ท้อใจสั่งใครไม่ได้ เสียงบ่นจาก..ยิ่งลักษณ์
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เฉลา กาญจนา
เห็นสภาพน้ำท่วมที่เอ่อล้นวันนี้ รู้สึกหดหู่แทนพี่น้องประชาชน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีชีวิตระเหเร่ร่อนต้องไปอาศัยอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ
เชื่อเหลือเกินว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยแม้จะสู้ชีวิตแต่ในใจคงจะเครียดหนัก ณ เวลานี้ยังพอมีที่อยู่อาศัยชั่วคราว แต่หลังน้ำลดอยู่กันอย่างไรเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องเตรียมพร้อมช่วยเหลือในสเต็ปต่อไป
ลองมาสแกนการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่ผู้คนจำนวนมากรู้สึก "หมดศรัทธา" เข้าไปทุกขณะ กับข่าวสารที่สับสน
แม้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะใช้เวลากับวอร์รูมแห่งนี้เป็นกองบัญชาการแก้ปัญหาน้ำท่วม บ้างก็บอกว่าวันๆ มีเวลาพักผ่อนแค่ 3-4 ชั่วโมง เพราะวุ่นอยู่กับการประชุม รับโทรศัพท์รายงานความเคลื่อนไหวสภาพน้ำ จากผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ
แต่ภาพที่ออกมาดูเหมือนสวนทางกันเสียเหลือเกิน ประกาศแจ้งเตือนแต่ละครั้ง ดูเหมือนเป็นการประกาศที่สับสน คนสิ้นหวังเข้าไปทุกที
เมื่อวิเคราะห์เจาะลึกหาเหตุผลของศูนย์สับสน พบว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์รู้สึกท้อแท้ไม่น้อย เพราะฐานข้อมูลที่ได้รับไม่ตรงกับข้อเท็จจริง บางจังหวัดก็ไม่พูดความจริง ทำให้การคำนวณผิดพลาดบ่อยครั้ง
ที่แย่ยิ่งกว่า คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วมรอบนี้ อยู่บนเกมการเมืองมากเกินไป เห็นแต่พรรคพวกของตัวเองเป็นที่ตั้ง ยังไม่มองเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วม
ไม่ใช่ว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่ได้พูดความจริง แต่ข้อมูลที่ได้ไม่ใช่ความจริงต่างหาก แน่นอนปัญหาอุทกภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงเสียเหลือเกิน องค์ความรู้ที่จะได้เบ็ดเสร็จอย่างง่ายๆ "เป็นไปไม่ได้"
งานนี้แย่หนัก นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เสมือนต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร ทั้งหมดไม่ใช่คนที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะสั่งการได้เสียทุกอย่าง ทุกส่วนมีเจ้านายหนุนหลังทั้งสิ้น แต่ละหน่วยงานคนละสายพันธุ์ โดยเฉพาะจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมหนักๆ ฉะนั้นการแก้ปัญหาน้ำท่วม ต้องใช้องคาพยพใหญ่
นายกฯ ยิ่งลักษณ์รู้ดีว่าตอนนี้จะสั่งใครก็ไม่ได้ อำนาจสั่งการริบหรี่ลงทุกที "มีคนรับฟัง แต่ไม่ทำตาม" การทำงานของผู้ว่าฯ ในแต่ละพื้นที่ยังยึดพื้นที่ใครพื้นที่มันเสียมากกว่า การบูรณาการยังแทบมองไม่เห็น ฉะนั้นเมื่อระดับพื้นที่ไม่บูรณาการ ส่วนกลางอย่าได้หวัง
ในส่วนของกรมชลประทาน ในฐานะผู้ที่ต้องรับบทบาทแก้ปัญหาน้ำท่วม ตอนนี้ผู้หลัก ผู้ใหญ่ในกรมชลประทานอยู่ในสภาพ "น้ำท่วมปาก" พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะมี "นาย" หลายคนนั่นเอง
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) การทำงานร่วมกันกับ ศปภ.ยังอยู่ในสภาพพื้นที่ใครพื้นที่มัน เมื่อสองหน่วยงานไม่สามารถผสมเป็นเนื้อเดียวกัน อย่าได้หวังที่จะให้ประชาชนเป็นเนื้อเดียวกันได้ วันนี้เราจะเห็นว่าถ้า ศปภ.ประกาศปล่อยน้ำลงพื้นที่ไหน เขตไหน แรงต่อต้านก็จะเกิดขึ้นทันที
ฉะนั้นสองหน่วยงานนี้ต้องทำงานร่วมกันมากกว่านี้ "ต้องประสานงาน ไม่ใช่ประสานงา"
จริงๆ ในภาวการณ์อย่างนี้ที่ประเทศชาติกำลังประสบปัญหาอุทกภัย ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน วางแนวทางช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะนักการเมืองควรหันหน้าเข้าหากัน ลดทิฐิต่อกัน
แต่ที่น่าชื่นใจวันนี้เราจะเห็นการร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันบริจาคสิ่งของและออกไปช่วยเหลือในทุกพื้นที่ โดยไม่เลือกข้าง เลือกสี ในยามที่บ้านเมืองวิกฤติ คนเหล่านี้ต้องขอเชิดชู
สำหรับประชาชนที่อยู่เขตรอบนอกกรุงเทพฯ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องแบ่งเบาภาระรับน้ำจากคนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ และปทุมธานี ที่อยู่ในสภาพน้ำท่วมขังกันมานานนับเดือน
สงสาร 'ยิ่งลักษณ์' เถอะ!..อย่าทรมานเธออีกเลย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วีระศักดิ์ พงศ์อักษร
"11 วันของการเปิด ศปภ. ที่ตามมาด้วยฉายาใหม่ๆ มีหลากหลายเหตุผลที่ ไม่ชอบชื่อเดิม "ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย"
แต่ที่เห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ คือ ที่ผ่านมาการบริหารหนักไปทางล้มเหลว ซึ่งสะท้อนและพอสรุปได้ว่ามีช่องโหว่ในการบริหาร และหากยังปล่อยแบบนี้ไม่เฉพาะประเทศเท่านั้นที่น่าสงสาร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็น่าจะร้องไห้ ทรมาน เช่นเดียวกัน"
8 ต.ค. 2554 เกิดองค์กรใหม่ขึ้นมา ศปภ. มาพร้อมกับความหวังว่าจะสามารถบูรณาการวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ...แม้ว่าจะจัดตั้งช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำ...
เพราะว่าการรวมศูนย์เพื่อบริหารวิกฤตินั้น เป็นสิ่งที่ทั่วโลกหรือสากลทำกัน!
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เดินตามนั้น หลังจากที่วนเวียนกับการวีดิโอคอนเฟอเรนซ์" ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ กับ นโยบาย 2P2R ( Preparation : Prevention : Response : Recovery) มาสักระยะหนึ่ง !
คำถามจึงอยู่ที่ว่าเมื่อหันมาเน้นบริหารแบบรวมศูนย์ผ่าน ศปภ. ทำไมจึงไม่เกิดประสิทธิภาพ อย่างที่ควรจะเป็น?
แน่นอนว่า อาจจะไม่ได้เกิดจากปัจจัยใด...ปัจจัยหนึ่ง หลากปัญหาเข้ามารุมเร้า ที่สำคัญมาจากต้นตอการประเมินผิดคาดตั้งแต่ต้น เพราะว่าหลายองค์กรและศปภ.ก็ยอมรับเองว่า ปริมาณน้ำฝนมากกว่าที่ประเมินไว้มาก ทำให้เกือบทุกเขื่อนไม่สามารถรองรับได้ตามที่ควรจะเป็น
เพราะปริมาณฝนที่ตกเกินกว่าปกติ 40% นั้น หากไม่เตรียมเขื่อนให้ว่างที่มากพอ ก็ไม่อาจรองรับได้ สุดท้ายก็ต้องระบายไปตามพื้นที่ต่างๆ เพราะตัวเลขมวลน้ำที่สูงถึง 1.6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ไม่น้อยเลย และเกือบ8 พันล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำค้างทุ่ง ซึ่งนั้นหมายความว่าไม่ได้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
มวลน้ำเกือบ 8 พันล้านลูกบาศก์เมตร จึงกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ...ตั้งแต่ ชัยนาท>ลพบุรี>นครสวรรค์>พระนครศรีอยุธยา>ปทุมธานี ลงเรื่อยมายัง กรุงเทพฯ ที่กำลังตระหนกอยู่ในวันนี้
ตัวแปรที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้ ใครเข้ามาบริหารประเทศช่วงนี้ก็เหนื่อยทั้งนั้น เพียงแต่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วน่าจะหนักหนากว่าคนอื่นๆ เพราะมีความพิเศษที่ นายกรัฐมนตรีในอดีตไม่มี
- ขาดทีมงานที่มีคุณภาพ...รัฐมนตรีหลายคนทำงานไม่เป็น แต่งตั้งเข้ามาตามโควต้าฐานคะแนนและกลุ่มเคลื่อนไหว...ยามวิกฤติเช่นนี้ หลายคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
- บารมี และความเป็นผู้นำ ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีให้เห็น โอกาสที่ประชาชนมอบให้ถดถอยลงเรื่อยๆ ทำให้การตัดสินใจในยามวิกฤติ จึงไม่เกิดผล
- โครงสร้างข้าราชการ กองทัพ กับ รัฐบาล น่าจะมีราบเรียบนัก แม้ว่าระยะหลังดูจะทำงานร่วมกันมาก แต่ก็ไม่ได้แนบเนียน เมื่อเทียบกับรัฐบาลก่อนหน้า
- การเมืองท้องถิ่นกับรัฐบาลกลาง มีช่องโหว่ ช่องว่างในหลายจุดไม่เฉพาะ กทม.เท่านั้น เพราะตัวแทนท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องเน้นดูแลประชาชน ของตัวเองในท้องที่มากกว่าจะมองการแก้ปัญหาในภาพรวม หรือนำไปสู่บูรณาการอย่างที่มุ่งหวัง
เชื่อว่านายกรัฐมนตรี "คิดดีและตั้งใจดี"...แต่ด้วยโครงสร้างที่บิดเบือน ...สถานะ"เป็นแค่ตัวแทน" (อย่างซื่อสัตย์)...จึงเป็นเรื่องยากที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำหน้าที่"นายกรัฐมนตรี"ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะพยายามเต็มกำลัง หรือคิดดี แค่ไหน
เพราะหัวใจอยู่ที่ปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง!
ศูนย์เปลืองภาษี...ศูนย์ปราศจากภูมิปัญญา หรือจะเรียกว่าอะไรก็ได้...แต่อย่างน้อย ศปภ. ได้สะท้อนแล้วว่ายามวิกฤติ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"...ไม่อาจบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยควรคิดล่วงหน้าได้แล้ว (หรือคิดไว้แล้ว) ว่า บุคคลที่เหมาะสมคนต่อไปควรเป็นใคร?
สงสารเถอะ! อย่าทรมานเธออีกเลย!
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี