สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปู คอนเฟิร์ม! ปล่อยน้ำเข้ากรุงไม่กระทบคนริมคลอง อ้างซ้อมทดสอบขีดระบายน้ำ

ปู” คอนเฟิร์ม! ปล่อยน้ำเข้ากรุงไม่กระทบคนริมคลอง อ้างซ้อมทดสอบขีดระบายน้ำ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

นายกฯ ยันขอความร่วมมือ กทม.ซ้อมระบายน้ำแล้ว คาดสื่อสารไม่ครบ เชื่อไม่กระทบมาก พี่น้องริมคลองสบายใจได้ หวั่นถ้าไม่ทดสอบจะไม่รู้ขีดความสามารถ วอนให้โอกาส “ปลอดประสพ” ทำงาน ก่อนชิ่งสื่อซักคำถามแทงใจใช้คนไม่รู้แก้ปัญหาตามระเบียบ
       วันนี้ (30 ส.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเวลา 11.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความเป็นห่วงจากการที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เตรียมจะทดสอบการระบายน้ำใน กทม.ในวันที่ 5 และ 7 ก.ย.นี้ว่า ต้องเรียนว่าเราทำงานกับทาง กทม.โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานระบายน้ำ กทม.ด้วย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กทม. กรมชลประทาน และ กบอ. ที่ร่วมมือกันที่จะทดสอบการระบายน้ำ เพราะปัญหาในส่วนของพื้นที่ตอนปลายก็คือ การระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกและตะวันตก จากที่ผ่านมาที่เราจะเห็นว่าเวลามวลน้ำก้อนใหญ่ไหลมาและการระบายลงไปยังคู คลองต่างๆ หรือทางทะเลจะทำได้ไม่สะดวก โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตก เราจึงมีโครงการที่ทาง กบอ.จะมาทดสอบ โดยการทดสอบนี้เราจะใช้ตามความสามารถของคูคลองที่เรามีการขุดลอกใหม่เพียง แค่ 30 เปอร์เซ็นต์ และจะส่งผลกระทบไม่มาก
       
       “ในการทดสอบครั้งนี้ทั้งหมดจะอยู่ในการดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับคณะกรรมการการระบายน้ำอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว จึงอยากให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ใกล้กับคูคลองสบายใจได้ เพราะทุกอย่างเราจะทำด้วยความระมัดระวัง และหากมีผลกระทบก็พร้อมจะหยุดได้ทันที แต่หากเราไม่ได้ทำการทดสอบเราก็เป็นห่วงว่าเมื่อถึงเวลาฝนตกหรือมีปริมาณน้ำ ฝนมากๆ เราก็จะไม่ทราบเรื่องความสามารถของคูคลองต่างๆ อันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการที่จะทดสอบเพื่อจะเร่งปรับปรุงในจุดที่ยังมี ความไม่เรียบร้อยเพิ่มเติม” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างในช่วงที่มีการทดสอบระบายน้ำ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ต้องมีการเตรียมตัวอะไร เพราะเจ้าหน้าที่จะคอยเตรียมตัวในการเตือนอยู่แล้ว ซึ่งการระบายน้ำครั้งนี้เป็นการทดสอบ ถ้าเราเห็นว่ามีปริมาณน้ำที่เกรงว่าจะกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมคลอง ก็จะหยุดทันที โดยไม่ต้องห่วงเพราะเจ้าหน้าที่จะดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนใน กทม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวยืนยันว่าใช่ เพราะได้กำชับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เบื้องต้นเราทำงานกับผู้อำนวยการสำนักงานระบายน้ำ กทม. ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เราทำงานกันทุกภาคส่วน ฉะนั้น หากทำงานเป็นทีมเวิร์ค ทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่รวมกันในช่วงของการทดสอบก็จะไม่ทำให้เกิด อันตรายใดๆ เมื่อถามอีกว่าจะต้องให้ทางกระทรวงมหาดไทยไปทำความเข้าใจกับทางกทม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราทำงานกับทาง กทม.อยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องของการสื่อสารอาจจะไม่ครบถ้วนอย่างไรก็จะให้ทำเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
       
       เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายปลอดประสพหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยในการบริหารจัดการน้ำ นายกฯ กล่าวว่า เรายินดีในการรับฟังข้อห่วงใยจากทางนักวิชาการทุกคน แต่การบริหารจัดการน้ำเราไม่ได้มองส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เราต้องมององค์รวมประกอบกัน และวิธีการทำงานของเราได้รวมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หากเรามองด้านใดด้านหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ แต่ถ้าเรามองรวมแล้วช่วยกันแก้ไขและทำด้วยความระมัดระวัง ดูความสมดุลทั้งในเรื่องของน้ำท่วมและน้ำแล้งควบคู่กันไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เน้นย้ำคณะกรรมการให้ทำงานอยู่เสมอ ต่อข้อถามว่า นายกิจจา ผลภาษี ที่ปรึกษา กบอ.เองได้ระบุว่าอยากให้นายกฯ เปลี่ยนตัวนายปลอดประสพ เพราะไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องน้ำ นายกฯ กล่าวว่า นายปลอดประสพไม่ได้ทำงานคนเดียว ก็ต้องขอให้โอกาสด้วย เพราะว่าเราทำงานในรูปแบบที่ดึงเอาผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ส่วนมา ก็จะเห็นว่าการที่มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำหลายด้าน เช่น ด้านเขื่อน ชลประทาน ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำ ซึ่งมีหลายส่วนประกอบกันจริงๆ วันนี้จึงอยากเรียนเชิญผู้ที่มีความรู้ทุกคน อยากจะให้มาร่วมทำงานกับ กบอ. เพราะเราไม่ได้ทำงานโดยคนใดคนหนึ่ง แต่เราอยากได้ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญมาช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติและในการ แก้ไขปัญหาอุทกภัยไปให้ได้
       
       เมื่อถามถึงการจัดนิทรรศการน้ำของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. - 2 ก.ย.ว่ามีความคาดหวังในการชี้แจงถึงการบริหารน้ำของรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่การคาดหวัง แต่เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และความสบายใจ หากมีข้อกังวลใดรัฐบาลก็พร้อมน้อมรับในการรับฟังเพราะการแก้ปัญหานี้เป็นการ แก้ปัญหาเพื่อทุกคนในประเทศ แน่นอนว่าบางส่วนอาจจะพึงพอใจ และบางส่วนอาจจะมีข้อกังวล ก็ขอให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ สำหรับนิทรรศการนั้นเป็นนิทรรศการที่มีการรวมแผนในการเตรียมรับมืออุทกภัย ที่จะเกิดขึ้นในปี 55 ให้กับประชาชน ตั้งแต่ในส่วนของพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อย่างละเอียด ซึ่งมาจากงบประมาณ 1.2 แสนล้าน ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่านำไปสู่แผนการปฏิบัติอย่างไร โดยเป็นความชัดเจนที่จะมีการชี้แจงในวันที่ 31 ส.ค.
       
       เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่านายกฯ ใช้คนที่ไม่มีความรู้ในการแก้ปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว พร้อมเดินไปขึ้นรถทันที


รัฐบาลเล่นคำปล่อยน้ำเข้ากรุง แค่ “ทดสอบ” ประสิทธิภาพระบายน้ำจริง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

โฆษกรัฐบาลแจงกำหนดการนิทรรศการน้ำพรุ่งนี้ ระบุนายกฯ เป็นประธานในงาน และชมการบรรยาย อ่านแถลงการณ์ กบอ.ย้ำแผนซ้อมน้ำปล่อยเข้า กทม. อ้างทดสอบไม่ใช่ทดลอง ยันประสานร่วม กบอ.-กทม.-ทัพเรือ ทุ่มงบ 1.2 ล้าน อ้างนำโครงการพระราชดำริมาใช้

       
       วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวการจัดนิทรรศการมุ่งมั่นทำงานบริหารจัดการน้ำเพื่อประชาชน ในวันที่ 31 ส.ค. - 2 ก.ย. ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ว่า วันที่ 31 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงานนี้
       
       โดยนายกฯ จะนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมจุดแสดงต่างๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยบรรยาย คือจุดที่ 1 นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา จุดแสดงที่ 2 อธิบดีกรมชลประทาน จุดที่ 3 รมช.คมนาคม จุดที่ 4 เลขาธิการ ศอบช. จุดที่ 5 อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากนั้นจะมีเวทีสัมมนาทางวิชาการ โครงการพระราชดำริกับการบริหารจัดการน้ำ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ
       
       ส่วนวันที่ 1 ก.ย.สัมมนาเรื่องการเปลี่ยนแปลงโลกกับการจัดการน้ำของประเทศไทย และการใช้ประโยชน์ที่ดินกับการบริหารจัดการน้ำ วันที่ 2 ก.ย. จัดสัมมนาเรื่องประสบการณ์การบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยในต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี จากนั้นจะจัดสัมมนาเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการน้ำของ ประเทศ
       
       นอกจากนี้ น.ส.ศันสนีย์ได้อ่านแถลงการณ์เพิ่มเติมกรณีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและ อุทกภัย หรือ กบอ. เตรียมทดสอบการระบายน้ำใน กทม.ว่า ขอเรียนว่าการทดสอบไม่ใช่การทดลอง หาก กทม.มีน้ำมาก โครงการต่างๆ จะระบายน้ำได้ตรงตามที่ต้องการและมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยใจความของเเถลงการณ์ กบอ.ระบุว่า การดำเนินการของรัฐบาลที่ผ่านมาในพื้นที่ปลายน้ำ ได้มีการขุดลอกคูคลองและติดตั้งเครื่องสูบน้ำหรือเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม เติมในจุดที่น้ำท่วมขัง โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ
       
       อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจจึงควรมีการทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำ ที่แท้จริงในเส้นทางระบายน้ำที่เคยเป็นปัญหาในปีที่ผ่านมา โดยในวันที่ 5 ก.ย.จะทดสอบฝั่งตะวันตกที่ระบบคลองทวีวัฒนา วันที่ 7 ก.ย.จะทดสอบที่ระบบคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และคลองลาดพร้าว เพื่อประเมินประสิทธิภาพการระบายน้ำในปัจจุบัน เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลและนำไปแก้ไขสำหรับการบริหารจัดการน้ำและพัฒนาแบบ จำลองการระบายน้ำต่อไป
       
       น.ส.ศันสนีย์กล่าวต่อว่า ในครั้งนี้จะทดสอบระบายน้ำร้อยละ 30 ของศักยภาพลำน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมมีระบบตรวจวัดปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำแบบอัตโนมัติตามเวลาที่แท้จริง เพราะการทดสอบครั้งนี้สามองค์กรร่วมกันโดยอนุกรรมการ กบอ. กรุงเทพมหานคร (กทม.) กองทัพเรือ และรัฐบาล ใช้เงินกว่า 1,200,000 บาทนั้น ประชาชนควรมาติดตามชม เพราะรัฐบาลใช้โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ เรื่องนี้เป็นประโยชน์กับฝ่ายต่างๆ ที่มีประสบการณ์และได้รับผลกระทบน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว จึงขอเชิญประชาชนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปชมนิทรรศการนี้เพื่อให้เกิดความเข้า ใจและมั่นใจแนวทางของรัฐบาลในเรื่องนี้


“ปลอด” โต้ “ธีระชน” วิจารณ์ปล่อยน้ำเข้ากรุง แค่แกว่งปากหาผลงานลงผู้ว่าฯ กทม.

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รมว.วิทย์ ยันปล่อยน้ำเข้ากรุง ไม่ได้ทำโดยพลการ ปรึกษา “วัลลภ” รองผู้ว่าฯ กทม.ตลอด ซัด “ธีระชน” ไม่ได้ดูแลเรื่องน้ำโดยตรง อ้างไม่ตรงความเป็นจริง ส่วนการปล่อยน้ำยันทางชัยนาทปล่อยตามปกติ ไม่ได้สิ้นเปลือง เย้ยอยากเป็นผู้ว่าฯ ต้องด่าหาผลงานลงเลือกตั้ง สั่งช่อง 9-ช่อง 11 พีอาร์หลัง “ยิ่งลักษณ์” กำชับหวั่นคนกรุงแตกตื่น

       
       วันนี้ (30 ส.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวว่า นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ของ กบอ. นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม.ได้ร่วมกันอธิบายในรายละเอียด การซ้อมการระบายน้ำผ่านคลองในพื้นที่ กทม.ทั้งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งการซ้อมการระบายน้ำครั้งนี้ทำงานร่วมกันระหว่าง กบอ. กทม. กองทัพเรือ กรมชลประทาน และกรมอุทกศาสตร์มาตั้งแต่ต้น ซึ่งข้อกล่าวหาที่ติมาว่าทำโดยพลการนั้นไม่ใช่ เรามีการปรึกษาหารือกันมาโดยตลอด
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุมได้มีพูดถึงกรณีที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. วิจารณ์การทดสอบการระบายน้ำ นายปลอดประสพกล่าวว่า นายธีรชนไม่ได้เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ที่รับผิดชอบเรื่องน้ำ แต่เป็นนายวัลลภ ซึ่งได้ร่วมประชุมกับ กบอ. ซึ่งความคิดเห็นของนายธีระชน เป็นความคิดเห็นทั่วไป ไม่ใช่ความเห็นของผู้รับผิดชอบ และไม่ตรงกับความจริง เพราะเรา กบอ.ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ทำงานร่วมกับ กทม.มาตลอด
       
       ส่วนที่มาทำการทดสอบการระบายน้ำในช่วงนี้ เพราะ กทม.เพิ่งขุดลอกคูคลองเสร็จ ซึ่งจากที่ กทม.บอกกับรัฐบาลในการขุดลอกคูคลองเสร็จปลายเดือน ส.ค. ฉะนั้นเราจึงซ้อมในวันที่ 5 และ 7 ก.ย. อีกทั้งการทดสอบนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กรมชลประทานจะการระบายน้ำในลุ่มน้ำเจ้า พระยาตอนล่าง ตั้งแต่ จ.ชัยนาทลงมาตามปกติ เราจึงใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพการ ระบายน้ำ ตรวจหาข้อจำกัดหรืออุปสรรค ไม่ได้เป็นการปล่อยน้ำสิ้นเปลือง ส่วนกรณีที่ประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็ต้องฟังความเป็นจริง ซึ่งการทดสอบการระบายน้ำที่ร้อยละ 30 ของศักยภาพลำน้ำ หรือคิดเป็นปริมาตรน้ำไม่เกิน 10 ถึง 20 ลบ.ม.ต่อวินาทีเท่านั้น เรื่องที่น้ำล้นจะไม่มี และจะเป็นการระบายน้ำลงในคลองหลักเท่านั้น
       
       “ผมไม่ท้อใจ เพราะผมกินเงินเดือนในฐานะรัฐมนตรี และทำงานให้กับประชาชน หน้าที่ของผมคือไม่ให้น้ำท่วม และการบริหารน้ำให้เป็นองค์รวม ใน 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ทุกคนรวมทั้งนายกรัฐมนตรีทำเรื่องนี้ไม่ให้เกิดน้ำท่วม และวันนี้น้ำก็ไม่ท่วม ถามว่าพวกผมทำให้น้ำไม่ท่วมตามภารกิจที่มอบให้ พวกผมควรถูกด่าหรือถูกขอบคุณ แทนที่จะขอบคุณกลับหาเรื่องอื่นมาด่า มันไม่ถูก” นายปลอดประสพกล่าว
       
       สำหรับเสียงวิจารณ์ของนายธีระชน นายปลอดประสพกล่าวว่า ตนก็เข้าใจว่าพูดอย่างที่นักการเมืองพูด เพราะท่านเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.และอยากจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเราจะมีการแถลงผลงานรัฐบาลในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ก็ต้องด่าเพื่อไม่ให้ผลงานของรัฐบาลออก ซึ่งตนก็ได้ฝากนายวัลลภไปถามแล้ว ซึ่งการทำงานเป็นคณะกรรมการต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจ มีที่ไหนในโลกที่ทำอะไรโดยไม่มีการทดสอบ
       
       นายปลอดประสพกล่าวว่า ตนได้รายงานแผนการทดสอบนี้ให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้วเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงว่าชาว กทม.ที่อยู่ในพื้นที่ที่จะมีการทดสอบการระบายน้ำ จึงสั่งการให้ กบอ.ออกแถลงการณ์เรื่องนี้ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่ส่งผลกระทบตามที่หลายฝ่ายวิตกกังวล ทั้งนี้ ตนได้ขอให้กรรมการ กบอ.ทุกคนช่วยชี้แจงเรื่องนี้ และจะจัดทำเอกสารชี้แจง รวมถึงประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ผ่านทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9) และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11)
       
       ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการในอนาคตว่า ถ้าโครงการใดที่เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการที่อยู่ในวงเงิน 1.2 แสนล้านบาท หากมีความจำเป็นหรือโครงการที่ต้องทำเร่งด่วนหากไม่ทำจะเกิดความเสียหาย ก็สามารถใช้วงเงินในส่วนของ 3.5 แสนล้านบาทได้ และจะต้องไม่เกินวงเงินที่ได้ประกาศในทีโออาร์ไปแล้ว ซึ่งโครงการที่จะใช้วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้นยังไม่ทราบว่าจะมีกี่โครงการ เพราะต้องมีการพิจารณาตัดโครงการที่มีไม่จำเป็นออกไปก่อน ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการเข้ามากว่า 700 โครงการ
       
       อย่างไรก็ตาม วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น ขณะมีการใช้ไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาท และจากนี้ไปกรอบวงเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ทางรัฐบาลจะให้เหลือ 3 แสนล้านตามกรอบ ทีโออาร์ ที่ให้เอกชนเข้ามาเสนอโครงการการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ส่วนที่เหลือ 5 หมื่นล้านเว้นไว้เฉพาะโครงการที่เร่งด่วนและจำเป็นเท่านั้น เช่น 3 โครงการที่มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.เห็นชอบ เช่น การย้ายประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ การทำระบบไซฟ่อนประตูระบายน้ำบางโฉมศรี และทำเขื่อนล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นต้น ทั้งนี้ ในวันที่ 6 ก.ย.จะมีการพิจารณาโครงการขุดลอกบึงศรีไฟ จ.พิจิตร โดยจะมีการอนุมัติงบประมาณ 10 ล้านบาทจากวงเงิน 1.2 แสนล้านบาท เพื่อการศึกษาและสำรวจลำน้ำเพื่อนำไปสู่การบูรณะและขุดลอกเป็นแก้มลิงถาวร


“ปลอดประสพ” มั่นใจปล่อยน้ำเข้ากรุงแค่จิ๊บๆ ปภ.เผย 2 จว.อีสานเจอภัยแล้ง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รมว.วิทยาศาสตร์ ยืนยันการปล่อยน้ำเข้ากรุงทดสอบระบบระบายน้ำไม่สร้างความเดือดร้อน อ้างปล่อยน้ำไม่เกิน 20 ลบ.ม.ต่อวินาที เตรียมทุ่มงบ 10 ล้าน ศึกษาขุดลอกบึงสีไฟ พิจิตร ทำแก้มลิงถาวร อีกด้านรัฐบาลตั้งคณะอนุกรรมการ 6 คณะดูแลครอบคลุมภัยพิบัติ อธิบดี ปภ.เผยภัยแล้งเกิดขึ้นเฉพาะภาคอีสาน ชัยภูมิ-สารคาม กระทบ 2.5 ล้านไร่

              วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวว่า ในวันที่ 5 และ 7 ก.ย.นี้ จะทดสอบระบบการระบายน้ำผ่านคลองสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง เนื่องจากเป็นการระบายน้ำที่ไม่เกิน 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ของศักยภาพลำคลองที่รองรับได้ และได้หารือกับผู้บริหาร กทม. ที่ดูแลเรื่องน้ำ ที่สำคัญในแผนดังกล่าว ซึ่งเป็นการเตรียมการโดยกรมชลประทาน ที่จะปล่อยน้ำจากจังหวัดชัยนาท และที่สำคัญไม่ได้ปล่อยน้ำจนเต็มเขื่อน จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ
       
       ทั้งนี้ ในวันที่ 6 ก.ย.จะมีการพิจารณาโครงการขุดลอกบึงสีไฟ จ.พิจิตร โดยจะมีการอนุมัติงบประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อการศึกษาและสำรวจลำน้ำ เพื่อนำไปสู่การบูรณะและขุดลอกเป็นแก้มลิงถาวร อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กบอ.ได้อนุมัติงบให้กับโครงการดังกล่าวไป 2 วงเงิน โดยวงเงินแรกเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งอนุมัติให้กับกรมทรัพยากรน้ำ และวงเงินที่สองจำนวน 97 ล้านบาทให้แก่จังหวัด เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งงบทั้งหมดอยู่ในวงเงิน 1.2 แสนล้านลบบาท และจากนี้ไปกรอบวงเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ทางรัฐบาลจะให้เหลือ 3 แสนล้านบาท ตามกรอบทีโออาร์ ที่ให้เอกชนเข้ามาเสนอโครงการการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ส่วนที่เหลือ 5 หมื่นล้านนั้น เว้นไว้เฉพาะโครงการที่เร่งด่วนและจำเป็นเท่านั้น เช่น 3 โครงการที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ส.ค.เห็นชอบ เช่น การย้ายประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ การทำระบบไซฟ่อนประตูระบายน้ำบางโฉมศรี และทำเขื่อนล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นต้น
       
       อีกด้านหนึ่ง น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวแถลงถึงผลการประชุมการติดตามและป้องกันสาธารณภัยในวันนี้ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ในการประชุมมีสาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1. การจัดนิทรรศการมุ่งมั่นทำงานบริหารจัดการน้ำเพื่อประชาชน ในวันที่ 31 ส.ค. ถึง 2 ก.ย. ที่ห้องบางกอกคอนเวนชัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โดยภายในงานนิทรรศการดังกล่าว จะแสดงถึงการบริหารการจัดการน้ำ ซึ่งจะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปีที่แล้ว มาเป็นตัวตั้งในการจัดงานนิทรรศการ 2. ปภ.แจ้งว่านายกรัฐมนตรีให้มีการจัดซ้อมแผนเผชิญเหตุในพื้นที่ ซึ่งได้สั่งการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประชาชนรับมือกับอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น 3. เรื่องการแก้ปัญหาระบบการเตรียมภัย
       
       นายวิบูลย์กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมนัดแรกโดยคณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อดูแลและป้องกันเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ 18 ประเภท โดยที่ประชุมได้อนุมัติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 6 คณะ ได้แก่ 1. อนุกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน 2. อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 3. อนุกรรมการด้านต่างประเทศ ที่มีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน 4. อนุกรรมการชุดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ 5. อนุกรรมการอุทกภัย และ 6. อนุกรรมการวาตภัย โดยทำงานประสานกับ ปภ.ดูแลป้องกันสถาณการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ทั้งในระดับปกติและระดับรุนแรง
       
       ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ ซึ่งหลายฝ่ายเป็นห่วงในขณะนี้ ทราบว่าประสบอยู่ในแค่ส่วนของการพืชผลการเกษตร แต่ในส่วนของการบริโภคและอุปโภคน้ำของประชาชนส่วนใหญ่จะยังไม่มีผลกระทบ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกับกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแล โดยรายงานผู้ได้รับผลกระทบขณะนี้อยู่ 4.4 แสนราย และพื้นที่การเกษตรประมาณ 2.5 ล้านไร่ ที่พื้นที่รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จ.ชัยภูมิ และ จ.มหาสารคาม


ปูป้องปลอดยันไม่ได้ทำงานคนเดียว

จาก โพสต์ทูเดย์

นายกรัฐมนตรี ระบุ การระบายน้ำเข้ากรุง 5-7 ก.ย.ไม่กระทบประชาชน ชี้ เกิดปัญหาหยุดทันที  ปัดตอบปลดปลอดประสพ ยันไม่ได้ทำงานคนเดียว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การทดสอบการระบายเข้าสู่กทม.ในวันที่ 5-7 ก.ย. นี้ไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนโดยเฉพาะที่อยู่ริมคลองอย่างแน่นอน เพราะในการทดสอบมีเจ้าหน้าที่คณะกรรมการระบายน้ำดูแลอย่างใกล้ชิด หากการดำเนินการส่งผลกระทบสามารถหยุดการทดสอบได้ทันที และการทดสอบครั้งนี้จะระบายน้ำเพียงร้อยละ 30 ที่ถือว่า เป็นปริมาณน้ำไม่มาก จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลและยืนยันว่า หากไม่มีการทดสอบคลองที่ได้ขุดลอกไปก็จะไม่ทราบความสามารถในการระบายน้ำ รวมถึงปรับปรุงในจุดที่ยังไม่เรียบร้อยให้มีความสมบูรณ์ ส่วนข้อกังวลของกทม.ที่เป็นห่วงว่า ในช่วง วันที่ 5-7 ก.ย. น้ำทะเลหนุนนั้นที่ผ่านมาทั้งกบอ. กรมชลประทาน และกทม.โดยสำนักงานระบายน้ำก็ได้ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด หากการสื่อสารไม่คลาดเคลื่อนก็จะให้กระทรวงมหาดไทยเข้าไปทำความเข้าใจอีก ครั้ง

ส่วนที่มีนักวิชาการขอให้เปลี่ยนตัวนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานกบอ. เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องน้ำนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่จะรับฟังข้อห่วงใย แต่ทั้งนี้นายปลอดประสพ ไม่ได้ทำงานเพียงคนเดียว แต่เป็นการทำงานในรูปแบบของคณะกรรมการที่มีผู้เชียวชาญด้านน้ำร่วมกันทำ งานอยู่แล้ว พร้อมกันนี้อยากเชิญผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมาร่วมทำงานกับกบอ.ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้รัฐบาลจะจัดนิทรรศการน้ำเพื่อชี้แจงการเตรียมการรับมืออุทกภัย ในปี 2555 เพื่อให้ประชาชน นักลงทุน เกิดความมั่นใจ รวมถึงการรับฟังข้อกังวลต่างๆตลอดจนการชี้แจงการใช้งบประมาณหนึ่งแสนสอง หมื่นล้านบาทและแผนปฏิบัติงานให้เกิดความชัดเจน


ปลอดยันจำเป็นซ้อมแผนระบายน้ำเข้ากรุง

จาก โพสต์ทูเดย์

ปลอดประสพ ยันมีความจำเป็นต้องซ้อมแผนการระบายน้ำเข้ากทม.  ระบุไม่กระทบน้ำท่วม พร้อมหยุดหากฝนตก

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.)วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) กล่าวยืนยันว่า กบอ.มีความจำเป็นต้องซ้อมแผนการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในวันที่ 5 และ 7 ก.ย.นี้เพื่อทดสอบระบบป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วย ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำเหนือที่กำลังจะลงมาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ในอีก 1 เดือนข้างหน้า
         
นอกจากนี้ ยังเป็นการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า กทม.ได้ดำเนินการขุดลอกคูคลองรอบกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมตามคำสั่งของรัฐบาลหรือไม่ หรือมีจุดใดที่ต้องขุดให้ลึกเพิ่ม หรือจุดใดสามารถระบายน้ำได้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งประตูระบายน้ำต่างๆ ที่สั่งการให้ซ่อมแซมเสร็จสิ้นลงหรือยัง
        
