สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผบ.ทบ.เผยรับสั่ง ในหลวง เขตพระราชฐานไม่ต้องดูพิเศษ ปล่อยตามธรรมชาติ

ผบ.ทบ.เผยรับสั่ง “ในหลวง” เขตพระราชฐานไม่ต้องดูพิเศษ ปล่อยตามธรรมชาติ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“พล.อ.ประยุทธ์” เผย “ในหลวง” ทรงห่วงใยราษฎร ทั้งไม่โปรดให้ป้องกันพระราชฐานเป็นพิเศษ ให้ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ย้ำเป็นหน้าที่กองทัพต้องทำ เผยเล็งประสาน ศปภ.ขอแบ่งเรือ ทบ.ที่ใช้ดันน้ำมาช่วยอพยพประชาชนที่เดือดร้อน มอบเขตบางพลัดเร่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่ ย้ำพร้อมสนับสนุนการทำงานเต็มที่
      
       ที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (26 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงตรวจน้ำท่วมพื้นที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ว่า ในส่วนของพื้นที่บางพลัดอยากให้กำหนดโซนพื้นที่ในการขนย้ายให้รวดเร็ว ซึ่งหากประชาชนไม่ยอมอพยพก็ต้องยอมรับสภาพ และมารับของบริจาคเอง ทั้งนี้ เห็นว่าเมื่อน้ำท่วมหมดแล้วก็ควรต้องย้าย แต่ไม่อยากให้เกิดความกระทบกระทั่งกันกับประชาชน ซึ่งทางเขตบางพลัดเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ต้องเกรง ตนและทหารพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ แต่ห่วงเรื่องรถทหารเพื่อขนย้ายมีไม่เพียงพอ จึงอยากให้นำรถของทุกส่วนราชการ เช่น ขสมก. รถของสำนักงานเขตบางพลัด ให้ระดมมาช่วยกัน เพราะมีเหตุเกิดหลายจุดต่อไปก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากให้มีการประสานพูดคุยกับ กทม.เพื่อขอความช่วยเหลือจากส่วนกลาง หากน้ำท่วมสูงจะทำให้รถใหญ่ไม่สามารถวิ่งได้ รวมทั้งซอยจรัญฯ เป็นซอยเล็กก็จะมีความลำบาก ตนอยากให้เตรียมแผนเรื่องการอพยพทางเรือ โดยให้นำเรือของกองทัพบกที่ใช้ดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีจำนวน 10 ลำ เอาออกมาใช้ขนย้ายประชาชน 5 ลำโดยประสานกับ ศปภ.เพื่อขออนุมัติถอนมา
       
       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ช่วยเหลือประชาชน อยู่ในเขตบางพลัด โดยน้ำเข้าไปในพื้นที่ 2 วันแล้ว กองทัพบกพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชน โดยความเดือดร้อนได้ใกล้แนวลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยารวมถึงคลองต่างๆ ที่จะพาดผ่านกรุงเทพฯ ตอนกลาง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กองทัพบกดำเนินการเป็นไปตามแผนงานของ ศปภ.ได้วางไว้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ปัญหาในเขตบางพลัดต้องเฝ้าระวัง เพราะเป็นพื้นที่ใกล้แม่น้ำ และพื้นที่บางกรวยที่มีน้ำจาก จ.นนทบุรี ปทุมธานี ลงมาเพิ่มเติมอีก แต่เพื่อความไม่ประมาทเราจะพยายามป้องกันให้ได้มากที่สุด หรือถ้าป้องกันไม่ได้ ก็ให้เสียหายน้อยที่สุด ทหารก็จะให้การสนับสนุนกับสำนักเขตและ กทม.อย่างเต็มที่
       
       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ทางกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้กองทัพบกดูแลเขตพระราชฐานนั้น เราได้มีการประสานงานกับสำนักพระราชวังแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในพื้นที่ภายในให้เขาดำเนินการเอง การดำเนินการค่อนข้างจะลำบาก แต่บริเวณรอบนอกนั้นจะขอทำเป็นทางลาดโค้งเป็นหลังเต่าทุกประตูข้างนอก ให้ประสานทางสำนักพระราชวังดู ถ้าทำได้ก็ให้รีบดำเนินการ แต่ต้องให้ทุกประตูสามารถปิดได้ ซึ่งทำแบบกองทัพบกไม่ได้ ต้องอยู่นอกประตูทำให้เป็นหลังเต่าลักษณะเกือกม้าน้ำจะไม่เข้า แต่เบื้องต้นเท่าที่รับทราบทางสำนักพระราชวังไม่อนุญาต ซึ่งถ้าไม่ทำข้างนอก เขาก็ต้องทำข้างในเอง
       
       “ท่านทรงเป็นห่วงประชาชน อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ นี่พระมหากรุณาธิคุณ ท่านห่วงประชาชนตลอด ท่านก็บอกว่าให้ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ ท่านจึงไม่ทรงโปรด และทรงรับสั่งว่า เป็นน้ำท่วมก็ขอปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่อยากให้มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ในฐานะที่กองทัพบกเป็นผู้รับผิดชอบก็จะทำเฉพาะที่ประสานได้ และต้องตอบคำถามของรัฐบาลด้วย” ผบ.ทบ.กล่าว
       
       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของการดูแลเขตพระราชฐานนั้น ต้องเป็นไปตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับสั่งว่าให้ดูแลทุกพื้นที่ให้ทั่วถึง ทางกองทัพบกก็จะทำให้ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญทุกคนต้องตระหนักไว้เสมอว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงห่วงใยประชาชนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพระราชทางพระราชดำริ พระราชทานสิ่งของเยี่ยม ความห่วงใย สิ่งเหล่านี้เราต้องสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ และจะนำพาให้บ้านเมืองเราอยู่รอดและประชาชนปลอดภัย
       
       เมื่อถามว่า ในปลายเดือนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงห่วงพื้นที่ไหนมากที่สุด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กังวลหมด เพราะมีโอกาสที่น้ำจะฝ่าแนวพนังกั้นน้ำมา ในส่วนของ กทม.มีแนวกั้นน้ำ 2.5 เมตร แต่ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูง 2.60 เมตร ในบางช่วงจึงน่าจะมีน้ำทะลุเข้ามาบ้าง ตรงไหนกันได้เราจะเสริมให้สูงขึ้น ตรงไหนไม่ได้ก็ต้องเตรียมการในเรื่องอพยพ ขอร้องตอนนี้อย่าไปหาว่าใครผิด ใครถูก หรือโทษใคร แต่ต้องทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัย เสียหายน้อยที่สุด


'ในหลวง'ไม่ทรงโปรดกั้นน้ำเขตวังแนะ'ปล่อยไหลตามธรรมชาติ'


ทรงเยี่ยม...ผู้ประสบอุทกภัย

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัย

ในเขตพื้นที่ อำเภอบางบัวทอง

"พระบรมฯ" พร้อมด้วยพระวรชายาฯ เสด็จเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำพร้อมด้วย พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ด้วยทรงห่วงใยในความทุกข์ยาก และเป็นขวัญกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตเพื่อต่อสู้กับปัญหา และอุปสรรค
       
       วันนี้ 26 ต.ค. เวลา 14.25 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยบริเวณปั้มปตท. สี่แยกบางพลู อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยทรงฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดนนทบุรี มีพื้นที่ประสบภัย 6 อำเภอ รวม 50 ตำบล 361 หมู่บ้าน 32 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6 แสน2 หมื่น 3 พัน 789 คน มีผู้เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต 3 ราย และจมน้ำ 3 ราย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณะประโยชน์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน มัสยิด และโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย
       
       ในการนี้ ทอดพระเนตรศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม โดยมีเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจบางบัวทองไปตั้งจุดรับแจ้งเหตุชั่วคราว เพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัย โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมครัวพระราชทาน โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม เพื่อประกอบอาหารวันละ 2 พันกล่อง แก่ผู้ประสบอุทกภัย และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผ่านกองทุน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ พร้อมกับทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ที่ไปให้บริการรักษาผู้ประสบภัย มีผู้มารับบริการกว่า 200 คน นอกจากนี้ ยังจัดโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวสู่แม่-ลูก เพื่อผู้ประสบภัย โดยมีทีมแพทย์ไปให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแม่และเด็ก รวมทั้งจัดมุมกิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก และจัดโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวสู่สัตว์ เพื่อผู้ประสบภัย โดยทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ไปรักษาสัตว์เลี้ยงที่เจ็บป่วย พร้อมทั้งแจกจ่ายอาหารเม็ด สำหรับสุนัขและแมว
       
       จากนั้นพระราชทานถุงยังชีพพระราชทานและเสื้อชูชีพ แก่ผู้แทนชุมชนในอำเภอบางบัวทอง จำนวน 800 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยทรงห่วงใยในความทุกข์ยาก และเป็นขวัญกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตเพื่อต่อสู้กับปัญหา และอุปสรรค
       
       โดยอำเภอบางบัวทองมีน้ำท่วมขังระดับสูง ทางอำเภอได้จัดพื้นที่รองรับผู้อพยพไว้ 188 จุด แต่ประชาชนบางส่วนไม่ยอมอพยพเนื่องจากห่วงทรัพย์สิน ซึ่งทางราชการจำเป็นต้องดูแล แต่ขาดรถยนต์ขนาดสูงเพื่อนำอาหารและน้ำไปแจกจ่าย
       
       

       
       ต่อจากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง จีเอ็มซี. ไปยังร้านนายฮ้อปูดอง โดยใช้เส้นทางถนนบางกรวย-ไทรน้อย ซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีรถทหารให้บริการประชาชนไปยังตลาดบางบัวทอง และข้ามสะพานบางบัวทองไปต่อเรือ โดยประชาชนบางส่วนอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อเฝ้าระวังทรัพย์สิน และยังพบจระเข้ ซึ่งสามารถจับได้จำนวนหนึ่ง
       
       เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงร้านนายฮ้อปูดอง ประทับเรือยนต์พระที่นั่งไปยังวัดละหาร ระหว่างทางทอดพระเนตรสภาพน้ำ ที่ยังคงท่วมสูง ปิดเส้นทางการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง ของถนนเทศบาลบางบัวทอง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการสัญจร โดยประชาชนที่ทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ได้เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายราษฎรที่ร่วมกันเปล่งเสียงถวายพระพรโดยทรงผ่านสถานที่ สำคัญที่ถูกน้ำท่วม อาทิ เทศบาลเมืองบางบัวทอง และวัดเล่งเน่ยยี่ 2 รวมถึงวัดละหาร ซึ่งเมื่อต้นเดือนตุลาคมระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และคืนวันที่ 17 ตุลาคม คันกั้นน้ำที่วัดพังทลาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปซ่อมแซมจนใช้การได้ แต่ต่อมาคันกั้นน้ำเกิดพังซ้ำ รวมถึงบริเวณใต้สะพานคลองพระพิมลราชา น้ำดันพื้นถนนระเบิดขึ้นมา และจุดคันกั้นน้ำหลังเทศบาลพังทลาย ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางบัวทอง ซึ่งเป็นพื้นที่หน้าด่านและประสบอุทกภัยหนักที่สุด เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดละหาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธชินาภากร พระประธานประจำศาลาการเปรียญ และถวายถุงยังชีพ เสื้อชูชีพ และสุขากระดาษ แด่พระราชนันทมุนี สำรวย อาภากโร เจ้าอาวาสและรองเจ้าคณะจังหวัด รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ แล้วทรงซักถามถึงสถานการณ์ ซึ่งปูชนียวัตถุและเสนาสนะ ถูกน้ำท่วมเสียหาย มีพระภิกษุและสามเณร จำพรรษากว่า 70 รูป สภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก ไม่สามารถออกบิณฑบาตรได้ โอกาสนี้ พระราชทานถุงยังชีพแก่ราษฎรที่มาพักที่โรงเรียนเทศบาลวัดละหาร พร้อมทั้งมีพระราชดำรัสให้กำลังใจ โดยทรงให้ร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป หลังจากโชคดีรอดชีวิตมาได้ บริเวณศาลาการเปรียญยังตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานให้บริการตรวจ รักษาพระภิกษุอาพาธที่ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับยาอย่างต่อ เนื่อง และราษฎรป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ปวดเมื่อย และเครียด
       
       จากนั้น ประทับเรือยนต์พระที่นั่งไปทรงเยี่ยมราษฎร ที่อาศัยอยู่รวมกัน 12 คน บนชั้น 2 ต้องนอนตามระเบียงบ้าน มีความลำบากเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และสุขา โอกาสนี้ ทรงซักถามถึงสภาพความเป็นอยู่ พร้อมพระราชทานถุงยังชีพ ถุงเยี่ยมเด็กเล็ก เสื้อชูชีพ สุขากระดาษ และอาหารกล่อง เช่นเดียวกับบ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านผู้สูงอายุ อาศัยรวมกัน 8 คน โดยประกอบอาชีพขายของชำ เครื่องสังฆทาน และทำขนมขายในตลาดบางบัวทอง แต่ปัจจุบันขาดรายได้ พร้อมกันนี้ทรงเยี่ยมบ้านหลังที่ 3 โดยได้พระราชทานถุงยังชีพ เสื้อชูชีพ สุขากระดาษ และอาหารกล่อง พร้อมทรงซักถามถึงความเดือดร้อน อำเภอบางบัวทองมีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 9 หมื่น 4 พัน 478 ครัวเรือน เกือบ 2 แสนคน พื้นที่นา พืชสวน และไม้ผล เสียหาย ปัจจุบันผู้ประสบอุทกภัยส่วนหนึ่งได้ย้ายไปอยู่กับญาติ และอยู่ในที่ทำงาน อีกส่วนย้ายไปยังจุดอพยพ ที่เหลือยังคงอยู่ที่เดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแจกจ่ายถุงยังชีพ อาหาร และน้ำดื่ม ในระหว่างเส้นทางได้พระราชทานอาหารกล่องแก่ผู้ประสบอุทกภัย ที่บริเวณปากทางเข้าวัดละหาร, หน้าปั้มซัสโก้ (Susco) และป้ายรถเมล์หน้าโครงการส่งน้ำพระยาบันลือ โดยมีผู้แทนชุมชนเข้ารับพระราชทานอาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายเพื่อนบ้าน พร้อมกับ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายราษฎรที่เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จตลอดเส้นทาง และเมื่อทรงทราบว่าราษฎรขาดเสื้อชูชีพ จึงได้พระราชทานเสื้อชูชีพที่ประดิษฐ์ขึ้นจากพลาสติก และขวดน้ำ ทั้งยังทรงให้ตำรวจน้ำนำราษฎรที่ไม่มีทั้งเรือและเสื้อชูชีพไปส่งยังที่ ปลอดภัย ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินสมทบทุนกองทุน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ รวมถึงรับบริจาคเสื้อชูชีพ เรือท้องแบน ยา และอาหารสัตว์
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี

Tags : ผบ.ทบ. เผยรับสั่ง ในหลวง เขตพระราชฐาน ไม่ต้องดูพิเศษ ปล่อยตามธรรมชาติ

view