สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รอยเตอร์ส

จากประชาชาติธุรกิจ


กลุ่มคน "เสื้อแดง" ประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มีนาคม โดยใช้วิธีเคลื่อนพลแบบดาวกระจายทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลบางส่วน โดยมีเป้าหมาย บีบรัฐบาลให้ยุบสภา ล่าสุด "รอยเตอร์ส" จัดทำบทวิเคราะห์ที่ประเมินสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ไว้ 4 แบบ

   ซีนาริโอ 4 รูปแบบ จากบทวิเคราะห์ รอยเตอร์ส มีดังนี้  


  @รัฐบาลสามารถฝ่ากระแสการชุมนุมครั้งนี้ได้ -ตลาดหุ้นดีดขึ้น
 โดยแม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะแสดงท่าทีไม่พอใจ แต่กลับล้มเหลวที่จะโค่นรัฐบาล ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากกองทัพและชนชั้นนำ
 หาก เหตุการณ์เป็นเช่นนี้อาจจะเป็นที่พอใจของตลาดการเงินในระยะสั้น โดยนักลงทุนยังคงใส่เงินมายังไทยและตลาดอื่นในภูมิภาคนี้ต่อไป
 แต่การ ชุมนุมของคนจำนวนมากย่อมสะท้อนถึงการแบ่งขั้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนต้องคิดหนักขึ้นหากจะขยายการลงทุนระยะยาวในไทย หากพรรคที่สนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจอีก ก็จะต้องเผชิญกับการต่อต้าน หรือการเข้าแทรกแซงจากกองทัพ หรือการเข้ามามีบทบาทของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความไม่พอใจของประชาชน และความวุ่นวายที่มากขึ้น
 ซีนาริโอนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกในระยะสั้น 


@ความรุนแรงปะทุแต่ระงับได้-ตลาดหุ้นผันผวนในระยะ สั้น
 ความตึงเครียดที่มีสูงและความรุนแรงที่ปะทุออกมาจากกลุ่ม มวลชนเสื้อแดง หรือมือที่ 3 อาจก่อให้เกิดปัญหาที่เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือในการเคลื่อนไหว ซึ่งนี่อาจจะเป็นสาเหตุให้ตลาดหุ้นผันผวนในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศจะมีการเทขายหุ้น แต่นักลงทุนต่างชาติที่มองถึงพื้นฐานของเศรษฐกิจในระยะยาวจะช้อนซื้อหุ้น
 ภาย ใต้ซีนาริโอนี้ อาจจะได้เห็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสลายการชุมนุม มีการใช้การประชาสัมพันธ์แสดงถึงชัยชนะของรัฐบาล และตอกย้ำภาพของกลุ่มเสื้อแดงที่เคยถูกประณามหลังเหตุจลาจลเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนี่อาจทำให้กลุ่มเสื้อแดงสูญเสียแรงสนับสนุนไป หรือทำให้ระดมทุนเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวได้ยากขึ้น
 มาตรการของรัฐบาล อาจจะนำความมั่นใจคืนสู่นักลงทุนในระยะสั้น แต่ความแตกแยกทางการเมืองจะยังบดบังการลงทุนในระยะยาวที่มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมีการกำหนดการเลือกตั้งไว้ที่ปลายปีหน้า
 
 @การชุมนุมร้อนแรง พรรคร่วมแตก-ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบ
 หาก การชุมนุมขยายวงและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเพิ่มขึ้น ก็จะเกิดคำถามว่ารัฐบาลจะอยู่รอดได้อย่างไร อาจจะเกิดความวุ่นวายเบื้องหลังฉากเจรจาระหว่างพรรคการเมืองและกลุ่มที่ เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ
 พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่พอใจท่าทีของนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะโบกมือลา หากมีการเสนอเงินให้ย้ายขั้วมาซบกลุ่มที่ภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างพรรคเพื่อไทย ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนชนบท
 ภายใต้ซีนาริโอนี้ พรรคเพื่อไทยอาจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ และคณะรัฐมนตรี ซึ่งเกมจะกลับไปอยู่ที่สภา และมีการจับมือระหว่างพันธมิตรที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
 ตลาดหุ้นจะร่วงลง จากความกังวลถึงความไม่มีเสถียรภาพ เนื่องจากชัยชนะของเพื่อไทยอาจทำให้เกิดความไม่พอใจจากกลุ่ม "เสื้อเหลือง" และมีความเสี่ยงที่จะเกิดความพยายามโค่นล้มรัฐบาลที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้ง
 แต่ซีนาริโอนี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ องคมนตรี และกลุ่มชนชั้นนำในภาคธุรกิจ แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่พอใจกับแนวทางของนายอภิสิทธิ์ แต่คำสัญญาถึงงบประมาณก้อนโตก็อาจจะช่วยดึงให้อยู่ร่วมกันต่อไปได้ 


@การชุมนุมเกิดความรุนแรง นายกฯ ยุบสภา-ตลาดหุ้นร่วง
 เกิดความรุนแรง และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงไม่สามารถควบคุมฝูงชน มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นอัมพาต และอาคารของรัฐบาลตกเป็นเป้าการโจมตี ขณะที่การสลายกลุ่มผู้ชุมนุมโดยฝ่ายทหารทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวน มาก นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ไม่สามารถบริหารประเทศได้ต่อไป และประกาศยุบสภา โดยยังคงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่  แนวทาง ที่ไม่น่าจะเป็นไม่ได้มากที่สุดนี้ จะทำให้เกิดการเทขายหุ้นโดยนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากวิตกถึงการขาดเสถียรภาพอย่างมาก ตลอดจนความเป็นไปได้ที่จะเกิดความไม่สงบมากยิ่งขึ้น
 และเมื่อต้องเผชิญ กับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลผู้นิยมทักษิณจะชนะการเลือกตั้ง และมีโอกาสสูงที่จะถูกแทรกแซงอีกครั้งจากฝ่ายตรงข้ามทักษิณที่มีอำนาจมาก นักลงทุนต่างชาติจะไปลงทุนในตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และจะหลีกหนีไทยในระยะยาว

view