จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"กิตติรัตน์"ยืนยันโครงการรับจำนำข้าวเป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง ชี้หากมีทุจริตเป็นเพียงระดับปฎิบัติการชี้รัฐบาลก่อนขาดทุน 5 หมื่นล้าน
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ยืนยันว่ายังเป็นไปตามแผนงานทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริมาณข้าวที่เข้าร่วมโครงการวงเงินในการรับจำนำข้าว รวมไปถึงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีอะไรต้องห่วง และเขาเองก็พร้อมจะตอบคำถามเรื่องนี้ในสภาฯ

สำหรับกรณีการทุจริตนั้นถ้าจะมีก็เป็นเพียงการทุจริตในระดับปฎิบัติการ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลพร้อมดำเนินการแก้ไขอยู่แล้วหากพบเห็นก็พร้อมดำเนินคดีและถ้ามีผู้ใดพบเห็นการปฎิบัติงานที่เป็นการทุจริตก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้เลย

ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่มีผลขาดทุนจำนวนมากนั้น กรณีนี้ก็อยากชี้แจงว่าสมัยที่รัฐบาลชุดเก่าดำเนินโครงการประกันรายได้ตอนนั้นก็มีผลขาดทุนจำนวนมากจากส่วนต่างราคาตลาดกับราคาประกัน ทั้งๆ ที่ราคาประกันค่อนข้างต่ำเพียงแค่ 10,000บาทต่อตันโดยในขณะนั้นแค่ 2 ฤดูกาล มียอดขาดทุนรวมสูงกว่า 5 หมื่นล้านบาท

“สาเหตุที่เขาขาดทุนน้อยกว่าเพราะประกันราคาไว้ค่อนข้างต่ำราคาต่อตันประมาณ 10,000 บาท ขณะที่เราทำราคา 15,000 บาท และความจริงเราได้กำหนดค่าความชื้นมาตรฐานเอาไว้ถ้าความชื้นเกินเราก็ปรับลดราคาลงตามสัดส่วนของความชื้นส่วนผลขาดทุนจะเป็นเท่าไรเดี๋ยวมาดูกันดังนั้นการพูดราวกับว่าตอนประกันรายได้ไม่มีผลขาดทุนเลย ผมว่าไม่จริงเพราะตอนนั้นมีการประกันเพียง 2 ฤดู ก็มียอดขาดทุนเกินกว่า 5 หมื่นล้านบาท”นายกิตติรัตน์กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า สาเหตุที่รัฐบาลชุดนี้เลือกวิธีรับจำนำข้าวเพื่อจะสามารถจัดการด้านอุปาน เพราะเชื่อว่ารัฐบาลสามารถทำให้ราคาข้าวขยับขึ้นมาได้ในระดับที่สูงกว่าการใช้กลไกการประกันรายได้ซึ่งก็เห็นชัดเจนว่าราคาข้าวได้กระเตื้องขึ้นมา

“รัฐบาลชุดนี้ไม่เชื่อในวิธีประกันรายได้ เพราะทำให้ข้าวไทยมีราคาถูกและกลายเป็นว่าผู้เสียภาษีเป็นคนช่วยอุดหนุนให้คนต่างประเทศบริโภคข้าวในราคาที่ถูกเกินควรแต่รัฐบาลเลือกวิธีจำนำข้าว เพื่อไปจัดการด้านอุปทานเพราะเชื่อว่าเราสามารถทำให้ราคาข้าวขยับขึ้นมาได้”นายกิตติรัตน์กล่าว

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน