ครม.เห็นชอบทีโออาร์จัดการน้ำ3แสนล.

จาก โพสต์ทูเดย์

ครม.เห็นชอบร่างทีโออาร์ ระบบบริหารจัดการน้ำ 3 แสนล้านบาท เชิญบริษัทไทย-เทศร่วมแข่งทำแผนแม่บท พร้อมเปิดให้เสนอโครงการสัปดาห์หน้า

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ได้จัดทำทีโออาร์สำหรับการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อมานำเสนอแผนแม่ แบบ หรือ คอนเซ็ปชวลแพลน วางแผนป้องกันปัญหาน้ำทั้งระบบ โดยหลังจากนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมแข่งขัน ในส่วนของบริษัทต่างชาตินั้น กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานงานแจ้งไปยังบริษัทตามประเทศต่างๆด้วย โดยวงเงินทั้งหมดที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำของประเทศทั้งระยะสั้นและระยะ ยาวจะมีประมาณ 3 แสนล้านบาท จากวงเงินรวม 3.5 แสนล้านบาท โดย 5หมื่นล้านบาทที่หักไปนั้น แบ่งเป็นส่วนที่ถูกใช้ไปก่อนหน้านี้ 4หมื่นล้านบาท เป็นส่วนของการอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมนำไปปรับปรุงซ่อมแซมถนนต่างๆที่ได้ รับความเสียหาย และอีก 1 หมื่นล้านบาทถูกเก็บไว้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอันสืบเนื่องจากผล กระทบจากน้ำท่วมคราวก่อน

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในเอกสารทีโออาร์ฉบับนี้จะประกอบด้วยแผนงานที่ คณะนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือกนอช. และ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือกยน. ได้พิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงใช้ชี้แจงในศาลรัฐธรรมนูญในกรณีพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้าง อนาคตประเทศ จำนวน 3.5 แสนล้านบาท มาก่อนหน้านี้ โดยจะประกอบไปด้วย 2 เรื่องใหญ่ คือเรื่องที่เกี่ยวกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา 8 ลุ่มน้ำ จำนวน 8 โครงการใหญ่ และเรื่องที่เกี่ยวลุ่มน้ำอื่นอีก 17 ลุ่มน้ำ จำนวน 6 โครงการใหญ่ ทั้งนี้ในส่วนของคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้ามาร่วมแข่งขันนั้น นายปลอดประสพชี้แจงว่า จะเป็นรูปแบบของบริษัทเดี่ยวหรือบริษัทร่วมทุนก็ได้ หากเป็นบริษัทต่างชาติต้องมีบริษัทไทยร่วมด้วยอย่างน้อย 1 บริษัท ทั้งนี้บริษัทที่เข้ามาต้องมีประสบการณ์ในการทำงานของรัฐบาลประเทศนั้นๆไม่ ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือหากเป็นบริษัทร่วมทุน แต่ละบริษัทก็ต้องมีผลงานไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท

“เอกสารนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะติดระเบียบราชการ โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป บริษัททั้งในและต่างประเทศสามารถมาขอรับเอกสารทีโออาร์ได้ที่สำนักปลัด กระทรวงวิทยาศาสตร์ หรือที่คณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือกบอ. เมื่อรับไปแล้วบริษัทต่างๆจะรวมตัวกันอย่างไรต้องแจ้งให้เราทราบ เพื่อที่จะประกาศบริษัทที่มีคุณสมบัติครบถ้วนต่อไป ก่อนมอบให้จัดทำคอนเซ็ปชวลแพลนมานำเสนอ เบื้องต้นคาดว่าจะให้เวลาประมาณ 1 – 3 เดือน” นายปลอดประสพ กล่าว

นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า ในขั้นตอนสุดท้ายรัฐบาลจะคัดเลือกให้เหลือเพียง 3 กลุ่มบริษัทเท่านั้น แล้วจะเลือกให้เหลือเพียง1 กลุ่มบริษัทที่จะเป็นผู้ออกแบบงานโครงสร้าง หรือดีเทลดีไซน์ รวมทั้งหมดจะมี 14 โครงการใหญ่ในวงเงิน 3 แสนล้านบาท ซึ่งกว่าที่โครงการเหล่านี้จะแล้วเสร็จคงต้องใช้เวลาเป็นหลายปี เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจและไม่ขัดต่อ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านที่ออกไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันว่า จะดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และจะเห็นแก่บริษัทสัญชาติไทยมากกว่าคนอื่น แต่ที่ต้องให้ต่างชาติเข้ามาร่วมด้วยก็เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี เพื่อให้ประเทศได้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับต่างชาตินั้นเราไม่เจาะจงไปที่ประเทศใดเป็นพิเศษแน่นอน โดยตนจะหาโอกาสเชิญทูตหรือผู้แทนพาณิชย์ของประเทศต่างๆ มาชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย

รมว.วิทยาศาสตร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ 14 โครงการใหญ่เบื้องต้นประกอบด้วย แผนจัดการว่าด้วยเรื่องอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ การฟื้นฟูปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างเดิม ระบบเตือนภัยและพยากรณ์ การผันน้ำ แผนเผชิญเหตุ ผังเมือง และการใช้ประโยชน์ที่ดิน และการจัดการพื้นที่รับน้ำนองหรือแก้มลิงถาวร รวมทั้งการแก้ตัวบทกฎหมายใหม่ หรือการตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ เช่น กระทรวงน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทที่เข้ามาแข่งขันอาจจะเสนอโครงการที่จำเป็นเพิ่มเติมเข้ามาอีก ได้ แต่ต้องแยกออกมาเฉพาะเรื่อง โดยไม่เกี่ยวกับงบประมาณ 3 แสนล้านบาทที่มีอยู่

“ปลอด” ตีปี๊บเชิญบริษัทไทย-เทศแข่งทำแผนแก้น้ำท่วมทั้งระบบ งบฯ 3 แสนล้าน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ปลอดประสพ” เชิญชวนบริษัทไทย-เทศร่วมแข่งทำแผนแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ใน 14 เมกะโปรเจกต์ วงเงิน 3 แสนล้าน ครอบคุลม 25 ลุ่มน้ำ แจงเหตุเชิญต่างชาติร่วมหวังในเรื่องเทคโนโลยี เพื่อให้ประเทศได้ของดีที่สุด ยันไม่เอื้อประโยชน์ใครเป็นพิเศษ ดีเดย์รับทีโออาร์สัปดาห์หน้า ก่อนให้เวลา 1 เดือนทำแผนให้เสร็จ
       
       นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าได้จัดทำทีโออาร์สำหรับการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อมานำเสนอแผนแม่แบบ หรือคอนเซ็ปชวลแพลนวางแผนป้องกันปัญหาน้ำทั้งระบบ โดยหลังจากนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมแข่งขัน ในส่วนของบริษัทต่างชาตินั้น กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานงานแจ้งไปยังบริษัทตามประเทศต่างๆ ด้วย โดยวงเงินทั้งหมดที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำของประเทศทั้งระยะสั้นและระยะ ยาวจะมีประมาณ 3 แสนล้านบาท จากวงเงินรวม 3.5 แสนล้านบาท โดย 5 หมื่นล้านบาทที่หักไปนั้น แบ่งเป็นส่วนที่ถูกใช้ไปก่อนหน้านี้ 4 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนของการอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมนำไปปรับปรุงซ่อมแซมถนนต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย และอีก 1 หมื่นล้านบาทถูกเก็บไว้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอันสืบเนื่องจากผล กระทบจากน้ำท่วมคราวก่อน
       
       นายปลอดประสพกล่าวว่า ในเอกสารทีโออาร์ฉบับนี้จะประกอบด้วยแผนงานที่คณะนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่ง ชาติ (กอนช.) และ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ได้พิจารณาและนำเสนอ ครม. รวมไปถึงใช้ชี้แจงในศาลรัฐธรรมนูญในกรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้าง อนาคตประเทศ จำนวน 3.5 แสนล้านบาท มาก่อนหน้านี้ โดยจะประกอบไปด้วย 2 เรื่องใหญ่ คือเรื่องที่เกี่ยวกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา 8 ลุ่มน้ำ จำนวน 8 โครงการใหญ่ และเรื่องที่เกี่ยวลุ่มน้ำอื่นอีก 17 ลุ่มน้ำ จำนวน 6 โครงการใหญ่
       
       สำหรับคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้ามาร่วมแข่งขันนั้น นายปลอดประสพชี้แจงว่าจะเป็นรูปแบบของบริษัทเดี่ยวหรือบริษัทร่วมทุนก็ได้ หากเป็นบริษัทต่างชาติต้องมีบริษัทไทยร่วมด้วยอย่างน้อย 1 บริษัท ทั้งนี้บริษัทที่เข้ามาต้องมีประสบการณ์ในการทำงานของรัฐบาลประเทศนั้นๆ ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือหากเป็นบริษัทร่วมทุน แต่ละบริษัทก็ต้องมีผลงานไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท
       
       “เอกสารนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะติดระเบียบราชการ โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป บริษัททั้งในและต่างประเทศสามารถมาขอรับเอกสารทีโออาร์ได้ที่สำนักปลัด กระทรวงวิทยาศาสตร์ หรือที่คณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เมื่อรับไปแล้วบริษัทต่างๆ จะรวมตัวกันอย่างไรต้องแจ้งให้เราทราบ เพื่อที่จะประกาศบริษัทที่มีคุณสมบัติครบถ้วนต่อไป ก่อนมอบให้จัดทำคอนเซ็ปชวลแพลนมานำเสนอ เบื้องต้นคาดว่าจะให้เวลาประมาณ 1-3 เดือน”
       
       นายปลอดประสพกล่าวด้วยว่า ในขั้นตอนสุดท้ายรัฐบาลจะคัดเลือกให้เหลือเพียง 3 กลุ่มบริษัทเท่านั้น แล้วจะเลือกให้เหลือเพียง 1 กลุ่มบริษัทที่จะเป็นผู้ออกแบบงานโครงสร้าง หรือดีเทลดีไซน์ รวมทั้งหมดจะมี 14 โครงการใหญ่ในวงเงิน 3 แสนล้านบาท ซึ่งกว่าที่โครงการเหล่านี้จะแล้วเสร็จคงต้องใช้เวลาหลายปี เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจและไม่ขัดต่อ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านที่ออกไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และจะเห็นแก่บริษัทสัญชาติไทยมากกว่าคนอื่น แต่ที่ต้องให้ต่างชาติเข้ามาร่วมด้วยก็เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี เพื่อให้ประเทศได้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับต่างชาตินั้นเราไม่เจาะจงไปที่ประเทศใดเป็นพิเศษแน่นอน โดยตนจะหาโอกาสเชิญทูตหรือผู้แทนพาณิชย์ของประเทศต่างๆ มาชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย
       
       รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ในส่วนของ 14 โครงการใหญ่เบื้องต้นประกอบด้วย แผนจัดการว่าด้วยเรื่องอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ การฟื้นฟูปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างเดิม ระบบเตือนภัยและพยากรณ์ การผันน้ำ แผนเผชิญเหตุ ผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดิน และการจัดการพื้นที่รับน้ำนองหรือแก้มลิงถาวร รวมทั้งการแก้ตัวบทกฎหมายใหม่ หรือการตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ เช่น กระทรวงน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทที่เข้ามาแข่งขันอาจจะเสนอโครงการที่จำเป็นเพิ่มเติมเข้ามาอีก ได้ แต่ต้องแยกออกมาเฉพาะเรื่อง โดยไม่เกี่ยวกับงบประมาณ 3 แสนล้านบาทที่มีอยู่

นักวิทย์ฯติงมติครม.อนุมัติ200ล้านไร้ประโยชน์

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"รศ.ดร.เสริม"ติงมติครม.เห็นชอบแผนสำรวจชั้นบรรยากาศ 200ล้านบาท นำไปวิจัยพันธุ์ข้าวมีประโยชน์กว่า
รศ.ดร.เสริม จัทร์ฉาย อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการโครงการจัดทำแผนสำรวจชั้นบรรยากาศและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย โดยมอบให้กระทรวงวิทย์ฯเป็นผู้ดูแล ว่า ก่อนอื่นโดยส่วนตัวเห็นว่าการใช้งบประมาณจำนวน200ล้านบาทในการทำโครงการนี้เป็นเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูงสำหรับประเทศไทยมีจำนวนเงินสำหรับงานวิจัยต่างๆแล้วรวมกันปีละกว่า 4,000 ล้านบาท แต่นำมาวิจัยในส่วนนี้ถึง200ล้านบาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่มีงบประมาณในการสนับสนุนงานวิจัยที่แต่ละปีไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านเหรียญแล้วจึงเทียบกันไม่ได้เลยที่จะทำการวิจัยได้เทียบเท่ากับนาซา

เนื่องจากมีข้อจำกัดทั้งอุปกรณ์และบุคลากรของประเทศไทย อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าหากรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ก็ควรนำงบประมาณในส่วนนี้ไปสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการวิจัยใช้สัดส่วนให้เหมาะสมมากกว่า


"จึงอยากแนะนำรัฐบาลว่าประเทศไทยยังมีโครงการงานวิจัยอื่นๆที่มีความสำคัญและต้องการงบประมาณในการวิจัยอาทิ งานวิจัยพันธุ์ข้าว หรืองานวิจัยอื่นๆ จึงควรนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ตรงส่วนนั้น"รศ.ดร.เสริม กล่าว

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่การกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการโครงการจัดทำแผนสำรวจชั้นบรรยากาศและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย โดยมอบให้กระทรวงวิทย์ฯ เป็นผู้ดูแลในโครงการนี้แม้ว่านาซา จะยกเลิกการเข้ามาศึกษาในเรื่องนี้ เพราะเห็นเป็นเป็นประโยชน์และควรศึกษาต่อและจะเป็นโอกาสที่จะรับทราบข้อมูลการปรับตัวของสภาพอากาศ

โดยมีอาจารย์และนักวิทยาศาสตร์ เห็นตรงกันว่าควรจะเดินหน้าต่อในโครงการนี้หลักๆเราจะทำในศึกษาในเรื่องเมฆ มลพิษทางบรรยากาศ จากการเผาป่า และจากโรงงานอุตสาหกรรม แม้ว่าอาจจะไม่เท่ากับที่นาซาจะมาช่วยทำให้แต่เมื่อเขาถอนตัวเราก็ต้องยืนบนขาตัวเองให้ได้ในอนาคตต่างประเทศอาจจะสนใจมาเข้าร่วมกับเรา

"จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านมาร่วมในโครงการจะได้ไม่ต้องสงสัยว่าใครจะไปแอบถ่ายรูปใครหวังว่าในปีหน้าคนที่ก่อปัญหาจะสำนึกว่าได้สร้างปัญหาพอสมควร ควรจะมาช่วยสนับสนุนดีกว่าส่วนตัวเลขที่มีการเสนอไปงบประมาณว่าจะใช้งบประมาณ 200 ล้าน ยังเป็นตัวเลขที่ไม่แน่นอนโดยในอาทิตย์นี้จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือกันเพื่อจะเสนอคณะรัฐมนตรีว่าเรามีแผนอะไรจะใช้เงินแค่ไหน"นายปลอดประสพ กล่าว

ปชป.ขู่ฟ้องปลอดประสพบิดเบือนข้อมูล

จาก โพสต์ทูเดย์

ปชป. เล็งฟ้อง "ปลอดประสพ" ออกทีวีบิดเบือนกล่าวหากรณีใช้สนามบินอู่ตะเภา 

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า ทางพรรคได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดเนื้อหาที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ที่ออกรายการช่อง 11 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโครงการใช้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจอากาศของนาซ่า  ซึ่งบิดเบือนข้อเท็จจริงและโจมตีพรรคฝ่ายค้าน  เพื่อจะได้เตรียมฟ้องร้องเพื่อเอาผิดนายปลอดประสพในประเด็นทื่กล่าวให้ร้าย พรรคประชาธิปัตย์ และทำให้พรรคเสียหาย

พร้อมกันนี้ นายชวนนท์ได้แถลงพร้อมนำหนังสือของกองบัญชาการกองทัพไทย ส่งถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาประกอบแถลงว่า จากกรณีที่รัฐบาลระบุว่าโครงการสำรวจอากาศ ขององค์การนาซ่านั้น ทางหน่วยงานความมั่นคงของไทยไม่มีใครเป็นกังวล ถือเป็นการพูดโกหก เนื่องจากหนังสือฉบับดังกล่าว ที่ลงนามโดย พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุชัดเจนว่าโครงการของนาซ่า ตามหลักการเป็นโครงการที่มีประโยชน์ แต่ควรดำเนินการศึกษารายละเอียดของโครงการ และกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคำนึงผลกระทบด้านเทคโนโลยี สังคมจิตวิทยา ความมั่นคงและมิตรประเทศ เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ชี้แจงให้เหล่าทัพหรือหน่วยงานความมั่นคง ให้เกิดความเข้าใจ

นายชวนนท์ กล่าวว่า เข้าใจว่าเหตุที่ นายปลอดประสพ ออกมาด่าพรรคประชาธิปัตย์ แบบสาดเสีย เทเสียโดยใช้สถานีโทรทัศน์ของรัฐ เพราะมีหนังสือฉบับนี้มัดคอรัฐบาลอยู่ และเหตุที่รัฐบาลไม่กล้าอนุมัติโครงการสำรวจอากาศ เมื่อวันที่ 26  มิ.ย.  เพราะหน่วยงานความมั่นคงเขาไม่มีความมั่นใจ ดังนั้นขอให้รัฐบาลสำนึกผิดและแก้ไขปัญหาไม่ให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่านี้ ทั้งนี้ประชาชนไม่ได้โง่อย่างที่คิด

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน