตุผลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขึ้นกับดุลยพินิจของศาลในการปกป้องประโยชน์ของแผ่นดิน

view