ยรรยง” เดือด จี้ “มาร์ค” ปลด “ชวนนท์” ใส่ไฟแก้ของแพง
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“ยรรยง” จี้ “มาร์ค” ปลด “ชวนนท์” ชี้มีบุคลิกไม่เหมาะเป็นโฆษกพรรค อัดหน้าเหมือนปลาบู่ชนเขื่อน ท้า ปชป. โชว์ข้อมูลสินค้า พิสูจน์พาณิชย์บิดเบือน พร้อมทวงบุญคุณมาร์ค อย่าลืมสมัยช่วยตามแก้ไข่ชั่งกิโล แก้ของแพง
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ปลดตนเองออกจากตำแหน่งว่า ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาปลดนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากตำแหน่ง เพราะทำหน้าที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการเสนอข้อมูลสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน เพราะที่จริงมีทั้งสินค้าทั้งถูกและแพง
“อยากถามว่ามีสินค้าใดแพงบ้าง ไปสำรวจที่ไหน และคนสำรวจมีความรู้ เคยจ่ายตลาดมาก่อนหรือเปล่า เช่น ถั่วฝักยาวที่บอกกิโลกรัมละ 80 บาท เป็นของเดือนพฤษภาคม 2555 แต่กลับนำตัวเลขเดือนเมษายนปีที่แล้วมาเทียบจนทำให้สังคมสับสน”
นอกจากนี้ ยังเห็นว่านายชวนนท์มีบุคลิกภาพไม่เหมาะเป็นโฆษกพรรค เพราะแม้จะหน้าไม่หล่อเหมือนพระเอกโฆษกพรรคเพื่อไทย แต่หน้าตาเหมือนกับปลาบู่ชนเขื่อน คือ หน้าตาเจ็บๆ ไม่ไว้วางใจคนอื่น ทั้งที่ในพรรคประชาธิปัตย์มีคนหน้าตาดีมากมาย ทั้งหล่อเล็ก หล่อใหญ่ หล่อจิ๋ว เลือกใครก็ได้ที่มีบุคลิกภาพที่ดี เป็นมิตร และมีความสามารถกว่านี้ จะช่วยให้พรรคฯ มีฐานมวลชนเพิ่มขึ้นได้
นายยรรยงย้ำว่า ตนเองพร้อมจะเดิมพันด้วยตำแหน่งปลัด ถึงแม้เดิมพันของนายชวนนท์จะน้อยกว่าเพราะไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ท้าเลย ถ้ามีข้อมูลว่าพาณิชย์ทำข้อมูลเท็จ หรือตนทำข้อมูลเอาใจการเมืองก็เปิดเผยมา หรือแจ้งต่อสาธารณชนได้
“ที่ผ่านมาสมัยที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ก็เป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่วยแก้ปัญหาของแพงมาตลอด น้ำมันปาล์มขาดแคลน หรือทำไข่ชั่งกิโลขาย ซึ่งผมก็ยังไปช่วยชั่งเลย แต่ที่พูดนี้ไม่ได้ทวงบุญคุณ แต่เพียงไม่อยากให้เรียกร้องเกินเลยไป” นายยรรยงกล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหาของแพง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการกำกับดูแลราคาสินค้า (วอร์รูม) เพื่อดูแลและติดตามสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น 20 รายการ เช่น สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก เป็นต้น เพื่อให้เก็บข้อมูลที่ทันสมัย หากมีสินค้าใดที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงกว่าปกติ หรือเสี่ยงจะขาดแคลน ต้องกำหนดมาตรการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
สำหรับราคาอาหารสำเร็จรูป จะใช้กลไกของร้านอาหารมิตรธงฟ้าที่มีอยู่กว่า 5 พันแห่ง ช่วยตรึงราคาอาหารสำเร็จรูปลงมา และยังยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 3-4% ถือว่าเหมาะสมต่อการเติบโตของจีดีพีที่คาดว่าจะโต 6.5-7% ทั้งนี้ ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้นายกรัฐมนตรีจะมาประชุมข้าราชการระดับปลัดกระทรวงที่กระทรวง พาณิชย์ ซึ่งจะมีการหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชนด้วย
ยรรยง ท้า มาร์ค ปลด ชวนนท์ อ้างบุคลิกไม่เหมาะ แถม “หน้าปลาบู่ชนเขื่อน”
จากประชาชาติธุรกิจ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวตอบโต้กรณีพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งว่า ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาปลดนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากตำแหน่ง เพราะทำหน้าที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการเสนอข้อมูลสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน จึงอยากถามว่ามีสินค้าใดแพงบ้าง ไปสำรวจที่ไหน และคนสำรวจมีความรู้ เคยจ่ายตลาดมาก่อนหรือเปล่า เพราะข้อเท็จจริงสินค้าทั้งถูกและแพง เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมูราคาลดลงจากเดือนเมษายนปีก่อน แต่ไม่พูดถึง ขณะที่ ถั่วฝักยาว กก. 80 บาท จากการตรวจตลาดซึ่งเป็นของเดือนพ.ค.55 แต่กลับนำตัวเลขเดือนเม.ย.ปีที่แล้วเป็นการบิดเบือนตัวเลข
“นายชวนนท์ มีบุคลิกภาพไม่เหมาะสมเป็นโฆษกพรรค เพราะแม้จะหน้าไม่หล่อเหมือนพระเอกโฆษกพรรคเพื่อไทยก็ไม่เท่าไหร่ แต่นี่หน้าตากับเหมือนปลาบู่ชนเขื่อน คือหน้าตาเจ็บๆ ไม่ไว้วางใจคนอื่น ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลือกคนอื่นที่หน้าตาดี ซึ่งมีมากมาย ทั้งหล่อเล็ก หล่อใหญ่ หล่อจิ๋ว เลือกใครก็ได้ที่มีบุคลิกภาพที่ดีเป็นมิตรและมีความสามารถกว่านี้ จะช่วยให้พรรคฯ มีฐานมวลชนเพิ่มขึ้นได้ ผมพร้อมจะเดิมพันด้วยตำแหน่งปลัดของผม ถึงแม้เดิมพันขอเค้าจะน้อยกว่า เพราะเค้าไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ท้าเลยถ้ามีข้อมูลว่า พาณิชย์ทำข้อมูลเท็จ หรือผมทำข้อมูลเอาใจการเมืองก็เปิดเผยมา หรือแจ้งต่อสาธาณชนได้ และที่ผ่านมาสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ กระทรวงพาณิชย์ก็เป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่วยแก้ปัญหาของแพงมาตลอด ทั้งน้ำมันปาล์มขาดแคลน หรือทำไข่ชั่งกิโลขาย”นายยรรยงกล่าว
นายยรรยงกล่าวว่า การดำเนินการแก้ปัญหาของแพงกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการเพิ่มการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการกำกับดูแลราคาสินค้า (วอร์รูม) ให้เข้มข้นขึ้น โดย รมว.พาณิชย์ เป็นประธานกำกับดูแลเอง เน้นกำกับดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น 20 รายการ โดยจะนำของกรมการค้าภายใน กับสำนักดัชนีราคาสินค้า เชื่อมโยงเข้ากับข้อมูลภาคประชาชน และธุรกิจ หากมีสินค้าใดที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงกว่าปกติ หรือเสี่ยงจะขาดแคลน ต้องกำหนดมาตรการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
สำหรับราคาอาหารสำเร็จรูปที่ปรับสูงขึ้นสวนทางกับต้นทุนอาหารสด และเครื่องประกอบอาหารที่ถูกลงนั้น นายยรรยง กล่าวว่า จากการสำรวจเห็นว่าราคาอาหารจานด่วนส่วนใหญ่ยังขาย 30-35 บาท ยกเว้นห้างสรรพสินค้าหรือร้านหรูหราที่ราคาอาจแพงบ้าง แต่ยอมรับว่า การใช้มาตรการไปบังคับเข้มงวดคงทำลำบาก เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ดังนั้นแนวทางแก้ปัญหาจะเน้นการดูแลกลไกตลาด สร้างทางเลือกอาหารราคาถูกแก่ผู้บริโภค เช่น ผ่านร้านมิตรธงฟ้าที่มี 5 พันกว่าแห่งทั่วประเทศ รวมถึงร้านถูกใจซึ่งมีผู้สมัคร 5,858 ราย และเปิดให้บริการจริงแล้ว 50 ราย
“ขอท้าทายพรคคประชาธิปัตย์ให้นำข้อมูลที่แท้จริงมาชี้แจงว่า สินค้ารายการใดแพงกว่าเมื่อเทียบเดือนเม.ย.ปีนี้ กับปีที่แล้ว ซึ่งทางนายกฯ พยายามอธิบายว่า ราคาวัตถุดิบเริ่มแพงขึ้นตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ประกอบกับราคาพลังงานปรับเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ร้านค้าเริ่มขยับราคาอาหารสำเร็จรูป และในความเป็นจริงการเพิ่มราคาอาหารจะเพิ่มเป็นเศษจะไม่เพิ่ม 1 บาท หรือ 2 บาท จึงนิยมเพิ่มคราวละ 5-10 บาทแทน ที่ไม่ลดราคาลง เพราะรายย่อยก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่จะปรับลดลง กระทรวงพาณิชย์พยายามจะหามาตรการเพิ่มเติมออกมากำกับดูแล เช่น การนำข้าวถุงของรัฐบาล 3 หมื่นตันมาขายราคาถูกแก่แม่ค้า รวมถึงเสนอให้ ครม.พิจารณาข้อมูลราคาสินค้าเพื่อนำไปแก้ไขค่าครองชีพแบบบูรณาการ เพราะเราก็เป็นห่วงปัญหาอาหารแพงกระทบกับประชาชน และอาจกระทบต่อเงินเฟ้อได้ ”
อย่างไรก็ตาม มองว่า แนวโน้มเงินเฟ้อของไทยหากยังเฉลี่ยทั้งปีอยู่ระดับ 3-4% ถือว่าเหมาะสมเมื่อเทียบกับการเติบโตจีดีพีประเทศที่ 6.5-7% เพราะถือเป็นเงินเฟ้อระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ทั้งนี้ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมผู้บริหารกระทรวง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ เป็นเจ้าภาพ โดยมีนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ เดินทางมาเป็นประธานก็อาจจะมีการหารือในประเด็นราคาสินค้าด้วย
ยรรยงเดิมพันเก้าอี้ยันพณ.ไม่บิดเบือนข้อมูล
จาก โพสต์ทูเดย์
"ยรรยง"เดิมพันตำแหน่ง ท้าประชาธิปปัตย์ ชี้แจงข้อมูลราคาสินค้าที่แท้จริง พิสูจน์พาณิชย์ไม่ได้บิดเบือน พร้อมไขลานวอร์รูมดูแลสินค้าเข้มข้น
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ต้องการเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาปลดนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากทำหน้าที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการเสนอข้อมูลสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน เพราะความเป็นจริงมีทั้งสินค้าทั้งถูกและแพง จึงอยากให้มีการระบุที่ชัดเจนว่าสินค้าชนิดไหนที่ราคาปรับสูงขึ้น ไปสำรวจที่ไหน และคนสำรวจมีความรู้ด้านการสำรวจราคาหรือไม่ เคยจ่ายตลาดมาก่อนหรือเปล่า เช่น ถั่วฝักยาวที่บอกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท เป็นของเดือนพ.ค.2555 แต่กลับนำตัวเลขเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว มาเทียบจนทำให้สังคมสับสน
ยรรยง
"ผมพร้อมจะเดิมพันด้วยตำแหน่งปลัดของผม ถึงแม้เดิมพันของเค้าจะน้อยกว่า เพราะเค้าไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ท้าเลยถ้ามีข้อมูลว่า พาณิชย์ทำข้อมูลเท็จ หรือผมทำข้อมูลเอาใจการเมืองก็เปิดเผยมา หรือแจ้งต่อสาธาณชนได้ และที่ผ่านมาสมัยที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ก็เป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่วยแก้ปัญหาของแพงมาตลอด น้ำมันปาล์มขาดแคลน หรือทำไข่ชั่งกิโลขาย แต่ที่พูดนี้ไม่ได้ทวงบุญคุณ แต่เพียงไม่อยากให้เรียกร้องเกินเลยไป"นายยรรยง กล่าวว่า
ด้านการดำเนินการแก้ปัญหาของแพงกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการเพิ่มการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการกำกับดูแลราคาสินค้า (วอร์รูม) ให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น 20 รายการ เช่น สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก เป็นต้น พร้อมมี รมว.พาณิชย์ เป็นประธานกำกับดูแลเอง เพื่อให้เก็บข้อมูลที่ทันสมัย และสามารถนำของกรมการค้าภายใน กับสำนักดัชนีราคาสินค้า เชื่อมโยงเข้ากับข้อมูลภาคประชาชน และธุรกิจ หากมีสินค้าใดที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงกว่าปกติ หรือเสี่ยงจะขาดแคลน ต้องกำหนดมาตรการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
สำหรับราคาอาหารสำเร็จรูปที่ปรับสูงขึ้น ทั้งที่ต้นทุนอาหารสด และเครื่องประกอบอาหารถูกลง จากการสำรวจเห็นว่าราคาอาหารจานด่วนส่วนใหญ่ยังขาย 30-35 บาท ยกเว้นห้างสรรพสินค้าหรือร้านหรูหราที่ราคาอาจแพงบ้าง แต่ยอมรับว่า การใช้มาตรการไปบังคับเข้มงวดคงทำลำบากเพราะผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย และกระทรวงพาณิชย์ไม่ใช่นักเลงจะไปบังคับให้ลงได้ทันที ดังนั้นแนวทางแก้ปัญหาจะเน้นการดูแลกลไกตลาด สร้างทางเลือกอาหารราคาถูกแก่ผู้บริโภค เช่น ผ่านร้านมิตรธงฟ้าที่มี 5,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงร้านถูกใจซึ่งมีผู้สมัคร 5,800 ราย และเปิดให้บริการแล้ว 50 ราย
“กระทรวงพาณิชย์พยายามจะหามาตรการเพิ่มเติมออกมากำกับดูแล เพราะเราก็เป็นห่วงปัญหาอาหารแพง และอาจกระทบต่อเงินเฟ้อได้ เช่น การนำข้าวถุงของรัฐบาล 3 หมื่นตันมาขายราคาถูกแก่แม่ค้า รวมถึงเสนอให้ ครม.พิจารณาข้อมูลราคาสินค้าเพื่อนำไปแก้ไขค่าครองชีพแบบบูรณาการ”
ขณะนี้ แนวโน้มเงินเฟ้อ หากเฉลี่ยทั้งปีอยู่ระดับ 3-4% ถือว่าเหมาะสมเมื่อเทียบกับการเติบโตจีดีพีประเทศที่ 6.5-7% เพราะถือเป็นเงินเฟ้อระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ส่วนในวันที่ 11 พ.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานในการประชุมปลัดกระทรวง ที่กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะมีการหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชนด้วย
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน