สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แค่4เดือนก็เข้าตัว

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...อสนีบาต

"ต้องให้โอกาสก่อน นี่แค่ 4 เดือนเองคร้า"

การขอโอกาส ขอเวลา  มักเป็นคำที่ได้ยินจากบรรดานักการเมืองที่เข้าสู่อำนาจบริหารชาติในยามที่ ถูกกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทำงานไม่ได้เรื่อง แก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ผล

เป็นสูตรสำเร็จที่ได้ยินจนคุ้นชินผ่านมาทุกรัฐบาล

ทว่า การขอโอกาสขอเวลา ก็ดูจะไม่มีการถูกขีดเส้นตายไว้เลยว่า ขอโอกาสขอเวลาปรับปรุงตัวนานแค่ไหนถึงจะดีขึ้น ขอโอกาสและเวลาที่เหลืออยู่ได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริงมิใช่ บริหารเวลาเพื่อสร้างประโยชน์ให้คนใดคนหนึ่งเท่านั้น

เพราะไม่ว่าจะผ่านไปแค่สี่เดือนเกิดความผิดพลาด หรือหกเดือนล้มเหลว  หรือหนึ่งปีใกล้ตกเหวนรก หรือสองปีพาชาติพังพินาศ เขาและเธอก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาต่อความผิดพลาดที่กระทำ ยังคงเชิดหน้า กระดกลิ้นบอกกับประชาชนต่อไปว่า “ขอโอกาส ขอเวลาต่อไป”  แทบจะไม่เคยมีคำพูดขอโทษประชาชน  แทบจะไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ "โชว์สปิริตด้วยการลาออก" แต่อย่างใด   

ช่างแตกต่างกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของนักการเมือง  อย่างข้าราชการประจำที่ทำผิดพลาดหรือไม่มีเจตนาบกพร่องแต่กลับถูกนักการ เมืองอีกเช่นกันยัดเยียดให้ผิดพลาด  ทั้งที่อาจกระทำการพลั้งเผลอในช่วงเวลาระยะสั้นแต่ก็ถูกคำสั่งเด้งด่วน เตะโด่งออกไปให้พ้นสายตา

การขอโอกาสและขอเวลา จึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่าง เหล่านักการเมือง กับข้าราชการ ประชาชนตาดำๆ   เหล่าคณะนักการเมืองแทบไม่มีมาตรฐานชี้วัดที่ทรงประสิทธิภาพ หรือถ้าบอกว่ามี  ก็เห็นจะเป็นยันต์ป้องกันตัวตามรัฐธรรมนูญที่มักท่องคาถาบอกประชาชน "ดิฉันมาจากประชาชน มาตามระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้วไม่ต้องห่วงให้อยู่ตามวาระ 4 ปี"

ซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวกับมาตรฐาน ของการนำมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด แต่เหล่านักการเมืองกลับเอามาเกี่ยวโยงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์  

ว่าไปแล้วการให้โอกาสมักเปิดกว้างเสมอสำหรับคนที่ได้รับฉันทามติตามระบอบ ประชาธิปไตย เข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน  แต่โอกาสที่ได้มากับการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาที่ผ่านไปแต่ละวันของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ก็ยังไม่ได้สร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับส่วนรวมอย่างเด่นชัด ตรงกันข้าม เวลาที่สูญเสียไปกลับเพิ่มพูนประโยชน์ให้กับนาย ให้กับพวกข้า  ให้กับเหล่าสมุนตนเองเป็นหลัก

4 เดือนของการบริหารชาติ หนักไปทางซ่อนเร้นคลุมเครือ ไล่เรียงกันดู  ด้วยการร่อนหนังสือขอญี่ปุ่นให้วีซ่าอดีตนายกฯทักษิณ ตามด้วยขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ล้มเหลว  แต่ไม่เป็นไรลูกฮึดมีต่อด้วยการคืนพาสปอร์ตให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ  

4 เดือนมาเจอมหาอุทกภัยถล่มเมือง ประจักษ์ชัดกับศักยภาพผู้นำประเทศและรัฐมนตรีมีกึ๋นแค่ไหน  ไม่ว่าเป็นการผุดศูนย์โน้นศูนย์นี้ เพื่อมาบริหารจัดการปัญหาออกแถลงการณ์เตือนภัย  เปลี่ยนคนสลับกันมาเป็นโฆษกแถลงเรียกความมั่นใจเพราะนายกฯไม่สามารถรอบรู้ รายละเอียดสาระ แต่ก็หาได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนแต่อย่างใด   

4 เดือนกับวิธีการเยียวยาผู้ประสบภัย ที่บอกว่าแจกจ่ายอย่างทั่วถึง ครอบครัวละ 5 พันบาท ผ่านมาบัดนี้ หมู่บ้านไกลปืนเที่ยงยังคงร้องเรียนตามหาความเสมอภาค  แต่กลับพื้นที่ฐานเสียงหัวคะแนน นอกจากได้ครอบครัวละ 5 พันบาทอย่างรวดเร็ว  ยังจ่ายหนักจัดเต็มค่าซ่อมแซมหนึ่งหมื่นถึงสามหมื่นบาท  ขณะที่ บ้านเรือนภูมิภาคอื่น ยังต้องรอการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ สร้างความแปลกใจทำไมกรณีบ้านเรือนในพื้นที่ส.ส.ผู้มีอำนาจถึงแจกทั่วถึงโดย เฉพาะในวันที่ผู้นำประเทศมีกำหนดการเยี่ยมเยียนได้รับกันอย่างเต็มเม็ดเต็ม หน่วย

4 เดือน กับการผุดความคิดรวดเร็วออกคูปองสองพันบาทด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ  เอาไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ปรากฎว่า พื้นที่ไกลปืนเที่ยงอีกนั่นแล มีการนำมาจ่ายแจกก่อนหมดเขตหนึ่งวันบ้าง ขณะที่ร้านค้าร่วมรายการสบช่องนำสินค้าเก่าแต่อ้างว่าใหม่แกะกล่องขายแหกตา ประชาชนบ้าง  มีการตั้งโต๊ะจากขบวนการหัวใสขอซื้อคูปองเงินสดในราคา 1,200- 1,500 บาทบ้าง  ก่อเกิดภาพความเดือดร้อนประชาชนหลายจังหวัดต้องออกมารวมตัวประท้วงไม่พอใจ คูปองซ่อนกล   

4  เดือนกับเจตนาย่ำเท้าอยู่กับที่ด้วยการหายใจเข้าออกขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ้างว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งที่เป็นฉบับที่นักการเมืองเหล่านี้ ก่อนขึ้นสู่ได้อำนาจก็ยอมรับกติกาการเลือกตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้แท้ๆ ความพยายามยกตนว่าข้าคือนักประชาธิปไตย ต้องทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่กลับสุมหัวออกแบบร่างรัฐธรรมนูญ จ้องล้มที่มาองค์กรอิสระ  มุ่งหมายรื้อโครงสร้างกระบวนการยุติธรรม  มีความพยายามกำหนดสเป็คสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญแต่หัววัน ด้วยการหาช่องสกัดห้ามนักวิชาการ นักกฎหมายที่เคยร่างรัฐธรรมนูญฉบับยึดอำนาจมาเป็น สสร.  มีการกำหนดหากประชามติไม่ผ่าน ไม่ได้หมายความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะล้มลง ก็แค่ให้มีการตั้งสสร.ชุดใหม่ เท่านั้นเอง 

หรือกับความฉงนงงงวยต่อข้อเสนอคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่ง ชาติ(คอ.นธ.) ที่มี อุกฤษ มงคลนาวิน ปรมาจารย์ด้านกฎหมายเป็นประธาน ทั้งที่แต่งตั้งโดยนายกฯยิ่งลักษณ์  เป็นผลผลิตของรัฐบาลที่ว่าเป็นประชาธิปไตยโดยแท้ๆ แต่ครั้นมีข้อเสนอโมเดลแก้ไขรัฐธรรมนูญ นักการเมืองผู้อ้างตนมาจากประชาชนก็ปฏิเสธทันที  สิ่งเหล่านี้ มันไม่ได้ต่างกับเผด็จการในประชาธิปไตย

4เดือนที่ผ่านมายังเผชิญมติ ครม. ขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี  แต่ขาดการทำความเข้าใจ ทำให้กลุ่มแท็กซี่ รถบรรทุกออกมาปิดถนนเรียกร้องต่อต้าน  ในที่สุด รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบออกมาสารภาพอ่อนประชาสัมพันธ์ แถมใช้สไตล์เดิม ผลิตบัตรเครดิต สติ๊กเกอร์บ้าง ไม่ต่างกับมิสเตอร์คูปองสองพัน นำมาแจกจ่ายชาวแท็กซี่เอาไปลดราคาค่าก๊าซ   พร้อมทอดเวลาให้กลุ่มผู้ร้องเรียนร่วมหารือกับภาครัฐ ยื้อกันไปอีก 4 เดือน

เท่านั้นไม่พอ ภายในระยะเวลา 4 เดือน กับมติครม.ล่าสุด ตัดสินใจจ่ายค่าความตายให้ผู้ร่วมในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 จนถึง ปี 2553   ด้วยการกำหนดมูลค่าแห่งความตายเกือบแตะ หลักสิบล้านบาทซึ่งดูจะใกล้เคียงกับสิ่งที่แกนนำแดงสวมเสื้อเพื่อไทย เคยปราศรัยก่อนหน้านี้ เมื่อได้เสวยอำนาจเป็นรัฐบาล จะจ่ายค่าชดเชย ให้พี่น้องเสื้อแดงหลักสิบล้านบาท

มันได้ก่อให้เกิดแผลบาดลึกหัวใจประชาชนโดยทันที  ไม่ว่าจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบอื่นๆ เช่นความไม่สงบสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สมควร ได้ค่าเยียวยาเท่ากับบำเหน็จเผาเมืองบ้างหรือไม่ 

แต่ก็มาถูกแก้เกี้ยวว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นประธานพิจารณาในส่วนนี้ จึงได้โปรดจับตา พอเกิดมาตรฐาน เจ็ดล้านบาท เดี๋ยวต้องเกิดค่าตอบแทนพี่น้องชาวใต้ให้แตะหลักใกล้เจ็ดล้านอีกเช่นเคย

อาการคาใจขยายกว้างไปถึงกรณีอื่น อย่างเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อคำถามของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจาก เหตุการณ์อุทกภัย ตั้งคำถามถึงมติครม.ว่า คนน้ำท่วมได้ห้าพันบาทแต่คนเผาเมืองได้เกือบสิบล้านบาท ค่าของคนไม่เท่ากันใช่ไหม 

เราไม่อาจปฏิเสธถึงการจ่ายค่าชดเชย ผู้ได้ร่วมในเหตุการณ์ชุมนุมที่มีการสูญเสียชีวิต เพราะไม่ว่ารัฐบาลใดก็ต้องเข้ามารับผิดชอบ โดยเฉพาะในแง่มนุษยธรรม แต่มาตรฐานของมนุษยธรรมมันก็ต้องมีสติปัญญารู้จักคิดว่าเรากำลังสร้างบรรทัด ฐานที่ถูกต้องอย่างพอเหมาะพอควรหรือเกินเลยชนิดปูนบำเหน็จกันอย่างออกนอก หน้า เพราะจะเป็นการขยายแผลให้ลุกลามกลายเป็นมาตรฐานใหม่ เรียกแขกมาชุมนุม ต่อไปใครการชุมนุมสามารถเบิกค่าเสียหายได้ พร้อมคำถาม ม็อบชาวนาชาวไร่ ม็อบรถแท็กซี่ ฯลฯ  เกิดหัวร้างข้างแตก เสียชีวิต  ก็มีสิทธิเท่าเทียมเหมือนม็อบหนุนรัฐบาลได้ดิบได้ดีบ้างไหม  คำพูดที่สวยหรูของยงยุทธ  วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯและรมว.มหาดไทยที่ระบุอย่างมั่นใจ นี่คือการเริ่มต้นของความปรองดอง เห็นทีตรงกันข้ามเพราะมันน่าจะเป็นการเริ่มต้นขยายความแตกแยกของผู้คนใน สังคม    

ทั้งหมดทั้งปวงคือผลงานในช่วงเวลา 4 เดือน เป็นคำตอบว่า มีความหลักแหลมต่อการบริหารชาติเพียงใด ทำประโยชน์เพื่อใครกันแน่  จากที่เคยสาดโคลนใส่ฝ่ายตรงกันข้าม "พวกสองมาตรฐาน" "บริหารงานเหมือนเด็ก" "พวกเผด็จการไม่เป็นประชาธิปไตย" แต่ทุกคำพูดทุกข้อกล่าวหาล้วนแต่กำลังเข้าตัวแทบทั้งสิ้น


สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี

Tags : แค่4เดือนก็เข้าตัว

view