สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทักษิณ ขยับ ยิ่งลักษณ์ สะเทือน

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมือง

การเปิดเกมรุกเคลื่อนไหวสร้างกระแสนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในช่วงเวลานี้ ทำไปทำมากำลังจะกลายเป็นแรงฉุดเสถียรภาพของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แบบไม่รู้ตัว

ต้องยอมรับหลังชัยชนะอันถล่มทลายของพรรคเพื่อไทย จนสร้างประวัติศาสตร์มีนายกฯ หญิงคนแรกชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ทว่าสังคมยังคลางแคลงในฝีไม้ลายมือการบริหารประเทศ

โดยเฉพาะข้อครหาเรื่องการเป็นเพียงแค่นายกฯ หุ่นเชิดให้กับพี่ชาย

การเปิดตัวเคลื่อนไหวเดินเกมยังประเทศต่างๆ แบบไม่สนใจสถานะผู้ต้องโทษรอลงอาญา 2 ปีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เวลานี้ จึงกลายเป็นการแย่งซีน “ยิ่งลักษณ์” ส่งผลให้การเร่งสร้างภาวะผู้นำให้ตัวเองก้าวพ้นจากเงาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำได้ยากขึ้นทุกที

งานนี้จึงอาจกลายเป็นความหวังดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ส่งผลเสียหายมาถึง “ยิ่งลักษณ์” แบบไม่ทันคาดคิด ตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ทันออกตัว

เบื้องต้นแล้วการเคลื่อนไหวเข้าประเทศนั้นออกประเทศนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดิ้นเฮือกใหญ่เพื่อแสดงตัวตนว่ายังมี “ศักยภาพ” เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

ดังจะเห็นความเคลื่อนไหวโฉบเฉี่ยวไปยังประเทศต่างๆ ไปจนถึงกระแสข่าวที่มีการเตรียมตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นทูตการค้าบ้าง และอื่นๆ

ชดเชยกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งต้องเก็บเนื้อเก็บตัว เพราะถูกไล่บี้มานานหลายปีในช่วงที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ทำให้การเคลื่อนไหวที่ผ่านๆ มาถูกจำกัดตีกรอบอยู่ในเพียงไม่กี่ประเทศ ทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บรูไน สิงคโปร์ กัมพูชา

การเดินยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ จึงจำเป็นต้องเร่งแสดงให้เห็นว่านานาประเทศพร้อมให้การต้อนรับอดีตนายกฯ คนนี้เพื่อสร้างแรงกดดันจากนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การปูทางพา “ทักษิณ” กลับบ้าน

สัญญาณนี้เริ่มตั้งแต่หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. มาหมาดๆ รมว.ต่างประเทศเยอรมนีออกมายืนยันว่า ได้ยกเลิกคำสั่งห้าม พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2554

จนกระทั่ง 5 ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปเยี่ยมเสื้อแดงเยอรมนี ที่นครมิวนิก และเดินทางต่อไปที่เมืองฮัมบูร์ก ในวันที่ 9 ส.ค. ยืนยันในความสามารถ และกำลังภายใน ที่สามารถปลดแอกตัวเองออกจากแบล็กลิสต์ทางการเยอรมนีได้ไม่กี่วันหลังเลือกตั้ง

ต่อเนื่องจนถึงการเดินทางไปพักผ่อนส่วนตัวที่เมาเก๊าในช่วงเวลานี้ โดยมีคนใกล้ชิดบินตรงจากเมืองไทยไปพบปะหารือกันถึงที่นั่น

ถัดมาที่การเตรียมการเดินทางไปญี่ปุ่นในวันที่ 22-28 ส.ค.นี้ ที่กำลังกลายเป็นปัญหาลุกลามบานปลายกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์เกินกว่าจะคาดการณ์

เมื่อสถานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีที่ดินรัชดาฯ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี จนทำให้กระบวนการขอวีซ่าเข้าประเทศต้องได้รับการขออนุญาตเป็นพิเศษ เมื่อปกติญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้บุคคลที่มีโทษจำคุกเกิน 1 ปีเข้าประเทศ

ทว่า ญี่ปุ่นออกมาระบุถึงการติดต่อผ่านสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าประเทศ จนที่สุดฝ่ายค้านหยิบมาเป็นประเด็นเตรียมยื่นถอดถอน “สุรพงษ์” ออกจากตำแหน่ง

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมกับภารกิจที่ควรจะทำงานเพื่อ ประชาชนตามที่ได้หาเสียง แทนที่จะเร่งทำงานเพื่อประโยชน์นักโทษหลบหนีคดี

ย้อนดูท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ คงหวังฟื้นชื่อเสียงแบบเป็นทางการผ่านเวทีปาฐกถา ที่สถาบันเศรษฐกิจและวัฒนธรรมญี่ปุ่น จีน อาเซียน เชิญไปร่วมงาน พร้อมเดินทางไปพื้นที่ประสบภัยสึนามิและแผ่นดินไหวทางฝั่งตะวันออกของ ญี่ปุ่น ที่ภาพข่าวจะได้เผยแพร่ไปทั่วโลก

โหมโรงด้วยการให้สัมภาษณ์แสดงศักยภาพผ่านสำนักข่าวเกียวโดว่า ไทยสามารถให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจของญี่ปุ่นที่ได้รับความเสียหายจากภัย ธรรมชาติ โดยการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศไทย และการให้วีซ่าระยะยาว รวมไปถึงสำหรับผู้ประสบภัยที่ต้องการเยียวยาจิตใจในไทย “หลังจากเยือนพื้นที่พิบัติภัยแล้ว ผมจะเขียนจดหมายถึงรัฐบาลไทยเพื่อเร่งให้ดำเนินการพิจารณาหาหนทางทำงานร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น”

ถึงจะเป็นความปรารถนาดีที่โชว์ศักยภาพตัวเอง แต่อีกด้านหนึ่งคำพูดในลักษณะที่ฟังดูเหมือนสามารถชี้นำสั่งการรัฐบาลยิ่ง ลักษณ์ได้ ย่อมส่งผลเสียหายต่อรัฐบาลที่เหมือนไม่มีอำนาจที่แท้จริงในมือ ตอกย้ำข้อครหาเรื่องต้องคอยรอฟังคำสั่งจากนอกประเทศเป็นหลัก

ถัดมาที่การเตรียมเยือนกัมพูชาซึ่งสุดท้ายถูกเลื่อนออกไปเป็นหลังการ เยือนประเทศญี่ปุ่น ในฐานะมิตรที่ดีของกัมพูชา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่คาดหวังว่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาความสัมพันธ์อันกระท่อนกระแท่นมาตลอด ช่วงรัฐบาลที่ผ่านมาให้ดีขึ้น

ทว่า ด้วยเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ถูกมองว่าเกี่ยวพันไปถึงธุรกิจทั้งก๊าซที่ยัง อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ที่ยังตกลงกันไม่ได้ การเดินทางไปกัมพูชาจึงล่อแหลมที่จะถูกโจมตีโดยเชื่อมโยงไปถึงแผลเก่าใน เรื่องนี้ได้ง่าย

การสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่หวังจะอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นแรงสนับสนุนปูทางให้รัฐบาลยิ่ง ลักษณ์ทำงานได้ง่ายขึ้น แต่อีกด้านก็กลับทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องถูกดิสเครดิตไปมากขึ้นเท่านั้น

จากนี้ ยิ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งขยับมากเท่าไร ย่อมสะเทือนถึงเก้าอี้ของยิ่งลักษณ์มากขึ้นเท่านั้น

Tags : ทักษิณขยับ ยิ่งลักษณ์สะเทือน

view