สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

หจก.ทุน 2 แสน-เช่าคอนโดฯเป็นออฟฟิศซิวงบฯปั้นภาพลักษณ์ประเทศ 138.7 ล้าน

หจก.ทุน 2 แสน-เช่าคอนโดฯเป็นออฟฟิศซิวงบฯปั้นภาพลักษณ์ประเทศ 138.7 ล้าน

จากสำนักข่าวอิสรา

alt

ปูดหจก.เจ้าของรถทัวร์ซิวงบฯปั้นภาพลักษณ์ประเทศ 138.7ล้าน พบเพิ่งจดทะเบียนก่อตั้ง 3 เดือนเช่าคอนโดฯเป็นออฟฟิศ ทุนแค่ 2 แสน เจ้าตัวปัดอ้างอาจถูกสวมชื่อ ปลัดฯ ธงทอง”ชิ่งขอเช็คข้อมูลนาน 1 สัปดาห์

    รัฐบาลได้ว่าจ้างเอกชนที่เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งและมีทุนจดทะเบียนเพียง 2 แสนบาทดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์เสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย ระยะที่ 2 เป็นจำนวนเงินถึง 138.7  ล้านบาท    

    สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่  23 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ทำสัญญาว่าจ้าง หจก.มีทัวร์เป็นผู้ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์เสริมสร้างภาพลักษณ์ ประเทศไทย ระยะที่ 2  วงเงิน 138,700,000บาท    

    ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า  หจก.มีทัวร์จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 (ก่อนทำสัญญาจ้างเพียง 3 เดือนเศษ) ทุนจดทะเบียน 2 แสนบาท ประกอบกิจการรับจัดทัวร์นำเที่ยว รวมถึงประมูลรับจ้างทำของให้กับส่วนราชการ ที่ตั้งเลขที่ 2258/291 อาคารเลขที่ 2 คอนโดริเวอร์ เฮเว่น ชั้นที่ 7 ถนนเจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร  มีนายประจวบ ทองเย็น เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ และ นายธรรมรัตน์ วัลวาลย์ เป็นหุ้นส่วน โดยนายประจวบ ลงหุ้นจำนวน 190,000 บาท ส่วนนายธรรมรัตน์ ลงหุ้นจำนวน 10,000 บาท ซึ่งบุคคลทั้งสองแจ้งที่อยู่ส่วนตัวไว้ที่จังหวัดอุดรธานี    

   วันที่ 7 กันยายน 2555 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org  เดินทางไปที่คอนโดริเวอร์ เฮเว่น ถนนเจริญกรุง สอบถามเจ้าหน้าที่นิติบุคคลระบุว่า นายประจวบ ทองเย็น เป็นผู้พักอาศัยห้องดังกล่าวจริง โดยจะไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่เป็นประจำ ล่าสุดเพิ่งเข้ามาจ่ายค่าห้องพัก แต่ไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับนายประจวบ ทำธุรกิจเกี่ยวกับบริษัททัวร์ส่วนรายละเอียดอื่นไม่ทราบ      

   ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2555 ได้ติดต่อไปยัง นายประจวบ ทองเย็น ตามเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว ที่ระบุไว้ในเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก.มีทัวร์ ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เบื้องต้น นายประจวบ ยืนยันว่า ไม่ทราบรายละเอียดโครงการดังกล่าว และยอมรับว่า หจก.แห่งนี้ เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงต้นปี 2555 และเป็นธุรกิจขนาดเล็ก มีทุนจดทะเบียนแค่ 2 แสนบาท    

   “หจก.มีทัวร์ เคยเข้าไปร่วมการประมูลงานโครงการกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจริง แต่งานที่เราเข้าไปร่วมเป็นงานโครงการเล็กๆ ราคางานอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาท ส่วนโครงการราคา 100 กว่าล้านบาท เราไม่เคยได้รับเลย โครงการที่เพิ่งจบไปคือการจัดทัวร์ไปดูงานที่เวียดนาม” นายประจวบระบุ    

   เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไม่ได้เข้าร่วมประมูลงานโครงการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยระยะที่สอง นายประจวบ กล่าวว่า “ผมไม่ทราบเรื่องจริงๆ แต่ถ้ามีชื่อ หจก.มีทัวร์ เข้าไปเกี่ยวข้อง อาจเป็นลักษณะการถูกแอบเอาชื่อไปใช้ก็ได้ เพราะเราเคยเข้าไปร่วมงานประมูลกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อมูล หจก.ของอาจจะมีค้างไว้อยู่”   