 ประธาน กบอ. ยืนยันว่า จากการซ้อมแผนปล่อยน้ำดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างแน่นอนภายใต้การควบคุมของ กบอ., กทม. และกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เพราะจะปล่อยน้ำให้ระดับเพียง 1 ใน 3 ของความสามารถที่คลองแต่ละแห่งจะรับได้อีกด้วย
         
"ยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยง และหากเกิดฝนตกในระหว่างซ้อมแผนจะหยุดทันที จะไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ แน่นอน" นายปลอดประสพ กล่าว


กทม.ผวาปล่อยน้ำพบคลองยังไม่ได้ลอก

จาก โพสต์ทูเดย์

ผู้ว่าฯกทม.ห่วงกบอ.ปล่อยน้ำ 5-7ก.ย.พบคลองลาดพร้าว-บางซื่อยังไม่มีการขุดลอกหวั่นชุมชนได้รับผลกระทบ

ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เตรียมที่จะทดลองปล่อยน้ำเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 5-7 ก.ย.นี้ว่า รู้สึกเป็นห่วง เพราะในช่วงเดือนก.ย.จะมีฝนตกหนักที่สุด คือประมาณ 60%ของพื้นที่ ประกอบกับมีรายงานว่า จะมีพายุฝนก่อตัวที่ฟิลิปปินส์ และจะมาถึงวันที่ 5 หรือ 7 ก.ย. พอดีดังนั้น หากตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง กทม.ก็อาจได้รับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน

 
นอกจากนี้ เมื่อถึงเวลาทดสอบแล้ว การเปิด-ปิดน้ำจะสามารถทำได้เร็วเหมือนกับการปิดก๊อกน้ำหรือไม่ และอาจเกิดปัญหาขึ้นได้หากมีฝนตกหนักหากเกิดปัญหาก็จะต้องสั่งการให้หยุด ทันทีโดยจะสั่งการเอง ไม่ต้องรอคำสั่งจาก กบอ. สำหรับระบบบริหารจัดการน้ำของ กทม. เป็นระบบที่ดี จึงไม่ค่อยเป็นห่วง แต่อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ หากเกิดอุบัติเหตุ กบอ.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
 
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ในฐานะที่เคยทำงานในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำร่วมกับรัฐบาลเมื่อช่วง เหตุการณ์น้ำท่วมปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าระบบป้องกันน้ำฝนในพื้นที่ กทม.เสียหายหลายจุด จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการปรับปรุงให้กลับมาสมบูรณ์ เมื่อระบบน้ำฝนอ่อนแอ ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนและในวันที่ 5-7 ก็เป็นวันที่น้ำทะเลหนุนสูงและอาจมีฝนตกหนัก การทดสอบจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งหากจะทำการทดสอบสามารถทำได้ในช่วงน้ำทะเลไม่หนุนสูง ประชาชนจะได้ไม่กังวล
 
ทั้งนี้ ยังมีจุดที่เปราะบาง คือคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ ซึ่งตามมติ ครม.กระทรวงวิทยาศาสตร์รับไปดำเนินการ แต่ขณะนี้ ยังไม่มีการขุดลอกคูคลอง จึงเกรงว่าหากมีการทดลองในวันดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนริมสองฝั่งคลองได้รับ ผลกระทบ โดยชุมชนที่เสี่ยงหากเกิดผิดพลาดที่จะได้รับกระทบ คือ ชุมชนริมคลองลาดพร้าว และรวมถึงพื้นที่เขตบางเขน สายไหม จตุจักร ห้วยขวาง ลาดพร้าว

ส่วนด้านตะวันตกมีที่ บางพลัด บางกอกใหญ่ ทวีวัฒนา บางแค โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกซึ่งในปีที่ผ่านมาประตูระบายน้ำ 52 ตัวในส่วนความรับผิดชอบของกรมชลประทานไม่ได้เปิดใช้เลย ดังนั้น กรมชลฯควรจะต้องมีการตรวจสอบประตูระบายน้ำ ดังกล่าวว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ปู คอนเฟิร์ม ปล่อยน้ำเข้ากรุง ไม่กระทบคนริมคลอง อ้างซ้อมทดสอบขีดระบายน้ำ

view