จากประชาชาติธุรกิจ
โรค ร้ายที่รุกรานผู้หญิงขึ้นแท่นท็อปชาร์ตมานานเท่านาน เห็นทีจะไม่มีใครรั้งตำแหน่งอันดับต้น ๆ ได้เช่น ′มะเร็งเต้านม′ ที่ไล่ตาม ′มะเร็งปากมดลูก′ มาติดๆ ความ น่ากลัวนี้พบได้บ่อย มาก ระดับที่ผู้หญิง10 คน ต้องมีสักหนึ่งที่เป็นโรคนี้ เช่นเดียวกับผู้ชายที่มีไม่น้อยที่หนีไม่พ้นโรคนี้เหมือนกัน
จาก สถิติของโรงพยาบาลศิริราช ปี 1990 พบว่ามีคนป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 12.88% เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขที่พบว่าในปีเดียวกันนั้นหญิงไทยทั่วประเทศ เป็นโรคนี้ 20 คนต่อ 2 แสนคน แต่ถ้าเป็นสาวกรุงเทพฯจะเป็นมากถึง 38 คนต่อแสนคน
ในอเมริกาพบว่าทุก ๆ 3 นาที จะมีผู้หญิงเป็นโรคนี้และจะมี ผู้เสียชีวิตจากโรคนถึงนาทีละ 12 คน
จากข้อมูลพบว่าเพศหญิงยิ่งอายุมากยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น ถ้าครอบครัวไหนมีประวัติยิ่งเสี่ยงสูงขึ้นเป็น 2 เท่าและจะมากถึง 3-4 เท่าถ้าคนๆ นั้นเคยเป็นมาแล้ว
ไม่พอ ยังพบอีกว่า หญิงหน้าอกใหญ่มีความเสี่ยงมากกว่าสาวอกไข่ดาว และหญิงที่ีประจำเดือนมาก่อนอายุ 12
หรือผู้ที่หมดประจำเดือนหลัง 50 ปีก็มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น
นอกนั้นแล้วสถาบันทางการแพทย์ในอเมริกาพบว่าสาวโสด สาว ที่ไม่มีลูก ผู้ที่กินยาคุมนานเป็น 10 ปี หรือเริ่มกินตั้งแต่อายุยังน้อย อยู่ในความเสี่ยงสูง เช่นเดียวกับ สาวร่างอ้วน สาวดูด-ดื่ม หรือผู้ที่ชอบกินฟาสต์ฟู้ด ปิ้ง ย่าง รมควัน เนื้อแดง ไขมันสูง ไม่ชอบออกกำลังกาย แถมอยู่กับเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก ๆ ทั้งไมโครเวฟ เครื่องถ่ายเอกสาร หรือกินสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ก็พึงระวัง
ฟัง ดูแล้วทั้งหมดเป็นเรื่องใกล้ตัวทั้งสิ้น นี่เองจึงเป็นที่มาที่ไปที่ ทำให้สหรัฐอเมริกาเดินหน้าลุยรณรงค์เรื่องของมะเร็งเต้านมเป็นสำคัญ
เริ่ม จากปี 1985 เป็นการออกสตาร์ต และมาเอาจริงเอาจังกันอย่างเต็ม ๆ เมื่อปี 1993 เมื่อบิล คลินตัน ประธานาธิบดีในสมัยนั้น ประกาศให้ทุกวันศุกร์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นเดือนป้องกันมะเร็งเต้านมของชาติ หรือที่เรียกว่า National Mammography Day เพื่อรณรงค์ให้ผู้หญิงทั้งหลายให้ความ สำคัญกับการตรวจเต้านมกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง
การรณรงค์นี้ประเทศไทยก็เดินหน้าเอาจริงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ศูนย์ถันยรักษ์ (Breast Center) กำหนดให้เดือนพฤษภาคม เดือนแห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ องค์ประธานมูลนิธิ และเดือนตุลาคม เดือนพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี องค์ประธานผู้ก่อตั้งเป็นเดือนแห่งการดูแลเต้านม
ดัง นั้นเมื่อล่วงเข้าสู่เดือนตุลาคม ริบบิ้นสีชมพูก็ปลิวว่อน กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเป็นหญิงนี้เกิดขึ้นมากมาย อาทิ นิตยสารเชปจัดงานวิ่งเพื่อสุขภาพ Shape Run Thailand 09 เพื่อหารายได้มอบให้กับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้กับมะเร็งเต้านม หรือที่โรงพยาบาลวัฒโนสถ จัดงาน Beat Breast Cancer ขึ้น เพื่อมอบความรู้ให้กับผู้ที่สนใจ พร้อมแฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ตและจำหน่ายเสื้อเพื่อหารายได้ให้กับมูลนิธิถันยรักษ์ ในวันที่ 10 ตุลาคม ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 1 โรงพยาบาลกรุงเทพ 10.00-12.00 น.
แต่ถ้าไม่สะดวกไปร่วมกิจกรรมดก็ควรดูแลตัวเองด้วยการหมั่นออกกำลังกาย ออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ อย่างสม่ำเสมอ ควร หลีกเลี่ยงบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับให้พอ และมองโลกแง่บวก หลีกเลี่ยงความเครียด ที่สำคัญอย่างลืมตรวจเต้านมอย่างสม่ำเสมอ จะทำด้วยตัวเองหรือไปทำแมมโมแกรมได้ก็ยิ่งดี
ทั้งหมดนี้เป็นการดูแลความเป็นหญิงให้อยู่กับเราไปนานเท่านาน
