สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ซินโนเวต เผยผลวิจัย คนหันออมเงิน ซื้อเท่าที่จำเป็น

จากประชาชาติธุรกิจ



 ซินโนเวต บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำในเครืออีจิส กรุ๊ป ทำการสำรวจกลุ่มผู้บริโภคกว่า 6,700 คน จาก 16 ประเทศ ได้แก่ อเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ สเปน บราซิล รัสเซีย ออสเตรเลียแอฟริกาใต้ อินเดีย เซอร์เบีย ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย เกี่ยวกับการจัดการด้านการเงิน จำนวนทั้งสิ้น 11,400 คน พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบมีการจัดการด้านการเงินของตนเองและทัศนคติในด้านการ ออมเงินที่เปลี่ยนไป นับตั้งแต่ประสบกับสภาวะเศรษฐกิจที่รุนแรงทั่วโลก นอกจากนี้ คนบางกลุ่มในบางประเทศ ยังใช้เงินสดมากขึ้น บางกลุ่มใช้น้อยลง หลายกลุ่มใช้บัตรเครดิตน้อยลง แต่ยังต้องพกไว้  บางคนเลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญในชีวิตออกไปก่อน

@เปลี่ยน เปลี่ยน และ เปลี่ยน
ในความเป็นจริง การจัดการด้านการเงินการธนาคารของคนทั่วโลก ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใน 1 ปีที่ผ่านมา  
ปัจจุบัน พบว่า ผู้ตอบคำถามจำนวน 26% ใช้เงินสดมากขึ้น ในขณะที่อีก 27% ใช้น้อยลง ชาวแอฟริกาใต้กว่าครึ่ง ใช้จ่ายด้วยเงินสดมากขึ้น  ในกรณีนี้ อลิเซีย แก็ดดิน  หัวหน้าฝ่ายให้บริการด้านการเงิน ซินโนเวต แอฟริกาใต้ กล่าวว่า การใช้จ่ายด้วยเงินสด มีข้อดีคือ สามารถหยุดยั้งการใช้จ่ายได้  เพราะคุณจะเห็นเงินที่ออกจากไปกระเป๋าของคุณ และชาวแอฟริกาใต้จำนวนมากที่ยกเลิกการใช้บัครเครดิตและหันมาออมเงินเพื่อ ซื้อของที่อยากได้แทน
  การใช้บัตรเครดิต ได้รับความนิยมมากและน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ 14% ของผู้ตอบคำถามทั้งหมด  ใช้บัตรเครดิตมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่อีก 18% ใช้น้อยลง ประเทศที่ใช้มากที่สุดคือ บราซิล มีจำนวน 29%  รองลงมาคือ ฝรั่งเศส จำนวน 28% และเดนมาร์ก มีจำนวน 26%   แอรี่ กอนซาเลส ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท ซินโนเวต ประเทศบราซิล กล่าวว่า มีเหตุผล 2 ประการ ที่ทำให้เป็นเช่นนี้  คือ อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่อยู่ในขาลง ทำให้คนไม่กลัวที่จะต้องใช้บัตร อีกเหตุผลหนึ่งคือ ธนาคารและผู้ให้บริการมีการรณรงค์เพื่อให้คนเห็นประโยชน์ในการใช้บัตรเครดิต   การใช้เช็คดูเหมือนจะเป็นทางออก ปริมาณการใช้เช็คนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพราะเทคโนโลยี และ ประสิทธิภาพของมัน มากกว่าผลกระทบจากวิกฤติทางการเงิน จากผู้ตอบคำถามทั้งหมด มีเพียง 3% ที่ใช้เช็คแทนเงินสดมากกว่าเดิม จำนวน 20% ใช้ในปริมาณเท่าเดิม  ส่วน 17% ใช้น้อยลง และมากถึง 60% ที่ไม่ได้ใช้จ่ายด้วยเช็คเลย   แคร์ เพียร์สัน รองประธานกรรมการอาวุโส ฝ่ายให้บริการด้านการเงิน ซินโนเวต สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ปัจจุบัน ชาวอเมริกันใช้บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น  เพราะมีราคาถูกกว่าการใช้เช็ค และมีข้อจำกัดน้อยในการใช้น้อยกว่า การจ่ายเงินแบบอัตโนมัติสามารถวางแผนได้ล่วงหน้า และไม่ต้องกังวลว่าจะเสียค่าปรับหากจ่ายช้าด้วย งานวิจัยทั้งหมดที่เราทำขึ้นมา บอกเราได้ว่า ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทุกคนต่างตัดสินใจในด้านการเงินเป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและครอบครัว แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยๆก็ตาม   อธิศนันท์ ศรีทองอินทร์ ผู้อำนวยการโครงการอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน และการธนาคาร บริษัท ซินโนเวต ประเทศไทย กล่าวว่า ผู้บริโภคในประเทศไทย มีพฤติกรรมด้านการเงินที่เปลี่ยนไปเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก คือ มีการใช้เงินสดแทนบัตรเครดิตมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ ส่วนกลุ่มที่ยังใช้บัตรเครดิตอยู่จะลดยอดการใช้จ่ายแต่ละครั้งลง และจะใช้บัตรเพื่อจ่ายสินค้าหลักๆ ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเช่น ค่าอาหาร มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือยหรือเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน นอกจากนี้ กลุ่มคนที่มีฐานะปานกลางถึงค่อนข้างดีหรือกลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท ขึ้นไป (Mass affluent) ยังสมัครบัตรเครดิตน้อยลง และลดจำนวนบัตรเครดิตที่ใช้ลงด้วย  

@ไม่ใช่การปฏิวัติ แต่มันเป็นสิ่งใหม่
ข่าว คราวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ยังคงถูกนำเสนออกมาอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ด้านการเงินที่บีบคั้นเหล่านี้ ส่งผลให้สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลง  คนตัวเล็กๆอย่างเรา มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง??
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค ได้แก่
6% ของผู้ตอบจาก 16 ประเทศบอกว่า พวกเขาเปลี่ยนธนาคารที่ใช้บริการเมื่อหกเดือนก่อน นำโดยชาวแอฟริกาใต้จำนวน 16%  สเปน 11%  และ นิวซีแลนด์ 10%
  7% นำเงินออกจากตลาดหุ้นและขายหุ้น นำโดยไต้หวัน จำนวน 17%  ฮ่องกง 14%  และ สเปน 13%   อีก 7% เช่นกัน ที่มีการปรับเปลี่ยนการลงทุนให้มีความเสี่ยงน้อยลง นำโดยไต้หวัน 13% สเปนและแอฟริกาใต้จำนวนเท่ากันคือ 12%   1 ใน 12 ของผู้ตอบคำถาม มีการนำเงินออกจากกองทุนเกษียณอายุ นำโดยชาวเดนมาร์กจำนวน 24%   13% จากผู้ตอบคำถามทั้งหมด เพิ่มการออมเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินนำโดยชาวมาเลเซียจำนวน 28% แอฟริกาใต้ 23%  และสเปน 20% ส่วนคนที่ลดการออมเงินเพื่อกรณีนี้ มีจำนวน 11% นำโดยชาวบราซิลมีจำนวนถึง 1 ใน 3  และนิวซีแลนด์ จำนวน 1 ใน 4   1 ใน 10 ของผู้ตอบคำถามยกเลิกการใช้บัตรเครดิต นำโดยชาวบราซิลและแคนาดา จำนวน 11% เท่ากัน
8%  ยอมรับว่าจ่ายหนี้บัตรเครดิตช้าลง นำโดยชาวบราซิลจำนวน 26% นิวซีแลนด์ 23% และแอฟริกาใต้อีก 20%   22%  ของผู้ตอบคำถามทั้งหมด มีการเขียนหรือทบทวนแผนค่าใช้จ่ายของพวกเขาใหม่อีกครั้ง นำโดยแอฟริกาใต้ 52%  บราซิล 43% และ นิวซีแลนด์ 41%   9% ตอบว่า พวกเขาไม่มีงานทำมาหกเดือนแล้ว โดยประเทศบราซิลมีจำนวนมากที่สุดคือ 23%  แอฟริกาใต้ 21% และนิวซีแลนด์ 15%   แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆประเทศ แต่สำหรับผู้บริโภคในบางประเทศก็บอกกับเราว่าพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก หรือแทบจะไม่เปลี่ยนเลย เช่นในฮ่องกงมีจำนวนถึง 56% อินเดีย 55%  และ ฝรั่งเศส 51%  

@ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป
ถ้าการเปลี่ยนแปลงเท่ากับเรามีวันหยุดเพิ่มขึ้น ทำไมเราถึงไม่พักผ่อนกันตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ
ซิ นโนเวตได้สำรวจพบว่าชาวนิวซีแลนด์จำนวน 37%  ชาวรัสเซีย 35% และ ชาวสเปน 32% ได้เลื่อนแผนการไปพักผ่อนที่ต่างประเทศออกไปอีก 6 เดือน
  ฮอร์ส เฟลด์เฮอร์เซอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท ซินโนเวต นิวซีแลนด์ กล่าวว่า  โดยส่วนใหญ่แล้วคนจะกลับไปใช้ชีวิตแบบติดดินมากขึ้น จากเดิมที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ ก็จะหันมาเที่ยวในประเทศแทน หรืออาจจะแค่ออกไปใกล้ๆในละแวกบ้านของพวกเขาเท่านั้น   ไม่ใช่แค่พฤติกรรมการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ เปลี่ยนไป ผู้ตอบจำนวน 15% จากทั้ง 16 ประเทศ ยังเลื่อนการใช้จ่าย หรือจ่ายน้อยลงในการซื้อรถยนต์ นำโดยชาวบราซิล 34%  ในกรณีนี้ กอนซาเลส กล่าวเพิ่มเติมว่า  พฤติกรรมเช่นนี้อาจจะเพิ่มมากขึ้นอีก ถ้ารัฐบาลไม่ไม่หาวิธีการที่จะกระตุ้นหรือจูงใจผู้บริโภค และลดราคาลง   การตัดสินใจในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค ก็ถูกเลื่อนออกไปและมีการลดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
การซื้อบ้าน - ผู้ตอบจำนวน 10% เลื่อนการติดสินใจซื้อออกไป นำโดยชาวบราซิล 22% รัสเซีย 18% และนิวซีแลนด์ 16%
  การตกแต่ง ซ่อมแซมบ้าน - ก็ถูกเลื่อนออกไปเช่นเดียวกัน โดย 33% เป็นชาวรัสเซีย  เซอร์เบียมีจำนวน 31%  และบราซิลมีจำนวน  30%   การซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่ คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ๆ ผู้ตอบจำนวน 23% ตัดสินใจเลื่อนการซื้อออกไปและซื้อน้อยลง  นำโดยชาวนิวซีแลนด์ จำนวน 39%  บราซิล 37%  และ สเปน 31%   การตัดสินใจเพื่อเรื่องครอบครัวก็ถูกเลื่อน ออกไป 4% จากผู้ตอบทั้งหมด เลื่อนการจัดงานแต่งงานออกไป และใช้จ่ายน้อยลง ในบราซิลมีจำนวน 12% ไต้หวันและรัสเซีย มีจำนวนเท่ากันคือ  7%   เจนนี่ ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินโนเวต ไต้หวัน  กล่าวว่า ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจว่าสภาวะเช่นนี้จะดีขึ้นเร็วแค่ไหน พวกเขากำลังใช้ชีวิตและตัดสินใจตามภาวะเศรษฐกิจของโลก เลื่อนการมีลูก การแต่งงาน การย้ายบ้าน เปลี่ยนงาน เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น  แม้แต่ในไต้หวันเอง ผู้คนก็ยังเปลี่ยนการใช้ชีวิต แม้ว่าจะเป็นประเทศที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากภาวะเศรษฐกิจของโลกถดถอย ก็ตาม    6 % เลื่อนแผนการมีลูกออกไปก่อน  นำโดยบราซิล 13%   แอฟริกาใต้จำนวน 12% และ 1 ใน 10 เป็นชาวรัสเซียและสเปน ในเรื่องการเข้ารับการผ่าตัด ผู้บริโภคจำนวน 5% ได้เลื่อนออกไปถึง 6 เดือนเช่นกัน  นำโดยชาวบราซิล 13%  สเปน 8% และ 7% เป็นชาวเดนมาร์ก ฝรั่งเศส อเมริกา และนิวซีแลนด์ ซึ่งมีจำนวนเท่ากัน   เบรเวอร์แมน กล่าวว่า ปริมาณการว่างงานในอเมริกามีค่อนข้างสูง  ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ขาดรายได้ที่ใช้ในครัวเรือนไปมาก ทำให้การตัดสินใจในเรื่องการเงินนั้นยากขึ้น เช่น จะจ่ายค่าอะไรก่อน อันไหนยังไม่จ่าย รวมทั้งการผ่าตัดที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนก็เช่นเดียวกัน

@ทำไมไม่ใช้จ่าย
ผู้ บริโภคที่เลื่อนการจ่ายเงินในเรื่องหลักๆออกไป มีพฤติกรรมการใช้เงินที่ประหยัดมากขึ้น 39% ยอมรับว่า ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะพวกเขาไม่มีเงิน แต่ยังมีเหตุผลที่น่าสนใจอื่นๆอีกด้วย
  14% จากผู้ตอบทั้งหมด กล่าวว่า พวกเขาสามารถหาเงินมาใช้จ่ายได้แต่พวกเขาอยากจะรอ โดย 11% รอเพื่อให้ของราคาถูกลง และ 11% คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด ถ้าพวกเขาจะให้เงินมากๆในตอนนี้   ดูเหมือนพวกเขาอยากจะใช้เงินเหมือนกัน แต่ในที่สุดแล้วก็เลือกที่จะไม่ใช้   เหตุผลต่างๆที่พวกเขาอยากชะลอการใช้เงินก็คือ...
มีเงินไม่มากพอ นำโดยเซอร์เบีย 66% อินเดีย 62% และรัสเซีย54%
  รอเพื่อให้ราคาลดลง อยากต่อราคา นำโดย ชาวฝรั่งเศส จำนวน 21%   มีเงินพอที่จะจ่ายได้ แต่คิดว่าการรอเวลาเป็นวิธีที่ฉลาด นำโดย เดนมาร์กจำนวน 28%  สเปน23%
ประหยัดเงิน เพื่อนำไปลงทุนแทน นำโดย มาเลเซีย จำนวน 22%
  รู้สึกผิด หากใช้เงินมากๆในตอนนี้ นำโดย ฮ่องกง22%  ไต้หวัน 21%
  
สินค้าฟุ่มเฟือย ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ ฮ่องกง23%  ไต้หวัน 20%
  เช่นเดียวกับประเทศไทย อธิศนันท์ ศรีทองอินทร์ ผู้อำนวยการโครงการอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการธนาคาร บริษัท ซินโนเวต ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังในการซื้อสินค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะซื้อสินค้าชิ้นใหญ่หรือเล็กก็จะรอโปรโมชั่นเพื่อให้ได้สินค้าในราคา ที่ลดลง    มิค กอร์ดอน กรรมการผู้จัดการ ซินโนเวต อินเดีย กล่าวว่า ที่อินเดีย ผู้บริโภคจะไม่ซื้อสินค้าที่พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะจ่าย  ครอบครัวที่มีฐานะปานกลางจะคิดอย่างรอบคอบถึงสถานะทางการเงินของพวกเขา การซื้อของแพงๆเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก  การออมเงินกลายเป็นวัฒนธรรมของที่นี่ไปแล้ว  ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณก็จะไม่ซื้อ และถ้ามีเงินก็จะซื้อในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ   อลัน เดนิส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ซินโนเวต ฝรั่งเศส กล่าวว่า คนฝรั่งเศสเป็นนักต่อรองราคาตัวยง และรู้ช่วงเวลาการจัดโปรโมชั่นเป็นอย่างดี   พวกเขารู้จักรอคอย เพื่อที่จะได้สินค้าราคาถูก พฤติกรรมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เป็นมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว   เบร็นด้า แชร์ กรรมการผู้จัดการ ซินโนเวต ฮ่องกง กล่าวว่า คนที่ฮ่องกงยังใช้จ่ายกันปกติ แต่เหตุผลที่พวกเขาเลื่อนการใช้จ่ายหลักๆออกไป เพราะบรรยากาศรอบตัวที่มีผลมาจากสภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ  พวกเขาจึงได้รับความกดดันจากสังคม ทำให้ไม่กล้าทำตัวฟุ่มเฟือยนัก   ผลการวิจัยแบบเจาะลึกบอกเราว่า พวกเขายังซื้อของ ที่เป็นแบรนด์ดังๆอยู่ แต่แทนที่จะให้ใส่ถุงของแบรนด์นั้นๆ กลับให้ใส่ถุงพลาสติกธรรมดา สาเหตุนี้เอง ที่ทำให้ดูเหมือนไม่มีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ในขณะที่เศรษฐกิจรอบด้านกำลังตกต่ำลง  

@เงินคือสิ่งสำคัญ 1 ใน 4 ของผู้ตอบเห็นด้วยที่ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้พวกเขาตระหนักถึงการลำดับความสำคัญ กว่าครึ่งหนึ่ง คือ 55% ที่มีการเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการออมเงิน และอีก 47%ที่กำลังหาวิธีการใช้จ่ายอย่างอิสระ   สตีฟ เมอร์ฟี กรรมการผู้จัดการ ซินโนเวต มาเลเซียกล่าวว่า ชาวมาเลเซียกว่า 80% ยอมรับว่า ที่มาเลเซียไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และพวกเขาไม่ได้คิดว่าวิกฤติทางเศรษฐกิจโลกส่งผลเสียเพียงอย่างเดียว แต่ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความยากลำบากและยังส่งเสริมคุณค่าของครอบครัวมาก ขึ้น คนในครอบครัวฝ่าฟันภาวะเช่นนี้ไปด้วยกัน   ส่วนคนอังกฤษจำนวน 72% ให้ความเชื่อมั่นในสถาบันทางการเงินลดลง 45% จะไม่นำเงินไปเล่นหุ้น และ 84% ต้องการให้ออกกฎควบคุมอุตสาหกรรมทางการเงิน   สจ๊วต แทกก์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านการเงินและธุรกิจกล่าวว่า ทั้งๆที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงมาก แต่ทัศนคติที่คนอังกฤษมีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์  ยังไม่รุนแรงนัก คือ คนจำนวน 45% ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า พวกเขาจะไม่ลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เลยในอนาคต  

@ทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุนด้านอื่นๆ
58%  กล่าวว่า พวกเขาพยายามที่จะไม่กลับไปใช้เงินแบบเดิมเหมือนเมื่อครั้งที่เศรษฐกิจยังดี อยู่ นำโดยชาวมาเลเซียจำนวน 80% ส่วนไต้หวันและแอฟริกาใต้ มีจำนวน 79%
  42% สนใจที่จะเพิ่มเงินออมมากกว่าลดหนี้ นำโดยชาวไต้หวัน 83%  ฮ่องกง 79% และมาเลเซีย 76%  แต่กลุ่มที่อยากใช้หนี้ให้หมดเร็วๆก็มีจำนวนมาก นิวซีแลนด์และรัสเซียมีจำนวนเท่ากันคือ  77%     แคนาดามีจำนวน 74%   7 ใน 10 ไม่ต้องการให้เพื่อนบ้านรู้เกี่ยวกับสถานะทางการเงินที่ง่อนแง่นของตน นำโดยชาวบราซิล 83%  ไต้หวันและฮ่องกงจำนวน 80%

view