สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ลึก!เงินลงทุน จตุพรกับพวก ปล่อยกู้อุตลุตให้ตัวเอง-บริวาร 23.7 ล้าน

จากสำนักข่าวอิสรา

เจาะลึกงบการเงิน หจก. 5 แห่งปริศนา“จตุพร-พวก” กำไรแค่หลักร้อยถึงพันบาท ใจปล้ำปล่อยกู้พรวด 23.7 ล้านเกือบเท่าทุนจดทะเบียน ทั้งที่เพิ่งก่อตั้ง แถมค้างจ่าย ค่าสอบบัญชี - เงินสมทบประกันสังคม –ภาษีนิติบุคคลเพียบ ผู้ตรวจสอบบัญชีระบุไม่พบหลักฐานใครลูกหนี้?

          เงื่อนปมสำคัญกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับพวกคือ นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย และนายฐาปนา จินดากาญจน์ อดีตผู้มัครสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้ง หจก. 5 แห่งรวด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2545 ได้แก่ 1.หจก.สยามเชนจ์ พอยท์ 2.หจก.วิชั่น แอนด์ ซีนะรี 3.หจก.ศรีหมวดเก้า 4.หจก.บุตรตะวัน และ5. หจก. ศรีสมุย ลองสเตย์ รวมเงินลงทุน 25 ล้านบาท (เฉพาะนายจตุพร 8.6 ล้านบาท) 

         ทั้ง 5 แห่งมีที่ตั้งเลขที่เดียวกัน เลขที่ 69/12 อาคารอัลฟ่าบิลดิ้ง ชั้น 12 โซนเอ ถนนวิภาวดีรังสิต สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ ต่อมา สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ที่ตั้งดังกล่าว เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท จิบเสน ดีเวลลอพเม้นท์ จำกัด ตั้งแต่ปี 2533 ก่อนจะถูกโอนไปที่ธนาคารทหารไทย และโอนต่อไปที่บริษัทบริหารสินทรัพย์ พญาไท ปี 2544 และถูกโอนต่อไปทีบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ปี 2546 และมหาวิทยาลัยมหิดล เข้าซื้อตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2546 

        และ หจก.ทั้ง 5 แห่งแจ้งเลิกกิจการพร้อมกันเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547  

        ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบงบดุลและงบการเงินของ หจก.ทั้ง 5 แห่งของนายจตุพรกับพวกพบว่า ในรอบปี 2545 (ก่อนเลิกกิจการ) มีรายการ “เงินให้กู้ยืมแก่บุคคลหรือกิจการเกี่ยวข้อง” ถึง 23,700,000 บาท แบ่งเป็น 

        1.หจก.สยามเชนจ์ พอยท์ มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,750,000 บาท

        2.หจก.วิชั่น แอนด์ ซีนะรี มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,700,000 บาท

        3.หจก.ศรีหมวดเก้า มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,700,000 บาท

        4.หจก.บุตรตะวัน มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,800,000 บาท

        5.หจก.ศรีสมุย ลองสเตย์ มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,750,000 บาท


        ทั้งนี้ในรายการการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี คือ นายปัญญา อุดมระติ หมายเลขผู้สอบบัญชี 2653 ระบุว่าการตรวจสอบงบดุลของ หจก.แต่ละแห่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 เหมือนกันว่า 

       “ข้าพเจ้าไม่สามารถหาหลักฐานจนเป็นที่พอใจที่แสดงยอดลูกหนี้ให้กู้ยืมระยะ ยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งมีผลต่อฐานะการเงินของบริษัท”

        หจก.ทั้ง 5 แห่ง ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี และจัดส่งงบการเงิน รอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2545 ให้ผู้สอบบัญชี คือ นายปัญญา อุดมระติ หมายเลขผู้สอบบัญชี 2653 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 ปรากฏรายละเอียดดังนี้ 

         1.หจก.สยามเชนจ์ พอยท์ จดทะเบียนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท รับเหมาก่อสร้าง ถมดิน ขุดดิน ปรับหน้าดิน 

         ได้จดทะเบียนเลิกห้างซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2550 โดยจัดส่งงบการเงิน รอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2545 ให้ผู้สอบบัญชี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 

        ทั้งนี้ ในส่วนงบกำไรขาดทุน มีการแจ้งรายละเอียดมีรายได้รวม 197,916.67 บาท มีรายจ่ายรวมจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 198,191.00 บาท มีกำไร(ขาดทุน)สุทธิ -274.33 บาท    

       สำหรับข้อมูลละเอียดในงบดุล มีการแจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 71,691 บาท มีดอกเบี้ยค้างรับ 197,916.67 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 269,607.67 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคล หรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,750,000 บาท รวมสินทรัพย์ 5,019,607.67 บาท   

       ส่วนหนี้สิน พบว่า มีค่าสอบบัญชีค้างจ่าย 10,000 บาท เงินสมทบประกันสังคมค้างจ่าย 9,882 บาท รวมหนี้สินหมุนเวียนอื่น 19,882 บาท รวมหนี้สิน 19,882 บาท        

       ส่วนทุนของผู้เป็นหุ้นส่วน นายสถาพร มณีรัตน์ 1,800,000 บาท นายฐาปนา จินดากาญจน์ 1,600,000 บาท นายจตุพร พรหมพันธุ์ 1,600,000 บาท กำไร(ขาดทุน)สะสม -274.33 บาท รวมส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 4,999,725.67 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,019,607.67 บาท  

       2. หจก.วิชั่น แอนด์ ซีนะรี จดทะเบียนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ผลิตสื่อโฆษณา 

       ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2548 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2550 โดยจัดส่งงบการเงิน รอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2545 ให้ผู้สอบบัญชี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 

        ทั้งนี้ ในส่วนงบกำไรขาดทุน มีการแจ้งรายละเอียด ว่า มีรายได้รวม 195,833.33 บาท มีรายจ่ายรวมจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 194,860 บาท กำไร (ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 973.33 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคล 194.67 บาท กำไร(ขาดทุน) สุทธิ 778.66 บาท 

        สำหรับข้อมูลละเอียดในงบดุล มีการแจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 124,860 บาท ดอกเบี้ยค้างรับ 195,833.33 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 320,693.33 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,700,000 บาท รวมทรัพย์สิน 5,020,693.33 บาท 

        ส่วนหนี้สิน พบว่า มีค่าสอบบัญชีค้างจ่าย 10,000 บาท เงินสมทบประกันสังคมค้างจ่าย 9,720 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 194.67 บาท รวมหนี้สิน 19,914.67 บาท 

        ส่วนทุนของผู้เป็นหุ้นส่วน นายจตุพร พรหมพันธุ์ 4,000,000 บาท นายสถาพร มณีรัตน์ 1,000,000 บาท กำไร(ขาดทุน)สะสม 778.66 บาท รวมส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,000,778.66 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,020,698.33 บาท   

         3.หจก. ศรีหมวดเก้า จดทะเบียนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ขุดถ่านหิน ขุด ขนแร่ต่างๆ 

ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2550 โดยจัดส่งงบการเงิน รอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2545 ให้ผู้สอบบัญชี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 

         ทั้งนี้ ในส่วนงบกำไรขาดทุน มีการแจ้งรายละเอียด ว่า มีรายได้รวม 195,833.33 บาท มี รายจ่ายรวมจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 196,914 บาท กำไร(ขาดทุน)สุทธิ -1,080.67 บาท  

          สำหรับข้อมูลละเอียดในงบดุล มีการแจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 122,914 บาท มีดอกเบี้ยค้างรับ 195,833.33 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 318,747.33 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,700,000 บาท รวมสินทรัพย์ 5,018,747.33 บาท    

          ส่วนหนี้สิน พบว่า มี ค่าสอบบัญชีค้างจ่าย 10,000 บาท เงินสมทบประกันสังคมค้างจ่าย 9,828 บาท รวมหนี้สิน 19,828 บาท ส่วนทุนของผู้เป็นหุ้นส่วน นาย สถาพร มณีรัตน์ 4,000,000 บาท นาย จตุพร พรหมพันธุ์ 1,000,000 บาท กำไร(ขาดทุน)สะสม -1,080.67 บาท รวมส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 4,998,919.33 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,018,747.33 บาท    

        4. หจก.บุตรตะวัน จดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการ ถมดิน ขุดปรับหน้าดิน ขายซื้อที่ดินทั้งหมด และ ขนถ่ายขุดถ่านหิน แร่ต่างๆทำเหมืองแร่ทั้งหมด

        ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2548 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2550 โดยจัดส่งงบการเงิน รอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2545 ให้ผู้สอบบัญชี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2546 

ทั้งนี้ ในส่วนงบกำไรขาดทุน มีการแจ้งรายละเอียด ว่า มีรายได้รวม 200,000 บาท มี รายจ่ายรวมจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 198,968 บาท กำไร(ขาดทุน)ก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 1,032 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคล 206.40 บาท กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 825.60 บาท  

สำหรับข้อมูลละเอียดในงบดุล มีการแจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 20,968 บาท มีดอกเบี้ยค้างรับ 200,000 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 220,968 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,800,000 บาท รวมสินทรัพย์ 5,020,968 บาท   

ส่วนหนี้สิน พบว่า มีค่าสอบบัญชีค้างจ่าย 10,000 บาท เงินสมทบประกันสังคมค้างจ่าย 9,936 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 206.40 บาท รวมหนี้สิน 20,142.40 บาท

ส่วนทุนของผู้เป็นหุ้นส่วน นายฐาปนา จินดากาญน์ 4,000,000 บาท นายจตุพร พรหมพันธุ์ 1,000,000 บาท กำไร(ขาดทุน)สะสม 825.60 บาท รวมส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,000,825.60 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,020,968 บาท 

         5.หจก. ศรีสมุย ลองสเตย์ จดทะเบียนวันที่ 12 มีนาคม 2545 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษาแก่ชาวไทยและต่างชาติเพื่อเป็นสมาชิกประกอบ ธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว ประกอบกิจการอำนวยความสะดวกในการจองที่พัก โรงแรม ในโครงการที่พักระยะยาว และประกอบกิจการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนา โครงการพัฒนาโครงการหมู่บ้าน    

          ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2550 โดยจัดส่งงบการเงิน รอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2545 ให้ผู้สอบบัญชี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2546  

           ทั้งนี้ ในส่วนงบกำไรขาดทุน มีการแจ้งรายละเอียด ว่า มีรายได้รวม 178,125 บาท มี รายจ่ายรวมจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร 176,860 บาท กำไร(ขาดทุน)ก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 1,265 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคล 253 บาท กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 1,012 บาท   

           สำหรับข้อมูลละเอียดในงบดุล มีการแจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 92,860 บาทดอกเบี้ยค้างรับ 178,125 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 270,985 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,750,000 บาท รวมสินทรัพย์ 5,020,985 บาท   

           ส่วนหนี้สิน พบว่า มีค่าสอบบัญชีค้างจ่าย 10,000 บาท เงินสมทบประกันสังคมค้างจ่าย 9,720 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 253 บาท รวมหนี้สิน 19,973 บาท   

           ส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน นาย สถาพร มณีรัตน์ 4,000,000 บาท นาย จตุพร พรหมพันธุ์ 1,000,000 บาท กำไร(ขาดทุน)สะสม 1,012 บาท รวมส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,001,012 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน 5,020,985 บาท

           รวมเงินให้กู้ยืม 5 แห่ง 23,700,000 บาท


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ลึก เงินลงทุน จตุพรกับพวก ปล่อยกู้อุตลุต ให้ตัวเอง บริวาร

view