สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ระเบิด 112 ป่วนเพื่อไทย-นปช.

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม

ท้าทายความคิดสังคมไทยกับการผลักดันแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของกลุ่มนิติราษฎร์ ถือเป็นกระแสแรกที่ขับเคลื่อนประเดิมปี 2555

เหตุผลหลัก “วรเจตน์ ภาคีรัตน์” แกนนำนิติราษฎร์ ยืนยันเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล แยกโทษหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายให้ชัด ระหว่างพระมหากษัตริย์กับพระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

วรเจตน์ยังบอกด้วยว่า นี่เป็นก้าวแรกที่เสนอสังคมได้ถกเถียงกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวพันกับสถาบันกษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในสังคมไทยในอนาคต

สาระสำคัญ 7 ข้อ ตามข้อเสนอคณะนิติราษฎร์ ประกอบด้วย

1.ให้ยกเลิกมาตรา 112 ออกจากลักษณะว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร

2.เพิ่มหมวดลักษณะความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

3.แบ่งแยกการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ออกจากการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

4.เปลี่ยนบทกำหนดโทษ โดยไม่มีอัตราโทษขั้นต่ำ แต่กำหนดเพดานโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปีสำหรับการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และไม่เกิน 2 ปีสำหรับพระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

5.เพิ่มเหตุยกเว้นความผิดกรณีแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

6.เพิ่มเหตุยกเว้นโทษ กรณีข้อความที่กล่าวหานั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง และการพิสูจน์นั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

7.ห้ามบุคคลทั่วไปกล่าวโทษผู้ที่ทำความผิด ให้สำนักราชเลขาธิการมีอำนาจเป็นผู้กล่าวโทษเท่านั้น

ระยะเวลา 112 วัน ที่กลุ่มนิติราษฎร์ขอล่าให้ได้ 1 หมื่นชื่อ เพื่อเสนอกฎหมายต่อรัฐสภาให้แก้ไข เชื่อว่าช่วง 4 เดือนจากนี้จะเกิดแรงกระเพื่อมโต้กลับจากฝั่งคัดค้านหนักหน่วง ทั้งเวทีวิชาการ การเข้าชื่อของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยจาก นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี

การปะทะทางความคิดมาตรา 112 เป็นประเด็นใหญ่ของสังคมไทยในขณะนี้ ท่ามกลางการต่อสู้ของสองขั้วการเมืองระหว่าง “ซ้าย-ขวา” และความไม่เชื่อใจที่มีต่อกันสูง โดยเฉพาะจุดยืนของกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มที่ “ไม่เอาสถาบัน” จะเปลี่ยน “รูปแบบการปกครอง” พันไปยังขบวนการเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยที่เป็นหน่อเนื้อต่อสู้ร่วมกัน ว่านี่เป็นลับลวงพรางแยกกันเดิน รวมกันตีหรือไม่

แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่กุมการชี้นำขบวนการเสื้อแดงที่ผ่านมา บอกไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 112 แต่ก็ไม่ห้ามคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว จนถูกมองว่าเปิดทางให้มวลชนนวดมาตรา 112 ให้สุกงอมก่อน เมื่อถึงจังหวะก็ค่อยลงมือแก้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อเสนอให้แก้มาตรา 112 ของบางกลุ่มมีเจตนาดี แต่ในสถานการณ์การต่อสู้ที่ซับซ้อนฝุ่นตลบอย่างนี้ จึงถูกเหมารวมเป็น “ประสงค์ร้าย” เพราะความไม่ไว้วางใจจากบทบาทของแกนนำเสื้อแดงและ สส.พรรคเพื่อไทยที่เคยโจมตี “อำมาตย์” ทั้งรหัสลับในทางแจ้ง และทางลับตามโลกออนไลน์จนเป็นที่รู้กัน

ดังนั้น หากปล่อยให้แก้หรือยกเลิกมาตรา 112 แล้ว การหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย จะมีมากขึ้นหรือไม่ หรืออะไรเป็นหลักกิโลเมตรสุดท้ายที่มากกว่านั้น คำพูดของวรเจตน์ตอนหนึ่งที่บอกว่า “ข้อเสนอนี้สอดรับกับบรรดา กฎเกณฑ์ที่มีอยู่ และเชื่อว่าต่อไปหากกฎเกณฑ์รัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกันได้รับการแก้ไข ก็อาจมีการแก้ไขมาตรานี้อีก” ทำให้เกิดคำถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นจะแก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ด้วยหรือไม่

พร้อมกับคำถามคาใจ ทำไมนักวิชาการที่ร่วมขับเคลื่อนแก้มาตรา 112 ถึงไม่ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างการจัดการทรัพยากรที่นายทุนเอาเปรียบคนจน ไม่ว่าการปฏิรูปที่ดิน การจำกัดที่ดินครอบครัวละ 50 ไร่ ภาษีมรดก ภาษีทรัพย์สิน โดยใช้พลังเสื้อแดงกดดันพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่สามารถปฏิเสธการแก้ปัญหาคนจนได้เหมือนการแก้มาตรา 112

การแก้มาตรา 112 จึงเป็นความสุ่มเสี่ยงที่ทำให้พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ที่เป็น สส.พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบไม่น้อย เพราะเป็นประเด็นแหลมคม จึงต้องชิงตัดบทว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยว พร้อมกับแยก “เฉดแดง” ให้ชัดว่าเป็นแดงคนละกลุ่ม ป้องกันข้อกล่าวหาทางการเมือง

ทั้งจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ประกาศจุดยืนชัดไม่แก้มาตรา 112 ยงยุทธ วิชัยดิษฐ พูดในเวทีกรรมาธิการ ปรองดองของสภา ไม่แก้แน่ ล่าสุด สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา จากพรรคเพื่อไทย ออกมาตอกย้ำอีกราย จะยุ่งทำไมเรื่องมาตรา 112

คำยืนยันจากรัฐบาล และประธานรัฐสภาถ้ายังหนักแน่น เท่ากับว่า ตลอดอายุรัฐบาลเพื่อไทยจะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 เด็ดขาด แม้ว่าจะมีการเสนอร่างแก้ไขโดยกลุ่มนิติราษฎร์และคนเสื้อแดง จะกี่หมื่นชื่อหรือแสนชื่อก็ตาม แต่เมื่อฝ่ายมีอำนาจไม่แก้ด้วย ก็จบ

ปัญหาที่จะเกิดกับขบวนการเสื้อแดงในประเด็นมาตรา 112 ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของ “แดงสุดขั้ว” หากการรณรงค์ล่าชื่อแก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพดำเนินอย่างคึกคัก ก็อาจกระทบต่อจุดยืนทางสาธารณะของแดง นปช.ในเพื่อไทย กระทั่งที่ผ่านมา แดงฝ่ายซ้ายตำหนิแกนนำ นปช.ไม่กล้าหาญ ลืมจุดยืนคนเสื้อแดงที่ต้องผลักดันปฏิรูปโครงสร้างการปกครองของประเทศไปแล้ว

จุดร่วมของคนเสื้อแดงที่มีอยู่วันนี้ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และการต่อต้านการรัฐประหาร แต่การแก้มาตรา 112 สุดขั้วเกินกว่าที่ สส. นปช.จะรับภาระมาขับเคลื่อนในสภา เพราะถ้ายิ่งเข้าใกล้มาตรา 112 ก็ยิ่งทำให้รัฐบาลเพื่อไทยแบกรับต้นทุนไม่ไหว จนอาจกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำภารกิจวาระใหญ่ๆ ทั้งการปรองดอง การนิรโทษกรรม

ยิ่ง “แดง 112” เคลื่อนแก้มาตรา 112 มากเท่าไร พรรคเพื่อไทยกับแดง นปช.ในสภาก็ยิ่งต้องห่างจากมาตรา 112 ให้มากที่สุด

แต่จะแยกบทบาทกันได้แค่ไหน หรือต้องแกล้งแตกหักกันเอง เพื่อพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าไม่เกี่ยวกัน สถานการณ์ครั้งนี้ต้องติดตามเพราะ “ระเบิด 112” ถ้าแดง นปช.และพรรคเพื่อไทยเข้าใกล้ อาจพังครืนทั้งรัฐบาลได้


สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี

Tags : ระเบิด 112  ป่วนเพื่อไทย นปช.

view