จากสำนักข่าวอิสรา
http://www.isranews.org/Investigative/71-Investigative/5775--ais-4-.html

ความลับแตก!บิ๊ก เอไอเอส รับหิ้วถุงของขวัญ แจกกรรมการ กสทช.ทุกคน พร้อมพระแก้วมรกต อ้างฝ่ายพีอาร์จัดเตรียมไม่ทราบมีไอโฟน 4s อยู่ข้างใน  บอกอาจมีปัญหาข้อกฎหมาย  ด้านเลขาธิการ กสทช. กุลีกุจอขอข้อมูล ส่วนของจับสลาก  ไม่ต้องคืน เพราะให้องค์กร  ไม่ได้ให้คน  ใจป๋าแจก BlackBerry 1 เครื่อง

         การรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ “ไอโฟน4”  (I Phone 4s 64 GB)  จากบริษัทค่ายสื่อสารของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ขณะนี้แยกออกเป็น 2 กรณี 

         กรณีแรก สำนักงาน กสทช. รับของขวัญ  ประกอบด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ (I Phone 4s 64 GB) 1 เครื่อง   และ ตุ๊กตาน้องอุ่นใจ 15 ตัว จากบริษัท AIS   ,กล้อง ดิจิตอล ยี่ห้อ ฟูจิ 1 ตัว , Digital Photo Frame  1 ตัว  ,โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อซัมซุง กาแลกซี่มินิ 1 เครื่อง และ ซัมซุง พันช์ 1 เครื่อง (Sumsung Punch) รวม 4 รางวัลจากบริษัท เอ็มบิส เนื่องในงานแข่งกีฬาสีและงานเลี้ยงปีใหม่ เมื่อวัน13 มกราคม 2555 ขณะนี้มีข้อเท็จจริงว่า มีหลักฐานว่า สำนักงาน กสทช.ได้รับมอบของขวัญดังกล่าวจริง

        กรณีที่สอง กรรมการ กสทช.ได้รับ I Phone 4s ขนาด 64 GB  จากบริษัทสื่อสารรายใหญ่แห่งหนึ่งเป็นของกำนัลในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยผู้ให้อ้างว่ามอบให้ทดลองใช้ จนถึงขณะนี้มีเพียงนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เพียงคนเดียวที่ยอมรับว่าได้รับจริง แต่คิดว่าอาจผิดกฎหมายมีราคาเกิน 3,000 จึงส่งคืน ส่วนพระแก้วได้รับไว้เพราะมูลค่าไม่น่าเกิน 3,000 บาท  ขณะที่กรรมการ กสทช.รายอื่น ได้แก่ พันเอก นที ศุกลรัตน์ , นายสุทธิพล ทวีชัยการ  ,พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช.  ได้ปฏิเสธว่าไม่เคยได้รับมอบโทรศัพท์ I Phone 4s เป็นของขวัญปีใหม่ จากบริษัทเอกชนรายใด และไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน

         ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555 นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเบื้องต้น นายวิเชียร ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะไม่ได้เป็นคนนำไปมอบให้กรรมการ กสทช. และขอให้ไปตรวจสอบข้อมูลกับฝ่ายประชาสัมพันธ์เอไอเอส อีกครั้ง

       “ เออ..ผมไม่แน่ใจครับ เพราะผม..ไม่ได้เป็นคนนำไปให้หรือรู้เรื่องนี้ คงต้องเช็คกับกับทางพีอาร์ (ประชาสัมพันธ์) ก่อนว่ามีการนำไปให้หรือเปล่า” นายวิเชียรกล่าว

       เมื่อถามว่า เอไอเอส นำของขวัญไปสนับสนุนการจัดงานปีใหม่ของ กสทช. ใช่หรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า “เออ..ของจัดงานปีใหม่อาจจะเป็นไปได้นะครับ เพราะว่าเวลาจัดงานปีใหม่ ก็มีการเอาของไปช่วยกันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร แต่ผมไม่แน่ใจนะครับ ผมไม่ยืนยัน เพราะผมไม่ได้เป็นคนเอาไปให้ ก็เลยยังไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า และให้ไปกี่เครื่องอะไรยังไง”

เมื่อถามว่า กสทช. แจ้งขอรับการสนับสนุนของขวัญปีใหม่จากเอไอเอส หรือไม่

          นายวิเชียร ตอบว่า “ ไม่ใช่ครับ..(เสียงแข็ง) ไม่ใช่.. เขาไม่ได้เป็นคนขอ คือเราเห็นว่าเขา (กสทช.) มีงานปีใหม่ เขาเชิญเราไปร่วม ซึ่งการไปร่วมงาน ถ้าไปมือเปล่าก็ดูกะไรอยู่ ก็เลยต้องเอาของไปจับสลาก ก็อาจจะมีตั้งแต่ตุ๊กตาบ้าง อะไรบ้างก็เยอะแยะไป เพราะเรามีของพรีเมียม ที่แจกลูกค้าอยู่เยอะแยะ”

         เมื่อถามว่า แต่โทรศัพท์ ไอโฟน 4s มีราคาแพงเกิน 3,000 บาท ตามกฎหมายป.ป.ช.กำหนด นายวิเชียร กล่าวว่า “ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ผมไม่ทราบ เพราะไม่ได้เอาไป ต้องเช็คกับทางพีอาร์ดู”

          เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันเป็นการเอาของไปให้โดยไม่หวังผลอะไร นายวิเชียร ตอบว่า “ ถ้าเขาเอาไปจริงนะครับๆ ซึ่งผมยังไม่ทราบ ต้องให้ได้ความจริงชัดเจนก่อน เดี๋ยวคุณเอาไปลงว่า คุณวิเชียรเอาไปให้แต่ไม่ได้หวังอะไร แต่ผมบอกตอนนี้ว่า ผมไม่ยังทราบ”

        “แต่ถ้าเป็นการเอาไปร่วมงานปีใหม่ก็เป็นเรื่องปกติ คือเวลาเราไปร่วมงานสมาคม อะไรต่างๆ หรือบางที่มีงานกอล์ฟการกุศล เอไอเอสก็ไปร่วม ไปช่วย เราก็เอาของไปด้วยไปร่วมกันจับสลาก แต่กรณีตอนนี้ผมยังไม่ทราบต้องเช็คกับทางพีอาร์เขาดู”นายวิเชียรระบุ

        ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวย้อนกลับมาถามเรื่อง การนำโทรศัพท์ไอโฟน 4 s ไปมอบให้กับกรรมการ กสทช. อีกครั้ง ว่าจะต้องตรวจสอบข้อมูลด้วยหรือไม่

        นายวิเชียร กล่าวว่า “ส่วนใหญ่เราก็ตรวจสอบราคา อย่างเช่นที่ผมเอาไปให้เองเป็นการส่วนตัว ก็คือ..(หยุดคิดนิดหนึ่ง) ไม่ใช่ส่วนตัว ในนามบริษัท คือ พระพุทธรูป พระแก้วมรกต”

       เมื่อถามย้ำว่า แต่ไม่ได้เอาไอโฟน 4sไปให้ด้วยใช่ไหม นายวิเชียร ตอบว่า “เออ..ผมไม่คิดว่าผมเอาไปนะ”

        เมื่อถามต่อว่า อย่างคุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ได้เข้าพบเพื่ออวยพรปีใหม่หรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า “ได้เข้าพบครับ”

        เมื่อถามว่า แต่ไม่ได้เอาไอโฟน 4s ไปให้ใช่หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า “เออ..ถ้าถึงเอาไปเธอคงไม่รับหรอกครับ”

        เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงเอาไปให้ แต่คุณสุภิญญา ไม่รับ นายวิเชียร ตอบว่า “ผมจำได้ว่า วันที่ผมเอาของไปให้คุณสุภิญญา มีกล่องอยู่กล่องหนึ่งด้วย เธอถามผมว่าอะไร ผมบอกว่าไม่ทราบ เธอก็เลยบอกว่าถ้างั้นเธอขอไม่รับไว้ก่อนเพราะกลัวจะเกินราคา แต่พระพุทธรูป มีการนำไปให้กรรมการทุกท่านแน่นอน”

       เมื่อถามย้ำว่า แต่กล่องที่นำไปให้ บรรจุเครื่อง ไอโฟน 4s ไว้

        นายวิเชียร กล่าวว่า “เวลาผมไป แผนกพีอาร์ จะเป็นคนเตรียมของไว้ให้ ของที่ไม่ได้ห่ออะไรไว้ เราก็เห็น แต่ของที่ห่อไว้บางที่ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเหมือนกัน และก็ไม่ได้ถามอะไรเขามากมาย มันก็เป็นถุงๆ ใส่เป็นถุงมา”

       “ถ้าบังเอิญมันเป็นไอโฟน 4s ก็อาจจะเป็นปัญหาไปได้ เพราะหลายท่านบอกว่ามันรับไม่ได้ ราคามันเกิน ก็โอเค เข้าใจ ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากถามว่ามันเป็น ไอโฟน 4s หรือเปล่า คุณต้องถามทางพีอาร์เขาดู”

        ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ที่ไปพบกรรมการ กสทช. นอกจากคุณสุภิญญา ไปพบกรรมการคนอื่นด้วยหรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า “พบ ทุกท่านครับ ..เพราะว่าเวลาไปอวยพรปีใหม่ เวลาพบแตกต่างกันออกไป ตามแต่ช่วงเวลาตอนไหนที่ท่านว่าง เพราะบริษัทผมอยู่ใกล้ๆ ต้องนั้นอยู่แล้ว ผมอยู่ปากซอย ผมก็เข้าไปพบ”

       เมื่อถามว่า กล่องที่ทางพีอาร์เตรียมมาให้ ได้ให้กรรมการ กสทช.คนอื่น ๆ นอกจากคุณสุภิญญา หรือไม่ นายวิเชียร ยืนยันว่า “ทุกคนครับ..เหมือนกันครับ”

        เมื่อถามย้ำว่า แล้วทุกคนรับเหมือนกันไหม นายวิเชียร ตอบว่า “ก็รับเหมือนกันครับ เป็นถุงของขวัญแต่ผมไม่ทราบว่า สิ่งของที่อยู่ภายใน จะมีความแตกต่างกันเปล่า ผมไม่ผมแน่ใจ”

        เมื่อถามว่า กรรมการ กสทช. คนไหนที่รับกล่องของขวัญไปบ้าง นายวิเชียร ตอบว่า “ก็..กรรมการทุกท่านนะครับ ผมไปพบกรรมการทุกท่าน ทุกท่านก็รับพระพุทธรูปไปหมด”

         เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงถุงของขวัญที่บรรจุ ไอโฟน 4s นายวิเชียร กล่าวว่า “เออ..ผมไม่ได้ไป คือผม.. คือ ถุงของขวัญเนี่ยนะครับ มันอยู่ในถุงใหญ่ๆทั้งหมด บางทีก็ยื่นให้กับทีมงานของท่านบ้างอะไรบ้าง ผมก็เลยไม่ทราบว่า ของมันมีอะไรบ้างในถุง แล้วก็ใครคืนไม่คืนบ้าง แต่คุณสุภิญญา ผมมอบให้กับมือท่านเอง ท่านบอกว่า คงรับไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าราคาเกินหรือเปล่า ก็ประมาณนี้”

        ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เตรียมที่จะประสานไปยังบริษัทเอไอเอส เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการนำโทรศัพท์ไอโฟน 4 S มามอบให้กับกรรมการ กสทช. เพราะต้องการทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้เหมือนกัน

        “เรื่องที่เอไอเอส นำ ไอโฟน 4 S มาให้ กรรมการ กสทช. ผมไม่ทราบจริงๆ กำลังโทรถามข้อมูลจากเอไอเอสอยู่เหมือนกัน กำลังเช็คข่าวอยู่ แต่ในส่วนของสำนักงาน กสทช. ไม่มีเรื่องนี้อย่างแน่นอน สำหรับตัวผมเอง ทางตัวแทนเอไอเอส ก็มาพบเพื่ออวยพรปีใหม่ แต่ก็เอาพระมาให้ เข้าใจว่าเป็นพระที่ทางบริษัทจัดทำขึ้นเอง ยังมีป้ายชื่อบริษัทติดอยู่เลย”

       นายฐากร ยังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีบริษัท เอไอเอส นำของรางวัลมาสนับสนุนการจัดงานปีใหม่ ของ กสทช. ว่า การจัดงานกีฬาสีและงานเลี้ยงปีใหม่ ของ กสทช. โดยปกติ จะเชิญสื่อมวลชน และเอกชนมาร่วมงานด้วย ซึ่งการจัดงานปีนี้ ก็มีตัวแทนบริษัทเอไอเอส มาร่วมด้วย และนำของรางวัลมาสมทบเพื่อให้พนักงานจับสลากด้วย แต่ไม่มีใครทราบว่า ของที่นำมาจับเป็นอะไรบ้าง

       “ การจัดงานครั้งนี้ มีการตั้งประธานคณะกรรมการจัดงานดูแล ซึ่งทุกปีจะเชิญสื่อมวลชน เอกชน มาร่วม ด้วย เขาก็เอาของรางวัลมาจับสลากด้วย ไม่มีใครรู้หรอก อย่างตัวผมเอง ผมก็ให้ BB หรือ BlackBerry ไปเครื่องหนึ่งเป็นรางวัลของเลขาธิการ และก็เอารางวัลไปวางที่โต๊ะเลย ซึ่งในส่วนของ ประธานและกรรมการกสทช. หรือแขกที่มาร่วมคนอื่น ก็ทำแบบนี้ เข้าใจว่าปีนี้ มีรางวัลถึง 50 ชิ้น พนักงานเจ้าหน้าที่มาร่วมงานเป็นพันคน เมื่อถึงเวลาจับของรางวัลอะไรได้ เจ้าของรางวัลที่นำมา ก็ขึ้นไปมอบพร้อมประกาศกลางงานว่า ของที่นำมาเป็นอะไร เพื่อให้พนักงานที่จับได้ตื่นเต้น คนที่จับได้ก็ดีใจ ซึ่งในส่วนของบริษัทเอไอเอส ที่นำโทรศัพท์ไอโฟน 4 S และตุ๊กตา ก็เป็นลักษณะเดียวกัน มาถึงงานเขาก็เอาของมาวาง เมื่อถึงเวลาเราก็จับสลากกัน ใครจับของใครได้เราก็บอกไปตามตรงไม่มีปิดบัง ใครจะเอาอะไรมาก็แล้วแต่ศรัทธา ”

        เมื่อถามว่า มีการประสานงานไปยังบริษัทเอไอเอส และบริษัท เอ็มบิส เพื่อให้สนับสนุนของรางวัลก่อนหรือไม่ นายฐากร กล่าวว่า “ไม่มีการประสานงานล่วงหน้าอย่างแน่นอน เขาเอามาให้เอง เอาของมาให้ตอนที่มาร่วมงานเลี้ยง และเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. เพราะไม่ได้เป็นการเอามาให้ตัวบุคคล เอามาให้ใคร แต่เอามาจับสลากเท่านั้น ซึ่งในส่วนของดีเทค ก็มาร่วมงานนะ แต่ไม่ได้เอาของมา มากินเลี้ยงเสร็จ ก็กลับไป”

        นายฐากร กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ในส่วนของรางวัล จากบริษัทเอไอเอส ตนรับหน้าที่เป็นผู้จับสลากมอบให้กับพนักงานที่โชคดีด้วยตนเอง เนื่องจากในช่วงที่มีการจับสลากของขวัญ เริ่มจะดึกมากแล้ว และเสียงดัง เกรงว่าจะกระทบต่อคนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานที่การจัดงาน เมื่อจับสลากของรางวัล ในส่วนประธาน และกรรมการ กสชท. รวมถึงตนเอง หมดแล้ว ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำรางวัลที่เหลืออยู่มาจับให้หมดทันที

         เมื่อถามว่า ในช่วงที่จับสลากของรางวัลจากเอไอเอส และพบว่า เป็นโทรศัพท์ ไอโฟน 4s ซึ่งมีราคาแพง ได้ตระหนักถึงข้อห้ามเรื่องการรับของรางวัลเกิน 3,000 บาท หรือไม่ นายฐากร กล่าวว่า “พูดตรงๆ ตอนนั้น ไม่ได้คุยหรือคิดเรื่องนี้เลยจับเสร็จก็แยกย้ายกลับบ้านกัน

       “แต่หลักการการให้ของรางวัล ถ้าเอามาให้ตัวบุคคล คงรับไม่ได้ ก็อย่างที่ผมชี้แจงไป ถ้านำมามอบของขวัญปีไหม ให้กับเรา ให้เป็นตัวบุคคล ถ้าราคาเกิน 3,000 บาทคงรับไม่ได้ แต่อันนี้เป็นเรื่องสำนักงาน ไม่ได้มอบตัวบุคคล จึงไม่น่าจะเข้าข่ายข้อห้าม”

        นายฐากร กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้น ตนได้เชิญนายชูศักดิ์ เสรีรัฐ ประธานกรรมการพิจารณาการจัดการแข่งขันกีฬาสีภายในประจำปี 2555 และนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มงานกรรมการกิจการโทรคมนาคม มาหารือร่วมกัน และได้ให้นโยบายไปว่า การจัดงานนับจากนี้ไป ของรางวัลจากบุคคลภายใน ที่จะนำมาร่วม จะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่า เป็นสิ่งของอะไร เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งความจริงการจัดงานครั้งนี้ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงาน กสทช. เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ต้องเข้ามาดูแล และเพื่อให้การรับบริจาคสิ่งของจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก มีความชัดเจน ในข้อกำหนดมากขึ้น กสทช. อยู่ระหว่างยกร่างระเบียบขึ้นมาบังคับใช้ ซึ่งในร่างระเบียบดังกล่าว จะมีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจน ว่า การบริจาคเงินและสิ่งของ จะต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขอะไรตอบแทน ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาแล้ว และเตรียมที่จะเสนอให้คณะกรรมการ กสทช.พิจารณาในเร็วๆ นี้

        “การจัดงานครั้งต่อไป เรื่องแบบนี้ คงไม่มีอีกแล้ว เขาจะเอาของอะไรมาให้ มาสมทบช่วยงาน จะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน แต่ผมก็คิดว่าเรื่องนี้มันคงป้องกันเยอะ เพราะปกติ คนที่มาสังสรรค์ จะไม่ค่อยยอมบอก ว่าเอาอะไรมาช่วยงาน ซึ่งในตอนที่ผมเรียกผอ.ชูศักดิ์ มาคุย เขาก็ยืนยันว่า ไม่ทราบว่าของที่เอามาเป็นอะไรเหมือนกัน”

         เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ ถ้า ป.ป.ช. จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ นายฐากร กล่าวว่า “ไม่กังวล เพราะว่าทางเรา สามารถชี้แจงได้ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ”

       เมื่อถามว่า จะเรียกคืนของรางวัล ที่พนักงานจับได้ คืนให้บริษัทหรือไม่ นายฐากร กล่าวว่า “ไม่ต้องเรียกคืน เพราะเรามองว่าไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าป.ป.ช. มองว่าเราผิด ก็คงต้องน้อมรับ และการที่เอไอเอส และเอ็มบิล เอาของมาช่วยงาน ก็ไม่ได้ทำให้เราต้องช่วยเหลือบริษัททั้งสองเป็นพิเศษในการทำงาน คดีก็ฟ้องกันอยู่ก็เยอะ เราก็เดินหน้าปกติ อันไหนทำไม่ถูก ผมก็ต้องกำกับดูแล ต้องคุ้มครองประชาชนปกปิดไม่ได้”

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน