สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ประเทศไทยกับผู้นำอุตสาหกรรมนมในอาเซียน

จาก โพสต์ทูเดย์

นับถึงปัจจุบันนี้ เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ที่ประเทศไทยรู้จักกับอาชีพการเลี้ยงโคนม หนึ่งในอาชีพพระราชทาน

อันเกิดจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระประสงค์ให้คนไทยมีอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต

ในปัจจุบัน พบว่าอาชีพเกษตรกรเลี้ยงโคนมมีจุดเริ่มต้นที่ อ.มวกเหล็ก และได้กระจายไปเกือบทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพราะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเลี้ยงได้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศ ไทย ถึงแม้ว่าจะมีรายจ่ายสูง แต่ผลกำไรตอบแทนที่ได้รับถือว่าสูงกว่าอาชีพเกษตรกรอื่นๆ อยู่หลายเท่า ซึ่งที่ผ่านมาองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. นอกจากจะทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำนมดิบในประเทศแล้ว ยังมีส่วนในการนำวิชาการด้านการเลี้ยงโคนมมาเผยแพร่ให้กับเกษตรกร เช่น การส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้หญ้าแทนการใช้อาหารข้นสำเร็จรูปในการเลี้ยงโค นม การให้บริการผสมเทียม การผลิตและจัดจำหน่ายปัจจัยการเลี้ยงโคนมในราคาถูก ซึ่งทำให้เกษตรกรลดต้นทุนในการเลี้ยงโคนม และให้น้ำนมดิบที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด

นพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค. บอกกับเราว่า ความสำเร็จของอุตสาหกรรมนมไทย นอกจากจะมาจากองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงโคนมและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมแล้ว การบริหารจัดการน้ำนมดิบอย่างเป็นระบบยังถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่ ช่วยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนมไทย เพราะในอดีตที่ผ่านมา ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดคือปัญหาหลักที่คอยฉุดรั้งอุตสาหกรรมนมไม่ให้เดินหน้า ซึ่งสาเหตุเกิดจากการใช้นมผงนำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ ซึ่งนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต และผลิตภัณฑ์นมยังมีน้อย ดังนั้นการแก้ปัญหาในระยะยาวคือ การส่งเสริมให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าของนมสด ซึ่งมีคุณประโยชน์ทางโภชนาการเหนือกว่านมผงหลายเท่า และส่งเสริมค่านิยมการเลือกดื่มผลิตภัณฑ์นมที่ทำมาจากนมโคสดแท้ นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมนมหันมาใช้นมโคสดแท้ในการผลิตเป็น ผลิตภัณฑ์ เพื่อดึงน้ำนมดิบในระบบให้มากที่สุด ส่วนอีกหนึ่งทางแก้ในอนาคตคือ อาจจะต้องพัฒนาโรงงานผลิตนมผง ภายใต้การควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อเป็นการแข่งขันกับนมผงนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาถูกและยังไม่ได้ คุณภาพ ซึ่งการผลิตนมผงถือเป็นเทคโนโลยีสูงสุดของอุตสาหกรรมนม

ในปัจจุบัน อ.ส.ค. มีศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบและสหกรณ์โคนมในความดูแลมากกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ทำหน้าที่รวบรวมน้ำนมดิบเพื่อส่งต่อมายังโรงงานผลิตนม อ.ส.ค. มีปริมาณเฉลี่ย 500 ตันต่อปี หรือคิดเป็น 182,500 ตันต่อปี ถือได้ว่าเป็นองค์กรรับซื้อน้ำนมดิบมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งน้ำนมดิบเหล่านี้นอกจากจะนำมาผลิตเป็นนม ไทย–เดนมาร์ค แล้ว ส่วนหนึ่งนำไปผลิตเป็นนมในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน โดยโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการขาดสารอาหารและภาวะทุพโภชนาการในเด็ก ซึ่งได้รับคำแนะนำจาก FAO หรือ Food Agriculture Organization เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ดื่มนม ซึ่งนมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อันจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก ส่งผลให้ทุกวันนี้เด็กไทยกว่า 8 ล้านคนทั่วประเทศ ได้มีโอกาสดื่มนมโรงเรียนที่มีคุณภาพถึง 260 วันต่อปี

องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพฝั่งขาเข้า อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีพื้นที่บริหารจัดการกว่า 2,000 ไร่ นอกจากจะเป็นฟาร์มตัวอย่างและศูนย์กลางการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมในประเทศแล้ว ที่นี่ยังเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรนิเวศ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงาม รวมไปถึงบรรยากาศคาวบอยที่มีฝูงวัวใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย เช่น การขับรถ ATV ขี่จักรยานเสือภูเขา การทดลองรีดนมโค การป้อนนมลูกโค และการทำปุ๋ยอินทรีย์นมสด จึงทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาเที่ยวเป็นครอบครัว ซึ่งอัตราค่าบริการถือว่าถูกและคุ้มค่า ที่สำคัญไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เส้นทางพหลโยธินขาออก มุ่งหน้าสู่ถนนมิตรภาพเพียงระยะเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ได้จัดงานเฉลิมฉลองในโอกาสก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แห่งความเติบโตและเข้มแข็งของนมโคสดแท้ นมกล่องแรกของคนไทย ณ ลานสยามพารากอน ซึ่งภายในงานนอกจากจะจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพโค นมและคุณประโยชน์ของนมแล้ว ยังมีเซเลบริตีและศิลปินดารานักร้องมาร่วมกิจกรรมในงานดังกล่าว พร้อมทั้งเปิดตัวพรีเซนเตอร์นม ไทย–เดนมาร์ค “ลีโอ พุฒ และครอบครัว” ซึ่งนพดลกล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า วันนี้ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมโคนมสูงที่ สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเรามีโคนมมากที่สุด มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่มีภูมิความรู้มากที่สุด มีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาที่ทันสมัยเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศมากที่สุด ดังนั้นในอนาคตข้างหน้าประเทศไทยก็ยังจะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านโคนมใน ภูมิภาคนี้ต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือจากคนไทย ในการหันมาดื่มนมให้มากขึ้น เพื่อสุขภาวะที่สมบูรณ์และเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทย


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ประเทศไทย ผู้นำอุตสาหกรรมนม อาเซียน

view