สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ลิขสิทธ์อาหารกับขอถนนปลอดรถเข็นอาหาร

จาก โพสต์ทูเดย์
รายงานโดย :เรื่อง / ภาพ สุธน สุขพิศิษฐ์:
วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552


อาทิตย์นี้ขอมีสองเรื่องรวมในวันเดียวกันครับ เรื่องแรกข่าวว่ามาเลเซียประกาศอาหารหลายอย่างว่าเป็นของเขา เรื่องที่สอง

อยากได้ถนนสาทรปลอดจากแผงลอยขายอาหารและรถเข็นอาหาร

เรื่อง แรกเห็นเพียงแวบๆ ว่ามาเลเซียประกาศอาหารหลายอย่างว่าเป็นอาหารของเขาหรืออาหารประจำชาติ รู้สึกว่าจะมีบักกุ๋ดเต๋ หรือซี่โครงหมูตุ๋น ข้าวมันไก่ ปูผัดผงกะหรี่ ข้าวผัดกะทิหรืออะไรไม่แน่ใจ ผมเข้าใจเอาเองว่า เขาคงแค่บอกทั่วๆ ไปหรือแค่ย้ำความเข้าใจ คงไม่ถึงขนาดจดลิขสิทธิ์ห้ามคนอื่นเอาไปแอบอ้างเป็นของตัวเอง
ถ้าเป็นแค่ บอกทั่วๆ ไป หรือย้ำความเข้าใจนั้นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะส่วนใหญ่ก็รู้ๆ กันอยู่ทั้งนั้นว่าอาหารอะไรเป็นของใคร เพราะทั้งข้อมูลสื่อสาร การเดินทาง โลกมันแคบลงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ แล้วคนไปที่ไหนก็ต้องกิน กินแล้วก็รู้เองว่าอะไรเป็นอะไร

เหมือน เมื่อเราลงไปหาดใหญ่ไม่กินบักกุ๋ดเต๋ ก็ไม่ถึงหาดใหญ่ เพราะรู้ว่าเป็นอาหารของจีนกลุ่มภาษาฮกเกี้ยน ซึ่งทางใต้ของไทยรวมไปถึงมาเลเซียนั้น ส่วนใหญ่เป็นถิ่นของคนจีนกลุ่มภาษาฮกเกี้ยน สมมติว่าเข้าไปเที่ยวถึงมาเลเซีย ก็ต้องอยากกินบักกุ๋ดเต๋ ว่าของทางนั้นจะเหมือนกับกินที่หาดใหญ่หรือไม่

ก็เหมือนกันว่า เมื่อไปที่นั่นก็อยากกินเนื้อสะเต๊ะแบบมาเลเซียบ้าง อาจจะอยากเปรียบเทียบว่าเหมือนทางอินโดนีเซียไหม หรือเนื้อสะเต๊ะแถวเอกมัย อ่อนนุช พระโขนง ว่ามันจะแตกต่างกันอย่างไร

ข้าวมันไก่มาเลเซีย ก็อยากลองกินว่าจะเหมือนข้าวมันไก่สิงคโปร์ด้วยหรือเปล่า อาจจะเอาข้าวมันไก่ไหหลำบ้านเราเป็นตัวตั้งว่า เป็นไก่ตอนด้วยหรือไม่ แล้วข้าวมันและน้ำจิ้มน้ำซุป ใครเด็ดกว่ากัน นักกินส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น รู้แล้วก็ชอบลอง

ก็กลับกันว่า ใครๆ ทั่วโลกรู้ว่าต้มยำกุ้งเป็นอาหารของคนไทย ที่กินมาเก่าแก่จนเป็นสัญลักษณ์ความเป็นไทย ส่วนจะกินที่ไหนนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ร้านอาหารไทยในเมืองนอกถ้าคนของประเทศนั้นเข้าร้านอาหารไทยก็ต้องสั่งต้มยำ กุ้ง กินบ่อยๆ จนชินรสมือของร้านนั้น มาเมืองไทยกินในร้านในเมืองไทย บอกว่าไม่เหมือนต้มยำกุ้งที่เคยกิน หรือเคยกินผัดไทยในร้านที่เคยกินบางทีเป็นผัดไทยที่ใส่เห็ดแชมปิยอง ใส่แครอต ต้นหอม นึกว่าใช่แล้วมากินที่เมืองไทยกลับไม่ใช่อีก คนกินเขาเปรียบเทียบด้วยตัวเองว่าชอบอย่างไหน แต่ก็รู้ว่าอะไรเป็นของใคร ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ต้องย้ำความเข้าใจครับ

เรื่องอาหารนั้นเป็น วัฒนธรรมที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาและเร็วด้วย แต่ละชาติจะมีอาหารประจำชาติเยอะด้วยกันทั้งนั้น แล้วมักจะไปแพร่หลายในชาติอื่นๆ ด้วย มีทั้งถ่ายไปและรับมา แต่ละชาติที่รับของคนอื่นมานั้น ก็ยังเลือกเอาที่ถูกปากตัวเอง ไม่เอามาดะหมดทุกอย่าง พอเอามาแล้วยังมาปรับปรุงใช้วัตถุดิบที่ตัวเองมีอยู่ผสมปนลงไปด้วย ปรุงรสตามความเคยชินของลิ้น ยกตัวอย่างพิซซา ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก ทุกคนรู้ว่าเป็นของอิตาเลียน แต่กินที่ไหนไม่เคยเหมือนกัน อาจจะอร่อยหมด จนไม่รู้ว่าพิซซาต้นแบบเป็นอย่างไร ไม่ต้องอะไร พิซซาเจ้าดังที่สุดที่มีอยู่ทุกห้างในขณะนี้ ไม่มีซอสมะเขือเทศรองพื้นบนแป้ง ไม่เหมือนพิซซาที่อื่นๆ อย่างนี้ก็มี

หรือ กินบิ๊กแมคของแมคโดนัลด์ กินที่อเมริกากับกินที่อินโดนีเซียก็ไม่เหมือนกัน อย่างน้อยกลิ่นเนื้อ ผัก ขนมปัง และซอสมะเขือเทศไม่เหมือนกันแน่ๆ ทั้งๆ ที่มีบริษัทแม่เดียวกันแท้ๆ

ฉะนั้นเรื่องการจดลิขสิทธิ์จึงไม่น่าจะ เป็นไปได้หรือเลิกคิดไปเลย แต่กลับกันว่าเมื่อของตัวเองมีของดี ก็ส่งเสริมให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ เอาอาหารเป็นตัวสร้างชื่อเสียงให้ประเทศตัวเองได้ อีกตัวอย่างผงเครื่องปรุงต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ ผัดเปรี้ยวหวาน ตอนนี้บริษัท แม็คโคมิค ซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องเทศเครื่องปรุงใหญ่ที่สุดในโลก ทำเครื่องปรุงอาหารไทยอย่างที่ว่าขายแล้วครับ ใครๆ น่าจะยินดีที่มีคนอื่นมาช่วยส่งเสริมอาหารไทยให้ รวมทั้งบริษัทผลิตเครื่องปรุงคนไทยก็น่าจะชอบไม่ต้องออกแรงโฆษณาเครื่องปรุง ไทย แล้วมีโอกาสพัฒนาของตัวเองแข่งขันกัน ถ้าดีจริงลูกค้าก็เลือกของเราเอง

มา ถึงเรื่องที่สองที่อยากได้ถนนสาทรปลอดจากแผงลอยและรถเข็นอาหาร จริงๆ ถึงแผงลอยและรถเข็นอาหารนั้นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของวิถีชีวิตไทย ไม่มีที่ไหนในโลกที่มีอาหารริมถนนเท่าเมืองไทย ฝรั่งมาถนนข้าวสาร กินผัดไทยกับข้าวราดไข่เจียว 10 บาท ก็กินได้สนุกด้วย กินไปเดินไป หรือพอมืดต้องไปเยาวราชไปกินซีฟู้ดตรงถนนเท็กซัส คนไทยเองก็ต้องไปกินกวยจั๊บน้ำใส ผัดไทยปากซอยอิสรานุภาพ หรือกินขนมปังปิ้งกรอบริมถนน และอื่นๆ อีก หรืออยากจะกินอาหารอีสานต้องริมถนนริมคลองจากเทเวศร์ถึงสำนักงานทรัพย์สินฯ หรือของกินหลากหลายที่ริมถนนนครชัยศรี ศรีย่าน ทั้งหมดนี้ถ้ามีแต่ถนนโล่งๆ เกลี้ยงๆ มันขาดชีวิต

แต่ผมอยากได้ถนนสาทรไม่ให้มีอย่างนี้ ขอหนึ่งถนน ตอนนี้ถนนสาทรเหมือนกับวอลสตรีตของเมืองไทย ถนนกว้าง สองข้างทางซึ่งมีแต่ตึกที่ทำงานและโรงแรมและสถานทูตสร้างตามกฎหมายบังคับ ทุกตึกมีระยะร่นจากถนนเปิดเป็นพื้นที่โล่ง มีฟุตปาทกว้าง ป้ายรถเมล์มีมากและเรียบร้อยดี มีราวลูกกรงจอดรถจักรยาน ไม่มีคัตเอาต์โฆษณาใหญ่ๆ (แต่ก็มีบางตึกแอบแขวนคัตเอาต์ผ้ามาแขวนกับตึก) สตรีตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โคมไฟตรงฟุตปาท (อาจจะเชยไปนิด) มีเก้าอี้นั่งริมถนน ที่ยังขาดคือถังขยะที่กลมกลืนกันกับสตรีตเฟอร์นิเจอร์ ต้นไม้ประดับประเภทดอก (อย่าเอาชาฮกเกี้ยนที่เหมือนแท่งคอนกรีตสีเขียว)

แต่ ตอนนี้ทุกเช้ารถเข็นและแผงลอยอาหารเริ่มมาแล้วครับ มาตั้งแต่เช้า บางเจ้าก็ลากยาวไปถึงเที่ยง ออกมาขายคนทำงานออฟฟิศครับ อ้างว่าขายคนทำงานเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เหตุผลเริ่มต้นแค่เล็กๆ แต่เมื่อเริ่มต้น 5 เจ้า เดี๋ยวก็ 20 เจ้า แล้วก็ไปถึง 200 เจ้า ยาวตลอดถนน แล้วความสกปรกและคนเดินฟุตปาทก็เดินลำบากในวันข้างหน้าต้องมีแน่ การแก้ปัญหาในตอนนั้นยากแน่ ให้ไปไม่ไป กลายเป็นปัญหามวลชน เป็นเรื่องใหญ่จะถูกหาว่าเป็นการรังแกประชาชนที่เคยทำมาหากิน อาจจะลามไปประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาลก็ได้

ไม่รู้หน้าที่ดูแลฟุตปาทนี่ยังเป็นของเทศกิจอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็แย่มาก ปัญหาที่เพิ่งเริ่มต้นไม่แก้ แล้วจะไปแก้ตอนไหน

ผมขอถนนสาทรที่เดียว ซึ่งจริงๆ แล้วไม่รู้ว่าต้องขอกับใคร ขอลอยๆ แล้วกันครับ

view