จากประชาชาติธุรกิจ
"มา ร์ค"พบ"แพทย์ชนบท" ชงชื่อเต็มฝ่ายการเมืองพัวพัน ครุภัณฑ์ไทยเข้มแข็ง 4-5 ราย ระบุมีทั้ง ปชป.-ภท. อ้างนายกฯเห็นด้วยราคากลางสูงเกินจริง ลั่นต้องเตะตัดขา ไม่นั้นเสียหายหมื่นล้าน เสียงอ่อย ไม่มั่นใจสาวถึงตัวใหญ่ จี้ ฝ่ายการเมืองรมช.ลาออกมั่ง
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 ตุลาคม ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี อาคารรัฐสภา 1 น.พ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียตริ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้เวลา 20 นาที ก่อนเปิดเผยว่า นายกฯได้ประสานงานให้ตนมาให้ข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่า เรื่องเป็นมาอย่างไร ตนได้เรียนให้นายกฯทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกฯได้รับทราบปัญหาแล้ว และเห็นด้วยกับแนวทางและข้อเสนอหลายๆประเด็นที่แพทย์ชนบทเสนอไป ประกอบด้วย กลุ่มแพทย์ชนบทเห็นว่าโครงการไทยเข้มแข็งที่ทำอยู่เป็นโครงการที่ดี ยังมีความจำเป็นต่อกระทรวงสาธารณสุข เพียงแต่เห็นว่าควรจะมีการปรับแก้ และทบทวนในเรื่องราคากลางของสิ่งก่อสร้างและราคาเครื่องมือแพทย์ และเห็นด้วยว่า ควรจะมีการทบทวนในบางพื้นที่ที่มีความจำเป็น และบางรายการที่ไม่ต้องการก็ตัดออกไป
น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ภาพรวมที่กลุ่มแพทย์ชนบทเสนอความคิดเห็นต่อนายกฯในเรื่องราคากลาง ในส่วนของงบประมาณครุภัณฑ์สิ่งก่อสร้างที่อยู่ในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาทเศษ น่าจะสูงกว่าปกติถึงร้อยละ 30 ซึ่งนายกฯก็เห็นด้วย ส่วนเครื่องมือแพทย์และในบางพื้นที่ที่ไม่ได้ร้องขอแต่มีการจัดลงไปให้ ก็จะต้องมีการปรับแก้ และบอกให้แจ้งรายละเอียดมาอีกครั้งหนึ่งภายใน 1 สัปดาห์ โดยให้แจ้งตรงกับนายกฯ ไม่ผ่านรมว.สาธารณสุข
เมื่อถามว่า ได้รายงานนายกฯถึงตัวบุคคลที่เข้าไปพัวพันเรื่องนี้หรือไม่ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ได้รายงานไปแล้ว และบอกเป็นชื่อจริง ไม่ได้ระบุเป็นชื่อย่อเหมือนที่ผ่านมา เมื่อถามว่า มีนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า มีทั้งสองพรรคที่เกี่ยวข้อง คือทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายกฯพูดตั้งแต่ต้นว่า ถ้าเป็นกรณีของพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะดำเนินการกันเอง
เมื่อถามว่า ในส่วนของที่ปรึกษาและเลานุการรมว.สาธารณสุขที่ลาออกไปแล้ว เป็นส่วนหนึ่งที่มีปัญหาใช่หรือไม่ ได้รายงานนายกฯในเรื่องนี้หรือยัง น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบ เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรด้วยหรือไม่ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงตนเรียกร้องไปตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว เพราะตนถือว่า ทางฝ่ายรมว.สาธารณสุข น่าชื่นชม ที่อย่างน้อยแม้กระบวนการการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้น ก็แสดงสปิริตลาออกไปก่อน อย่างน้อยทำให้กระบวนการตรวจสอบสอบสวนดีกว่าเดิม แม้อาจไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ส่วนตันตนเห็นว่า ถ้าจะแสดงสปิริตเช่นเดียวกับทีมของรมว.สาธารณสุขก็น่าจะดีไม่น้อย เพราะในแง่ข้อเท็จจริงมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีผู้เกี่ยวข้องกันทั้งสองส่วน
เมื่อถามว่า ได้รายงานชื่อนักการเมืองที่เกี่ยวข้องไปกี่ชื่อ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเมือง มีทั้งหมดไม่น้อยกว่า 4-5 ชื่อ และบอกนายกฯไปแล้ว แต่ถ้ารวมภาคราชการที่มีระดับสูงพอสมควร ก็เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เมื่อถามว่า ระดับนักการเมืองสูงถึงระดับรัฐมนตรีเลยหรือไม่ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ เพราะมันเหลืออีกเล็กน้อยจริงๆ
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถเอาโทษนักการเมืองได้ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่ค่อยมั่นใจมาก เรียนตรงๆ เพราะกรณีเช่นนี้ไม่มีใบเสร็จเป็นทางการ เพียงแต่เป็นข้อมูลที่เราเช็คมาได้และน่าเชื่อถือ ซึ่งเราได้เรียนนายกฯตามจุดยืนที่เราเริ่มต้น เนื่องจากเป็นเม็ดเงินค่อนข้างสูง จะปล่อยให้มีการดำเนินการโครงการจนสมบูรณ์ไม่ได้ เพราะค่าเสียหายจะสูง เป็นหมื่นล้านบาท เราจึงเห็นว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องปรามโดยมีการประสานเป็นการภายในกับ นายกฯอยู่แล้ว ซึ่งนายกฯก็เห็นด้วยว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นก่อน” เมื่อถามว่า ถ้าไม่มีหลักฐาน อย่างนี้ก็เอาผิดใครไม่ได้ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในเชิงรูปธรรมเอาผิดได้ยาก
เมื่อถามว่า พอใจแค่ไหนกับการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ น.พ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯก็ค่อนข้างจริงใจกับเรื่องนี้ และรับทราบข้อมูลมาแต่ต้น อย่างวันนี้ ก็เห็นได้ชัดว่า นายกฯมีการประสานขอข้อมูลมายังเรา ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะไม่มีการข่มขู่ แต่มีการรับฟังปัญหา ดูเหมือนไม่มีการปฏิเสธหรือยกการ์ดปกป้องอะไร อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป ถ้ามีข้อมูลอะไรที่ตรวจเจออีก และเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่จะเสนอผ่านสื่อ ก็จะมีการเผยกับสื่อต่อไป
แพทย์ชนบทเผยนักการเมืองปชป.-ภูมิใจไทยเอี่ยวทุจริต
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แพทย์ชนบทชงข้อมูลนายกฯ ทุจริตซื้อครุภัณฑ์ของสาธารณสุข เผยมีนักการเมืองจากปชป.-และภูมิใจไทย ข้าราชการระดับสูง สธ.เกือบ 10 คน เกี่ยวข้อง
ในวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชิญตัวแทนแพทย์ชนบทเข้าพบที่ห้องรับรองอาคารรัฐสภา เพื่อขอข้อมูลเรื่องการทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขในโครงการไทยเข้มแข็ง เป็นเวลาประมาณ 30 นาที
จากนั้น นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า ได้นำข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีที่มีการกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตเรื่อง การจัดซื้อครุภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์มาเสนอให้นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทบทวนจุดบกพร่องของโครงการ โดยเฉพาะเรื่องราคากลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยว่ายังมีจุดบกพร่องอยู่ โดยเฉพาะราคากลางที่สูงเกินจริง เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้แพทย์ชนบทกลับไปรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดเพิ่ม เติม และนำข้อมูลมาเสนอภายใน 1 สัปดาห์
ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ได้เปิดเผยรายชื่อนักการเมืองที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย รวม 4-5 คน และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข 2-3 คน ให้นายกรัฐมนตรีทราบ และนายกรัฐมนตรีรับจะตรวจสอบให้ โดยเฉพาะนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ดี ที่ตนเห็นว่าไม่มีการปกป้องนักการเมืองด้วยกัน แต่ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างที่พูดหรือไม่ เพราะนักการเมืองทำอะไรไม่มีใบเสร็จ อย่างไรก็ตาม การที่แพทย์ชนบทออกมาเปิดเผยข้อมูลเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการทำทุจริต ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง
"การลาออกของที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องยอมรับว่าเป็นการแสดงสปิริตของนักการเมือง เพื่อให้เกิดการตรวจสอบที่โปร่งใส แต่อยากฝากพรรคการเมืองบางพรรคที่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ แต่ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หากปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขเกิดขึ้น มูลค่าความเสียหายที่จะมีต่อรัฐจะเป็นหมื่นล้านบาท"
นพ.ประเวศ วะสี กล่าวว่าสธ.เป็นกระทรวงที่มีนายแพทย์อยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมรับกับ สิ่งที่ไม่ถูกต้อง จนครั้งหนึ่งมีการพูดกันในหมู่นักการเมืองว่า ถ้าได้บริหารกระทรวงนี้จะต้องเป็นมังสวิรัต คือไม่สามารถโกงกินได้ เนื่องจากตัวอย่างมีให้เห็นมาแล้วว่ารัฐมนตรีถึงกับต้องเข้าคุก เหตุการณ์ปัจจุบันก็เช่นกัน
"ขอให้นักการเมืองหรือผู้คิดแสวงผลประโยชน์กับกระทรวงนี้ยุติการกระทำดัง กล่าว เพราะว่าความจริงจะถูกเปิดเผยในที่สุด สิ่งที่อยากให้ผู้ที่กำลังจะทุจริตคิด ถึงมาก ๆ คือผลกระทบจะเกิดขึ้นกับโลก หรือผู้ใกล้ชิดที่จะต้องถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนโกง อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการตรวจสอบถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้ไม่มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นอีก"
