คำสัญญา ยิ่งลักษณ์...?
ณัฐพล หวังทรัพย์
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือเวิร์คชอป เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ
ตามนโยบายเร่งด่วนในช่วง 1 ปีของรัฐบาลจำนวน 15 นโยบาย ของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 8 ก.พ. 2555
เพราะต้องไม่ลืมว่าการประชุม "เวิร์คชอป" เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร" ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดือน ก.พ. 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลของสถาบันการเงิน จนนำมาสู่การจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บบส.) และกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ "ทักษิณ" ใช้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
ผ่านไป 11 ปีผู้เป็นน้องสาวตัดสินใจเลือกวันที่ 8 ก.พ. 2555 เรียกประชุมเวิร์คชอปครั้งแรกของรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์"
ก่อนครบรอบ 11 ปีในการรับตำแหน่งนายกฯ ในสมัยแรกของ "ทักษิณ" เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2544 เพียง 1 วัน!!!
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือด้วยเหตุบังเอิญ แต่สิ่งที่รัฐบาลควรชี้แจงภายหลังการประชุม นอกจากจะมานั่งบอกว่าได้ทำอะไรไปแล้วในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ชี้แจงการใช้งบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับการดำเนินโครงการระยะเร่งด่วน 15 นโยบายที่จะดำเนินการในช่วง 1 ปีแรกให้ประชาชนเจ้าของเงินภาษีรับทราบด้วย
เพราะถ้าดูจากข้อมูลที่สภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ สรุปเสนอต่อที่ประชุม พบว่างบประมาณที่รัฐบาลตั้งไว้สำหรับดำเนินโครงการเร่งด่วนในปี 2555 กว่า 77,293.771 ล้านบาท นั้น ขณะนี้มีการเบิกจ่ายไปแล้ว 51,816.015 ล้านบาท
นอกจากนี้ประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศ ก็น่าจะใช้โอกาสนี้ไตร่ตรองว่าพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากคนส่วนใหญ่ ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้หรือไม่ เพื่อต่อไปจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองต่างๆ เพราะปัจจุบันทุกพรรคการเมืองจะใช้นโยบายหาเสียง มาเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อให้คนเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ
แต่หลายนโยบายกลับมีข้อจำกัดทั้งด้านกฎหมาย ระเบียบ และงบประมาณ ดังจะเห็นได้จากหลายนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่สัญญาว่าจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศวันละ 300 บาท แต่เมื่อถึงเวลาลงมือปฏิบัติ กลับเป็นการขึ้นค่าแรง 300 บาทแค่ 7 จังหวัดนำร่อง และก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้อีกหรือไม่ เพราะยังมีภาคเอกชนใน 7 จังหวัดจำนวนมากที่คัดค้าน
เช่นเดียวกับเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 15,000 บาท จนถึงขณะนี้ก็ทำได้เพียงขึ้นเงินเดือนข้าราชการที่จบปริญญาตรีแรกเข้าจากเดิม 9,140 บาท เป็น 11,680 บาท ส่วนที่เหลือเป็นค่าครองชีพชั่วคราวที่รัฐบาลจะปรับลดลงเมื่อใดก็ได้
ขณะที่นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ไม่เกิน 5 แสนบาท และโครงการบัตรเครดิตเกษตรกร ที่พรรคเพื่อไทยเคยสัญญาว่าจะพักชำระหนี้ให้คนกลุ่มนี้เป็นเวลา 3 ปี แล้วจะออกบัตรบัตรเครดิต ให้ชาวนานำไปรูดซื้อปัจจัยการผลิตโดยไม่มีดอกเบี้ย แต่เมื่อถึงเวลาปฏิบัติคนที่เข้าโครงการพักชำระหนี้กลับไม่มีสิทธิได้รับบัตรเครดิตเกษตรกร
นั่นหมายความว่าเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ของ ธ.ก.ส.ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการพักหนี้ 639,589 ราย จะไม่มีสิทธิได้รับบัตรเครดิตเกษตรกรอย่างที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงเอาไว้
เมื่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะตรวจการบ้านรัฐมนตรี ก็อย่าลืมชี้แจงให้ประชาชนเสียงข้างมากที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลด้วยว่า เหตุใดจึงไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชนในช่วงหาเสียง
อย่าให้การประชุมเวิร์คชอปครั้งนี้เป็นเพียงการฉลองครบรอบ 11 ปีในการรับตำแหน่งนายกฯ สมัยแรกของ "ทักษิณ"
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี