จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย
“เราถือว่าเป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ซึ่งเราถือว่าเป็นรอบที่สำคัญ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา จึงรู้สึกว่าเป็นปีที่ดี ก็น่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ไม่ได้มีความหมายเชื่อมโยง เราเป็นคนพุทธก็พยายามคิดในสิ่งที่เป็นมงคล”
เป็นคำขยายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 เม.ย. หลังจากปราศรัย ณ เมืองเสียมราฐ กัมพูชา ต่อหน้าคนเสื้อแดงในคืนวันที่ 14 เม.ย. ถึงการกลับประเทศไทยในปีนี้ที่เชื่อมโยงกับวาระมหามงคลของประเทศ
จากคำพูดดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำมาสู่การตีความสารพัดว่าเป็นการโยนหินถามทางเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่
แน่นอนว่าความหวังอันสูงสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนนี้ คือ ต้องการกลับประเทศไทย แต่ติดตรงที่ยังมีชนักปักหลังจากคดีความจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาฎีกาจำคุกในคดีที่ดินรัชดาฯ หรือคดีการใช้อำนาจโดยมิชอบที่ค้างอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมืองอีกเพียบ รวมถึงความปลอดภัยหากต้องกลับไทยจริง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลชุดนี้มีความพยายามจะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้วในการใช้โอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 ตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ ด้วยตัดเงื่อนไขบางประการออกไปเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการนี้ได้
ทว่า ต้องมาล่มปากอ่าวเมื่อเกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงแบบรัฐบาลไม่คาดคิด ทำให้สุดท้ายรัฐบาลต้องยอมถอยเก็บเข้าไว้ในลิ้นชักรอดูทิศทางลมต่อไป และเพื่อรักษาเสถียรภาพรัฐบาลเอาไว้ เพราะเกรงว่าหากฝืนไปจะนำไปสู่การสูญเสียอำนาจรัฐในที่สุด
หลังจากเดินหน้าไม่ได้ ก็ขอเลือกถอยออกมาอย่างมีลีลา พร้อมกับแสดงความประนีประนอมกลุ่มชนชั้นนำ โดยเฉพาะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อลดอุณหภูมิการเมืองและประคับประคองรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้อยู่รอดได้ต่อไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะการส่งข้อความถึง พล.อ.เปรม ถึง 2 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ว่าไม่ใช่คู่ขัดแย้ง จนมาถึงการอวยพรให้ “ป๋าเปรม” มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศเป็นปฏิปักษ์กับ พล.อ.เปรม มาก่อนหน้านี้ว่า ประธานองคมนตรี คือ ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คอยบั่นทอนรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไม่ต่างอะไรกับการกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตัว...
กระทั่งสถานการณ์และจังหวะได้นำพามาถึงปีมหามงคลมาบรรจบอีกครั้ง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมเสี่ยงเลือกเล่นของสูงอีกรอบ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านแบบเท่ๆ ตามที่ประกาศเอาไว้ได้เร็วที่สุด
แนวโน้มที่จะเลือกใช้แนวทางการขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นเพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ เพียงแค่ให้ฝ่ายบริหารตรา พ.ร.ฎ.ออกมา และดำเนินการตามขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ทุกอย่างก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
จะเป็นไปได้หรือไม่ต้องรอดูสถานการณ์ ณ เวลานั้นอีกครั้ง เพราะถ้าอารมณ์สังคมที่มีต่อเรื่องนี้ซ้ำรอยเมื่อปี 2554 พ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมต้องชั่งใจอยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตาม ถ้าประเมินจากท่าทีล่าสุดบนเวทีเสื้อแดงกัมพูชาที่ผ่านมา พบว่าพร้อมหักแต่ไม่ยอมงอ สะท้อนได้จากการระบุว่า “เราจะสู้เพื่อบอกว่าเราขอความเป็นธรรม และเราจะเดินหน้าปรองดองเพื่อให้ประเทศเดินหน้าโดยจะไม่วอแวกับใครแล้ว”
ความฮึกเหิมในครั้งนี้มาจากการวิเคราะห์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วว่าทหารไม่กล้าปฏิวัติ และยังแสลงกับเหตุการณ์ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. 2553 อยู่พอสมควร ประกอบกับขุมพลังคนเสื้อแดงมีความเข้มแข็งมากพอที่จะต่อต้านการรัฐประหารได้ จึงทำได้อย่างมากก็แค่คิดและเก็บไว้ในใจ ไม่กล้าลงมือ
เท่ากับว่าการกลับบ้านแบบเท่ๆ ด้วยวิธีนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความใจถึงของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวเท่านั้น
ถึงกระนั้น หากใจไม่ถึงที่จะใช้วิธีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอยู่อีก 2 ทางเลือก คือ 1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การบัญญัติบทเฉพาะกาลนิรโทษกรรม แต่อาจต้องใช้เวลาเป็นปี เนื่องจากต้องเลือกตั้งและสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อนำมาสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภายใน 240 วัน
ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดทนรอได้หรือไม่ ถ้าตอบตัวเองว่ารอไม่ไหว ก็จะไปใช้ทางเลือกที่ 2 ด้วยการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยใช้รายงานผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าในคณะกรรมาธิการวิสามัญของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ มาเป็นฐานรองรับการตรากฎหมายผ่านรัฐสภา ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่แล้วในฐานะกุมเสียงข้างมากอยู่แล้ว
แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเผชิญหน้ากับแรงเสียดทานแบบไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และย่อมส่งผลต่อรัฐบาลทั้งทางตรงและอ้อม
ดังนั้น นับจากนี้ไปสถานการณ์กำลังจะเข้าสู่ความเปราะบางมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเล่นของสูงเดินหน้าปูถนนปรองดองให้ตัวเองกลับประเทศ ที่สุดแล้วงานนี้เป็นความเสี่ยงในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เอง
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน