จาก โพสต์ทูเดย์

"ถาวร"โต้เพื่อไทยกินปูนร้อนท้อง ยันป้ายคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญของส.ส.ประชาธิปัตย์ ไม่ได้ผิดถึงขั้นยุบพรรค

นายถาวร เสนเนียม สส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าจะยื่นเรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณี กลุ่ม สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นป้ายต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ นั้นจากการรตรวจสอบทางข้อกฎหมายไม่พบว่าเป็นการกระทำมีโทษยุบพรรค ทั้ง รัฐธรรมนูญ มาตรา 68, 237  หรือ ขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ตามมาตรา42 และ82 หรือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.หรือการได้มาซึ่งส.ว.

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการของกลุ่ม ส.ส. สงขลา ไม่มีพฤติกรรมใดที่เข้าข่ายขัดกับรัฐธรรมนูญ หรือเข้าข่ายที่อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ซึ่งแนวทางการปกป้องสถาบัน และต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามปฏิญญาหาดใหญ่ ซึ่งเป็นมติของที่ประชุมสัมมนาสาขาพรรค 14 จังหวัดภาคใต้ และเป็นการดำเนินการตามสิทธิเสรีภาพในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ

นายถาวร กล่าวว่า ป้ายประชาสัมพันธ์ที่ระบุ3ข้อ ที่ต่อต้านแก้รัฐธรรมนูญนั้นไม่เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายที่จะนำมาสู่ การยุบพรรคแต่อย่างใด ดังนั้นหากจะยุบพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องกลับไปดูตัวเองเสียก่อนว่ากินปูนร้อน ท้องหรือไม่ นอกจากนี้ กลับเป็นฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่กระทำความผิดขัดต่อ มาตรา68 ล้มล้างการปกครอง ผ่านการฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งมีผู้ไปยื่นเรื่องต่ออัยการให้พิจารณาแล้ว 

ด้าน นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า น่าแปลกใจ กรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะที่ผ่านมาพรรคการเมืองที่ต่อต้านบทบัญญัติเรื่องการยุบพรรค คือไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย แต่กลับเป็นพรรคการเมืองที่ร้องให้ยุบพรรคอื่นบ่อยที่สุด ไม่รู้เป็นอะไร คือเชื่อหลักการอย่างหนึ่ง แต่ก็ทำอีกอย่าง

“ตกลงคุณยังยืนยันเห็นด้วยกับหลักการการยุบพรรคใช่หรือไม่ และอันที่ 2 ก็คือว่า ถ้าคุณพยายามที่จะกล่าวหาเสียทุกเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นการทำหน้าที่แข่งขันต่อสู้กันทางการเมือง ตามปกตินั้น แต่เพียงเพื่อกดดันแล้วก็เอาไปพูดซ้ำแล้ว ซ้ำอีกว่า ประชาธิปัตย์นั้นไม่ถูกยุบเพราะว่ามีเส้น ทั้งที่ความจริงคือประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำผิดแล้วคุณจะมายุบทำไม ถ้าเกิดเราพยายามที่จะสร้างบรรทัดฐานกับสังคมว่า คนที่ถูกกล่าวหานั้น ถ้าถูกกล่าวหาบ่อย ๆ แล้วต้องผิด มันคงไม่ใช่หรอกครับ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการบั่นทอนกระบวนการยุติธรรม และการทำงานขององค์กรตรวจสอบ และองค์กรอิสระ เพราะว่าเวลาที่วินิจฉัยไม่ได้ดั่งใจ ก็ออกมาใช้วิธีการในการที่จะลดความน่าเชื่อถือ แล้วก็ใช้กระบวนการซึ่งเป็นระบบในการนำข้อมูลข่าวสารที่ผิด ๆ ไปให้กับประชาชน แล้วก็ต้องยอมรับว่าองค์กรที่เขาทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นศาล จะเป็นองค์กรอิสระนั้น เขาก็ไม่ค่อยจะมาอธิบายให้กับมวลชน

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน