จาก โพสต์ทูเดย์

ลําพังแค่การบริหารจัดการมวลน้ำก้อนมหึมาที่กำลังเอ่อท้นท่วมพื้นที่ 26 จังหวัด

โดย...ทีมข่าวการเมือง

ลําพังแค่การบริหารจัดการมวลน้ำก้อนมหึมาที่กำลังเอ่อท้นท่วมพื้นที่ 26 จังหวัด และมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะหน้า ก็ยากเกินกว่าขีดความสามารถของ นายกฯ หญิง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะบริหารจัดการปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ทว่า ปัจจัยด้าน “การเมือง” ทั้งเรื่องของฝักฝ่าย พรรคพวก เข้ามาเกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การขัดแข้งขัดขา แย่งผลงาน รวมไปถึงช่วงชิงจังหวะความได้เปรียบทางการเมืองเวลานี้ กำลังกลายเป็นอีกข้อจำกัดสำคัญ ที่ดูเหมือนฉุดรั้งให้การแก้ไขวิกฤตไม่คลี่คลายไปอย่างที่ควรจะเป็น

ชัดเจนจากข้อเสนอของ “ประชาธิปัตย์” ในฐานะฝ่ายค้านที่เริ่มต้นจากการเสนอข้อเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนไปถึงนายกฯ จนต่อมาได้พาคณะบุกไปเยี่ยมเยือนถึง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)

หลายข้อเสนอที่ออกมาดูอย่างปราศจากอคติก็ดูมีเหตุมีผลรับฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้ยุบศูนย์ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ที่ซ้ำซ้อนให้เหลือเพียงแค่ศูนย์เดียว เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสั่งการ

ไปจนถึงข้อเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายพิเศษ อาทิ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มความคล่องตัวกับการแก้ปัญหาในพื้นที่วิกฤตหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ต้องอพยพคนออกนอกพื้นที่เร่งด่วน

การมีกฎหมายพิเศษนอกจากจะอำนวยความสะดวกในการอพยพคนจำนวนมากออกนอก พื้นที่แล้ว อีกด้านหนึ่งยังต้องป้องกัน “มิจฉาชีพ” ที่รอจังหวะสวมรอยเข้าไปซ้ำเติมสถานการณ์จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านหลายคนไม่กล้า ทิ้งบ้านช่องไปยังศูนย์อพยพ

แน่นอนว่าข้อเสนอเหล่านี้ แม้จะอยู่บนหลักของเหตุผล แต่รัฐบาลก็ยังมิอาจผลีผลามกระโดดรับลูกนำมาใช้แก้ปัญหาโดยทันที ส่วนหนึ่งยังเป็นห่วงใน “ภาพลักษณ์” ที่หากรับข้อเสนอของฝ่ายค้านก็ย่อมถูกมองว่าไม่มีน้ำยา ตอกย้ำความไร้ประสิทธิภาพที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมา

แว่วว่าในการประชุม ครม.เพื่อหารือเรื่องกาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น หลายเสียงจากรัฐมนตรีสะท้อนว่า ไม่ควรไปเต้นตามเกมฝ่ายค้านเพราะจะยิ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกให้ประชาชน ไปจนถึงกระทบความมั่นใจของต่างชาติ ทำให้ทุกอย่างไม่เดินหน้าไปอย่างที่ควร

ไล่มาถึงความสัมพันธ์ระหว่าง กทม. ในการกำกับดูแลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. จากฝั่งประชาธิปัตย์ที่ต้องทำงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ศูนย์ ศปภ. ที่ควรจะทำงานสอดรับร่วมกันสกัดกั้นป้องกันน้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่ กทม.ที่จะยิ่งสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น

แต่ในทางปฏิบัติการพยายามชิงความโดดเด่นสร้างผลงาน ทั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ศปภ. กลับทำให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติงานไปจนถึง ความสับสนจากชาวบ้านที่กำลังลุ้นระทึกกับมวลน้ำที่จ่อล้นในหลายพื้นที่

โดยเฉพาะหลังความผิดพลาดครั้งสำคัญที่ ปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ออกมาสั่งอพยพคนในพื้นที่ “คลองหลวงลำลูกการังสิตสายไหม” จนเกิดความปั่นป่วนต้องมาตามแถลงชี้แจงแก้ไขความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นไป แล้ว

“ขอให้คนกรุงฯ ฟังผม ถ้าเกิดความผิดพลาด...ผมรับผิดชอบ เพราะนี่คือภารกิจที่ผมได้รับมอบหมาย เชื่อผมดีกว่าครับ ถ้าจะอพยพเมื่อไร ผมจะเป็นคนแรกที่บอกพี่น้อง เพราะพี่น้องประชาชนเลือกผมเกือบ 1 ล้านคะแนน ผมจะไม่ปล่อยให้จมน้ำเด็ดขาด”

ความพยายามช่วงชิงการนำ ของ คุณชายสุขุมพันธุ์ ถูกเชื่อมโยงต่อไปยัง ศึกเลือกตั้งสนามผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีขึ้นในปีหน้า วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ จึงกลายเป็นสนามประลองกำลังระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ ประชาธิปัตย์ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ยิ่งในวันที่พื้นที่ กทม. ซึ่งจากการเลือกตั้งสนามใหญ่ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา “ประชาธิปัตย์” ยังคงรักษาฐานคะแนนเสียงโดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ชั้นในไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ดังนั้น การรักษาปราการพื้นที่ กทม.จากน้ำท่วมครั้งนี้ จึงเป็นบทพิสูจน์ที่แต่ละฝ่ายต้องช่วงชิงจังหวะกันอย่างหนัก

ถัดไปถึงพื้นที่รอบนอก กทม. อย่าง “ปทุมธานี” ที่จัดเป็นปราการหน้าด่านสำคัญก่อนที่มวลน้ำก้อนมหึมาจะทะลักเข้ามาใน พื้นที่ กทม. ซึ่งเกิดความลักลั่นในการบริหารงาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าไล่มาตั้งแต่ผู้ว่าราชการไปจนถึงนายกฯ อบจ. ในพื้นที่ ล้วนแต่เป็นคนสนิท เนวิน ชิดชอบ จากภูมิใจไทย ที่ใช่ว่า ศปภ. จากพรรคเพื่อไทย จะไปสั่งซ้ายหันขวาหัน หรือคุมพื้นที่ได้อย่างสนิทใจ

ยังไม่นับรวมกับความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ที่เกิดขึ้นมาได้สักพักระหว่าง พรรคเพื่อไทย และ ชาติไทยพัฒนา จากปมความขัดแย้งที่ สุชาติ ลายน้ำเงิน และ พายัพ ปั้นเกตุ นักการเมืองเจ้าข้องพื้นที่ จ.ลพบุรี และสิงห์บุรี ที่ฟาดงวงฟาดงาไปถึง บิ๊กเติ้ง บรรหาร ศิลปอาชา

เมื่อพื้นที่ “สุพรรณบุรี” ดูจะเป็นเพียงไม่กี่จังหวัดในละแวกนี้ที่ไม่ถูกน้ำท่วม หรือท่วมเพียงเฉพาะพื้นที่รอบนอกต่าง จนนำมาสู่ “วิวาทะ” กันยกใหญ่กลายเป็นแรงกดดันอีกด้านที่ย้อนกลับมายังการบริหารจัดการแก้ปัญหา น้ำท่วม

แถมปมปัญหาเรื่อง “เสื้อแดง” ที่ออกมาเขยื้อนเคลื่อนไหวทั้งการเปิด อำเภอแดง ไปจนถึงการเคลื่อนไหวเรื่อง 93 ศพ ที่เล่นเกมหนักดึง โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม มาร่วมเคลื่อนไหว จนฉุดให้ภาพความมุ่งมั่นจริงจังการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลลดน้อยลงไป

ความเสียหายจากมวลน้ำก้อนมหึมาที่ส่งผลเสียหายทั้งบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกร พื้นที่ธุรกิจ อุตสาหกรรมของประเทศ จนมูลค่าความเสียหายสูงหลายแสนล้านบาท ที่ดูจะเป็นงานหินท้าทายความสามารถของรัฐบาลอยู่แล้ว

เกมการเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานี้จึงเป็นอีกปัจจัยซ้ำเติมฉุดให้รัฐบาลดำ ดิ่งอยู่ใต้สภาวะการณ์น้ำท่วม จนยากถีบตัวพ้นมวลน้ำก้อนมหึมาในเวลานี้ 

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี