จากประชาชาติธุรกิจ
5 สมาคมวิชาชีพเกาะติดกระแสแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ชี้แนวคิดโครงการดี ช่วยกระตุ้นตลาด-ผู้บริโภคให้ตื่นตัว ย้ำต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เน้นความโปร่งใส ชัดเจน
ขณะ ที่แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ระยะที่ 2 ซึ่งรัฐบาลจะใช้เป็นยุทธศาสตร์หลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด�วยการเพิ่มงบฯลงทุนที่สูงถึง 8 แสนล้านบาท ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์และติดตามโครงการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ล่าสุด 5 สมาคมวิชาชีพ คือสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และสมาคมการขายตรงไทย ได้ออกมาแสดงจุดยืนและแสดงความเห็นต่อโครงการดังกล่าว
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า 5 สมาคมวิชาชีพมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เป็นโครงการที่มีแนวคิดที่ดี และจะทำให้เกิดหลายสิ่งหลายอย่างที่จะเป็นปัจจัยสำคัญเข้าไปช่วยสภาวะเศษ ฐกิจได้จริง อย่างไรก็ตาม ภาครัฐต้องผลักดันให้กระบวนการของโครงการต่าง ๆ เป็นรูปธรรม และต้องสามารถตรวจสอบได้ มีความโปร่งใสด้วย
นางสาววิ ริยา วรกิตติคุณ นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถ้าเศรษฐกิจมีการพื้นตัวได้เร็วมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจของกิจการ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ได้ชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ ดังนั้น ถ้าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวและส่งผลให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจที่จะนำเงินมาลง ทุน ก็จะช่วยกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมเกิดการลงทุนมากขึ้น ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ขึ้น
ขณะที่ พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมขายตรงไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า การดำเนินการตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ จะเป็นความหวังที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า มาตรการนี้ได้กระตุ้นให้กลไกทางตลาดได้เกิดการตื่นตัวมากกว่าครึ่งปีที่ผ่าน มา ขับเคลื่อนให้มีแรงซื้อมากขึ้น เกิดการจับจ่ายใช้สอยตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับประเทศ เกิดการหมุนเวียนสภาพคล่องในระบบธุรกิจ นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งสร้างโอกาส นั่นคือการส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแล สร้างบรรยากาศให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็ง สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเข้ามารองรับ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ชุมชน และสังคมให้เกิดแรงขับเคลื่อนที่เป็นระบบในทางเดียวกัน
นาย วิทวัส ชัยปาณี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย แสดงความเห็นว่า ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจโฆษณา อุตสาหกรรมนี้คงมีรายได้จากการโฆษณาบางโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง นอกจากนี้ ในโครงการที่มีผลระยะยาว เช่น ในส่วนของ Creative Economy ทุกคนคงมีความคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีงบประมาณมาสนับสนุนวงการโฆษณาไทยโดยตรง เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในวงการ ประโยชน์โดยตรงจากการจ้างงานจำนวนมากทันที ทั้งโครงการลงทุนขนาดกลาง เล็ก ใหญ่ ประโยชน์ในแง่ความสะดวกสบาย และคุณภาพชีวิต
ส่วนดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ นายกสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย กล�าวว่า รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารและทำความเข้าใจกับการประชาสัมพันธ์ใน ทิศทางที่ถูกต้อง และสิ่งเร่งด่วนที่ควรจะทำในขณะนี้เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง คือความมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างระมัดระวัง และป้องกันปัญหาการคอร์รัปชั่น และนำเสนอผลลัพธ์ของการใช้เงินงบประมาณสู่สาธารณชน การปฏิบัติการที่รวดเร็ว ต้องควบคู่ไปกับการให้ รายละเอียดและข้อมูลที่เป็นจริงเป็นระยะให้กับภาคประชาชนได้รับทราบอย่างต่อ เนื่อง |
