สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ป.ป.ช.ฟันสมัคร -นพดล ผิดคดีปราสาทพระวิหาร อีก 32 คนหลุดคดี !!

จากประชาชาติธุรกิจ
ป.ป.ช. ฟัน สมัคร สุนทรเวช -นพดล ปัทมะ คดีออกมติ ครม.เรื่องแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยมิชอบ โดนอาญา หนัก มาตรา 157 มติ 6 ต่อ 3 อีกอดีตรัฐมนตรีและ ขรก.กระทรวงต่างประเทศ 32 คน เฮ!! หลุดคดี

เมื่อ วันที่ 29 กันยายน นายกล้านรงค์ จันทิก และนายวิชัย วิวิตเสวีการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวผลการประชุม ป.ป.ช. ซึ่งมีมติ 6 ต่อ 3 ชี้มูลความผิดนายสมัคร สุนทรเวช ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.257 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสมัคร มีมติออกแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนให้รัฐบาลกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระ วิหารเป็นมรดกโลก โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออกแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวเข้าข่ายเป็น หนังสือสนธิสัญญาที่จะต้องนำเข้าขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน ตามมาตรา 190  ของรัฐธรรมนูญ แต่ครม.นายสมัครไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวเพื่อขออนุมัติต่อรัฐสภาแต่อย่างใด   สำหรับผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นรัฐมนตรี 26 คน และข้าราชการประจำกระทรวงต่างประเทศ และสภาความมั่นคง อีก 6 คน คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าไม่มีความผิด   ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนั้นผู้สื่อข่าวได้ พยายามโทรศัพท์ติดต่อนายนพดล  แต่ปรากฎว่า นายนพดล ไม่ยอมรับสาย และเมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเลขานุการของนายนพดล ได้รับแจ้งว่า นายนพดล จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ก.ย. นี้ เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
  หลังจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช. จะส่งสำนวนคดีไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้า  นายเมธี ครองแก้ว กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า  วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.น่าจะสามารถลงมติชี้มูลความผิดกรณีรัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ออกมติ ครม.เรื่องแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยมิชอบ
     "คิดว่าอย่างนั้น(ลงมติได้) เพราะเลื่อนมาเยอะแล้ว ประชุมหลายต่อหลายครั้งแล้ว...ส่วนตัวผมเองมีข้อมูลที่ชัดเจน" นายเมธี กล่าว
พร้อมกันนี้ยังได้ยืนยันว่า การพิจารณาของ ป.ป.ช.ในคดีนี้ไม่มีการแทรกแซงจากรัฐบาลหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น และถึงแม้จะมีข้อมูลที่ครบถ้วนแล้วแต่จำเป็นต้องฟังข้อมูลจากกรรมการ ป.ป.ช.คนอื่นด้วยว่ามีจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
        ส่วนกรณีรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลชุดปัจจุบัน 4 คนซึ่งอยู่ในรัฐบาลของนายสมัครจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่หากถูกชี้ มูลความผิด นายเมธี กล่าวว่า น่าจะเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด เพราะ ป.ป.ช.มีหน้าที่พิจารณาสำนวนและชี้มูลความผิดเท่านั้น
ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการและโฆษกป.ป.ช. ยืนยันว่า ป.ป.ช.ไม่มีการตั้งธงเพื่อจะเอาผิดกับนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศเพียงคนเดียวตามที่เป็นข่าว ซึ่งการพิจารณาของ ป.ป.ช.จะพิจารณาเป็นรายบุคคลกับทั้งอดีตรัฐมนตรี และข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 44 คน และโดยส่วนตัวเท่าที่ดูจากสำนวนคดีนี้แล้วค่อนข้างจะสมบูรณ์ แต่คงจะต้องฟังมุมมองจากกรรมการ ป.ป.ช.คนอื่นๆ ด้วย เพราะต่างคนต่างมีอิสระในการพิจารณา
    ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ  อายุ 74 ปี หลังจากกลับจากการรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา ได้เก็บตัวมาโดยตลอด ขณะที่นายนพดล ยอมรับว่าตัวเอง อาจโดนป.ป.ช. ลงมติลงโทษตามมาตรา 157


ฟันสมัคร-นพดลผิดเขาพระวิหาร

จาก โพสต์ทูเดย์
ป.ป.ช.ชี้มูลสมัคร-นพดลผิดอาญา157หนุนเขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร

วันนี้(29กันยายน) คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอาญานายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่่างประเทศผิดกฏหมายอาญามาตรา 157ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีให้ความเห็นชอบสนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดก โลก โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ขณะที่35รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของนายสมัคร และข้าราชการอีก6คน หลุดพ้นจากข้อกล่าวหา

ก่อน หน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดในคดีดังกล่าวว่า จะใช้มาตรฐานเดิมที่รัฐบาลให้ไว้ต่อสาธารณชน หากป.ป.ช.ชี้มูลว่า รัฐมนตรีใน ครม.ชุดนี้ มีความผิด ก็ต้องออกจากตำแหน่ง ทั้งพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโทโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


นพดลแถลงสู้ป.ป.ช.

จาก โพสต์ทูเดย์
นพดลนัดแถลง10โมงโต้ข้อกล่าวหาปปช.ชี้มูลผิดเขาพระวิหาร

วันนี้(30 กันยายน) นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งผ่านเลขานุการส่วนตัวว่า จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในเวลา 10.00 น. วันนี้ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไืทย กรณีคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในทางอาญา มาตรา 157 กรณีออกแถลงการณ์ีร่วมสนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระ วิหาร โดยไม่ผ่านความเห็นชอบต่อรัฐสภา           

เมื่อ เย็นวานนี้ นายกล้านรงค์ จันทิก  กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแถลงผลประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า กรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 6 ต่อ 3 ชี้มูลความผิดนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีความผิดทางอาญา มาตรา 157  ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และถอดถอนออกจากตำแหน่งตามความผิดมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ

โดย กรรมการ ป.ป.ช.มีความเห็นว่า นายนพดล กระทำไปโดยรู้เป็นอย่างดีในความเสียหายที่เกิดขึ้นดังคำวินิจฉัยของศาลรัฐ ธรรมนูญ จึงถือว่ากระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทย และคนไทย ส่วนนายสมัคร ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องทราบถึงความอ่อนไหวของประเด็นทำให้เกิดสภาวะสุ่มเสี่ยงต่อผลกระทบใน เรื่องอาณาเขตและวิกฤตการณ์ทางสังคม จึงถือว่ามีเจตนาร่วมกระทำความผิด


 

นพดลจวกมติป.ป.ช.ไม่ชอบ

จาก โพสต์ทูเดย์
วันนี้(30กันยายน) นายนพดล  ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดตนเอง และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี  มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีออกมติ ครม.สนับสนุนการลงนามในแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็น มรดกโลกของกัมพูชา ว่า มติดังกล่าวของป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อเท็จจริง และไม่เป็นธรรม เป็นการตัดสินโดยให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานจากฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ทางการ เมืองกับพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นาย นพดลยืนยันว่าแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไม่ใช่สนธิสัญญา เป็นเพียงแถลงการณ์ทางการเมืองซึ่งทำเพื่อปกป้องดินแดน และเป็นเอกสารชิ้นเดียวที่กัมพูชายอมรับว่า มีพื้นที่ทับซ้อนอยู่จริง และแถลงการณ์ดังกล่าวได้พิจารณา และเห็นชอบร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งจากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการเหล่าทัพในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี  ซึ่งตามกฎหมายถือว่าต้องรับผิดชอบร่วมกัน

นายนพ ดล กล่าวต่อว่้า แต่มติดังกล่าว เหมือนจงใจเลือกดำเนินการเพียงตนเองกับนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ  อย่างไรก็ตาม เห็นว่า การชี้มูลของ ป.ป.ช.เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น และมีหลายคดีที่ศาลยกฟ้อง จึงพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งหวังว่า จะได้รับความเป็นธรรมจากศาล และวุฒิสภา

นายนพดล กล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยเรื่องนี้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งได้โทรมาสอบถามผลการตัดสินของ ป.ป.ช. และได้ให้กำลังใจในการต่อสู้ต่อไป ส่วนกับนายสมัคร ได้พูดคุยผ่านเลขานุการส่วนตัว และได้ให้กำลังใจเช่นกัน.

 

 

view