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2555 ได้พยายามติดต่อนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน เบื้องต้นนายธงทองระบุว่า มีการจัดทำโครงการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยระยะที่สองจริง และขั้นตอนการดำเนินงานมีการใช้วิธีพิเศษในการว่าจ้าง เพราะเป็นงานที่ต้องการผู้เชียวชาญเฉพาะเข้ามาดำเนินการ แต่จำชื่อบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลงานไม่ได้    

   เมื่อถามว่า หจก. มีทัวร์ ได้รับงานนี้ไปใช่หรือไม่ นายธงทอง กล่าวว่า “ผมจำข้อมูลไม่ได้ แต่แน่ใจว่าไม่เคยได้ยินชื่อ หจก.มีทัวร์เลย คุณติดต่อกลับมาอีกที่พรุ่งนี้ได้ไหม จะเช็คข้อมูลให้”    

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อนายธงทองอีกครั้ง ในวันที่ 10 กันยายน 2555 ตามที่ได้นัดหมายไว้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยในช่วงเช้าได้โทรศัพท์ไปยังมือถือส่วนตัวของ นายธงทอง หลายครั้ง แต่ไม่มีผู้รับสาย    

   ถัดมาในช่วงสาย ได้พยายามติดต่อไปที่นายธงทองอีกครั้ง คราวนี้มีผู้รับสาย แจ้งว่าเป็นเลขาส่วนตัวนายธงทอง โดยระบุว่า นายธงทอง ติดประชุมอยู่ พร้อมให้ฝากเรื่องไว้ เพื่อแจ้งให้นายธงทองรับทราบอีกครั้ง    

   ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้พยายามติดต่อนายธงทอง อีกครั้ง แต่เลขานุการส่วนตัวเป็นผู้รับสายตามเดิม โดยระบุว่า “นายธงทอง ให้แจ้งว่า ขอเวลาเช็คข้อมูลก่อน โดยให้ติดต่อกลับมาอีกครั้งในช่วงสัปดาห์หน้า”


เปิดตัวเจ้าของ หจก.ปริศนา!รับงาน ส.ปลัดนายกฯ 138 ล้าน?

จากสำนักข่าวอิสรา

เปิดตัว ประจวบ ทองเย็น เจ้าของ หจก.ป้ายแดงทุนเพียง 2 แสน รับงานสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย 138 ล. พบเมียทำธุรกิจทัวร์ในจ.อุดรฯ

               ปริศนากรณีการรับงานโครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์เสริมสร้างภาพลักษณ์ ประเทศไทย ระยะที่ 2 วงเงิน 138.7  ล้านบาท ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  ของห้างหุ้นส่วนจำกัด มีทัวร์ ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 (คิดเป็นระยะเวลา 3 เดือนเศษ จากวันที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำสัญญาว่าจ้างวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 ) มีทุนจดทะเบียน 2 แสนบาท และเช่าคอนโดเป็นที่ออฟฟิศ?

               เบื้องต้น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยังไม่ให้ความกระจ่างโดยขอเวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น!!

               คำถามที่น่าสนใจขณะนี้  คือ นายประจวบ ทองเย็น หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.มีทัวร์ เป็นใครและได้รับงานดังกล่าวได้อย่างไร?

               ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเอกสารที่นายประจวบ ทองเย็น แจ้งว่ากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในขั้นตอนการจดทะเบียนตั้ง หจก.มีทัวร์ ระบุว่า  นายประจวบ อายุ 44 ปี สัญชาติไทย ประกอบอาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 287/1 ถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ดังกล่าว พบว่า เป็นที่ตั้ง บริษัท อุดร อัลทิเน็ท จำกัด

               ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจ การค้าระบุว่า บริษัท อุดร อัลทิเน็ท จำกัด จดทะเบียน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2539 ทุน 1 ล้าน บาท ที่ตั้งเลขที่ 287/1 ถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี  จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร ปรากฏชื่อ นายทรงศักดิ์ ต.ศรีวงษ์  เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ มีผู้ถือหุ้น 7 ราย ประกอบไปด้วย นาย ทรงศักดิ์ ต.ศรีวงษ์ 40% นายอภิวัฒน์ วชิระโวทาน 15% นางสาวฉัตรฤดี ต.ศรีวงษ์ 10 %  นายพรชัย ต.ศรีวงษ์ 10 % นางละเอียด ต.ศรีวงษ์ 10% นายอนุพันธ์ นุชพันธ์ 10% นางสุกัญญา จันทร์ประทีป 5 %

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง บริษัท อุดร อัลทิเน็ท จำกัด เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับนายประจวบ แต่ได้รับแจ้งว่า นายประจวบไม่ได้อยู่ที่นี้ แต่อยู่ที่ หจก. อัลทิเน็ท ทัวร์ หรือชื่อเต็มว่า หจก.  อัลทิเน็ท เทรด แอนด์ ทราเวล พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปตามหมายเลขดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากพนักงานบริษัทรายหนึ่ง ว่า หจก.แห่งนี้ เป็นของนายประจวบ แต่ขณะนี้ไม่อยู่ที่ออฟฟิศ ไปๆมาๆ ระหว่างกรุงเทพฯ กับอุดรราชธานี

               ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจ ระบุว่า หจก. อัลทิเน็ท เทรด แอนด์ ทราเวล จดทะเบียน  7 มกราคม 2542 ทุน1 ล้าน บาทตั้งอยู่ที่ 540/22 ถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี  ประกอบธุรกิจ  ตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินและจัดนำเที่ยว  นางสาว ฉัตรฤดี ต.ศรีวงษ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจ

               ข้อมูลยังระบุว่า นางสาวฉัตรฤดี เคยทำธุรกิจ ร่วมกับ นายประจวบ โดยร่วมกันจัดตั้ง หจก.  ยู ที แอนด์ ที ทราเวล เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่  599/120 หมู่ที่ 2 ซอยบ้านโพธิ์สว่าง ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเที่ยวทุกชนิด   ปัจจุบันเป็น หจก.ร้าง นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555

               นางสาวฉัตรฤดี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ตนเองกับนายประจวบเป็นแฟนกัน แต่ไม่ทราบรายละเอียดข้อมูลการทำธุรกิจของนายประจวบมากนัก เนื่องจากตนรับผิดชอบเรื่องตั๋วเครื่องบินเท่านั้น ส่วนเรื่องการจัดทัวร์นายประจวบเป็นผู้รับผิดชอบ

                “เข้าใจว่าตอนนี้คุณประจวบไปออกทัวร์ ที่หิวหิน เชียงใหม่ และก็ที่ปักกิ่ง จึงติดต่อไม่ค่อยได้ เข้าใจว่างานนี้น่าจะเป็นของ สำนักงาน ก.พ. อะไรทำนองนี้ ” นางสาวฉัตรฤดีระบุ

                เมื่อถามว่า ทราบข้อมูลการเข้าไปรับงานโครงการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยระยะที่ 2 วงเงินร้อยกว่าล้านของ หจก.มีทัวร์ หรือไม่  นางสาวฉัตรฤดี ระบุว่า “ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้เลย”

                เมื่อถามว่า นายประจวบ มีเส้นสายทางการเมืองหรือ ไม่  นางสาวฉัตรฤดี ระบุว่า “ไม่มีแน่นอน เรื่องเส้นสายทางการเมือง”

               นางสาวฉัตรฤดี ยังระบุด้วยว่า นายประจวบ นอกจากจะทำธุรกิจทัวร์เป็นหลักแล้ว เคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีด้วย

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซด์ พบว่า นายประจวบ ยังเคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำปี 2549-2551 ในฐานะผู้แทนสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีด้วย 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2555 ได้อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภาพ ลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศ (กนภอ.) หรือไทยแลนด์ แบรนดิ้ง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคนที่ 1 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคนที่ 2

               ส่วนกรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ นายธีรภัทร สันติเมทนีดล รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพลช หุตะเจริญ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

               คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การเสริม สร้างภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อการฟื้นฟูประเทศ เสริมสร้างเกียรติภูมิของชาติ สร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ กำหนดกลไกในการปฏิบัติตามนโยบายและยุทธศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศ ทั้งภาคการผลิต การค้า และการบริการ ให้สามารถนำมาผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างมูลค่า และนำไปสู่การเสริมสร้างภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไทย

                นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์การ เสริมสร้างภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไทย ระยะที่ 2 จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้ขออนุมัติขยายระยะเวลากันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีจากกรมบัญชีกลางแล้ว จำนวน 141.809 ล้านบาท

                ที่ผ่านมาคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศ ได้ว่าจ้างบริษัท Winkreative AG เข้ามาเป็นผู้ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์และรณรงค์การเสริมสร้างภาพลักษณ์ ประเทศไทย ในวงเงิน 39 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเผยแพร่ศักยภาพด้านเศรษฐกิจไทยต่อเวทีโลก หลังการฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจ และอุทกภัยในประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยต่อประเทศคู่ค้า

                รวมทั้งประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพการประชุม World Economic Forum on East Asia (WEFEA) ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน ที่ผ่านมาด้วย


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : หจก. ทุน 2 แสน เช่าคอนโดฯ ออฟฟิศ ซิวงบ ปั้นภาพลักษณ์ประเทศ

view