สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปฏิบัติการ สั่งสอน บทเรียน การเมือง จากเสื้อแดงแห่งปทุมธานี

จากประชาชาติธุรกิจ

คนเสื้อแดงด้วยกัน เรียกว่าเป็นการ "สั่งสอน" หรือ "ลงโทษ" กันภายใน "ครอบครัว"

นั่น คือ ความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 ปทุมธานี และการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ปทุมธานี 2 ครั้ง 2 วันติดต่อกัน ในวันที่ 21 และ 22 เม.ย. 2555

ทั้งที่ปทุมธานี ได้ชื่อว่าเป็นป้อมค่ายใหญ่ของคนเสื้อแดง ยึด ส.ส. 6 คน จาก 6 เขตเลือกตั้ง

บัดนี้เหลือ 5 คน ขณะที่ตำแหน่งนายก อบจ.ที่หมายมั่นปั้นมือก็พลาดไป

เป็นบทเรียนที่คนเสื้อแดงในพื้นที่ ตั้งใจมอบให้กับผู้บริหารพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ

ทำให้ นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินเข้าสภา ด้วยคะแนน 28,156 คะแนน

ส่วน นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ จากพรรคเพื่อไทย สอบตกด้วยตัวเลข 24,255 คะแนน

เทียบ กับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2554 ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี แห่งพรรคเพื่อไทยได้เป็น ส.ส.ด้วยคะแนน 49,524 สูงสุดใน 6 เขตของปทุมธานี ส่วนนาย เกรียงศักดิ์ สอบตก ด้วยคะแนน 34,211

ส่วนการต่อสู้ใน ตำแหน่งนายก อบจ. ที่ปรากฏผลเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย. 2555 นายชาญ พวงเพ็ชร อดีตนายก อบจ. โกยคะแนนทะลุไปที่ 214,429 ทิ้งห่างว่าที่ ร.ต.สุเมธที่ได้ 110,974 คะแนน จำนวน ผู้มีสิทธิออกเสียง 721,058 คน

"คะแนน" ของผู้สมัครแต่ละคน ทำให้พอสรุปได้ว่า เจ้าของคะแนนที่เคยลงให้พรรคเพื่อไทย เมื่อ 3 ก.ค. 2554 นอกจากไม่ลงให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังไม่ลงให้พรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย

ขณะที่นายเกียรติศักดิ์แม้ชนะ แต่ก็ชนะด้วยคะแนนที่น้อยกว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2554

กระชากตัวเลขรวมของผู้มาใช้สิทธิ ลงไปที่ 30 เปอร์เซ็นต์เศษ

ภาพรวมของเหตุการณ์ บ่งบอกว่าเป็นเรื่อง "ภายใน" ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ คนเสื้อแดงแห่งปทุมธานี

ความ ขุ่นข้องหมองใจที่ชาวเสื้อแดง ปทุมธานี มีต่อพรรคเพื่อไทย คือปัญหา การบริหารพื้นที่ปทุมธานี ในฐานะพื้นที่ทาง การเมือง

ประการหนึ่ง เป็นบทบาทของว่าที่ ร.ต. สุเมธ และ ส.ส.ปทุมธานี ระหว่างน้ำท่วมใหญ่

ประการ หนึ่ง ไม่มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ต่อกรณีที่ ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ลาออกจาก ส.ส. เขต 5 ไปลงนายก อบจ. เป็นต้นเหตุของการเลือกตั้ง 2 ครั้ง 2 วันติดต่อกัน

ประการหนึ่ง การเลือก นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ มาลงสมัครในนามพรรค เพื่อไทย ไม่ได้ปรึกษาหารือคนเสื้อแดง

และอีกประการหนึ่ง เป็นผลสะเทือนจากแนวทาง "ปรองดอง" แบบเกี้ยเซี้ยที่กำลัง คืบหน้าไป ทำให้คนเสื้อแดงต้องกลายเป็น คนวงนอก

เรื่องราวเหล่านี้ ถ้าถามพรรคประชาธิ ปัตย์ และสื่อในเครือข่ายจะพบคำว่า ตกต่ำ เสื่อม ยี้ ล้มเหลว ฯลฯ

เฟซบุ๊ก ของ นายกรณ์ จาติกวณิช เล่าเรื่องได้น่าสนใจบางตอน ดังนี้

บทเรียนสำคัญของเพื่อไทยคือ อย่าดูถูก ประชาชน

ส.ส.คน เดิมลาออกไปสมัครนายก อบจ. ทั้งๆ ที่เพิ่งได้รับเลือกมาได้แค่ 8 เดือน ทางพรรคนอกจากเปิดทางให้แล้วยังส่งผัว ส.ส.เขตข้างเคียงมาลงสมัครแทนอีกต่างหาก

ทำเหมือนเป็นของเล่น และคะแนนเสียงเป็นของตาย

"เรา ต้องยอมรับว่า สภาพแวดล้อมเป็น ใจต่อเรามากกว่าปกติ คือเป็นจังหวะที่ ประชาชนต้องการลงโทษทั้งพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครของพรรค และพอดีอยู่ในเขตที่เรามีผู้สมัครที่ขยันและจริงใจต่อประชาชน" นายกรณ์สรุปในเฟซบุ๊ก

ปัจจัยหลักของชัยชนะ จึงอยู่ที่ปัญหาความ สัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดง

แต่ก็มองข้ามความขยันตั้งใจในห้วงเวลาน้ำท่วมใหญ่ของนายเกียรติศักดิ์ และนายชาญไปไม่ได้

คําว่า อย่าดูถูกประชาชน มีความหมายสำหรับทุกพรรคการเมือง

สถานการณ์หลังรัฐประหาร 2549 เป็นห้องเรียนการเมืองที่ประชาชนได้ศึกษายกระดับความรู้การเมืองอย่างลึกซึ้ง

การไปลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่ใช่ผลของการว่าจ้าง-รับจ้าง อย่างที่บางพรรคท่องเป็นคาถาปลอบใจตัวเองในยามแพ้เลือกตั้ง

แต่มี "สาร" ที่ต้องการสื่อไปยังพรรคต่างๆ ที่ส่งผู้สมัคร

การ "เลือก" เมื่อ 3 ก.ค. 2555 และ 21-22 เม.ย. 2555 มีเหตุปัจจัยกำหนดอย่างหนักแน่น

เช่นเดียวกับการ "ไม่เลือก" ก็มีเหตุ ปัจจัยกำหนดอย่างหนักแน่นเช่นกัน


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปฏิบัติการสั่งสอน บทเรียน การเมือง เสื้อแดงแห่งปทุมธานี

view