จาก โพสต์ทูเดย์
เปิดอินไซด์ถกครม.เดือด "เฉลิม"ซัดสำนักงบฯหั่นงบซื้ออุปกรณ์คุมม็อบพร้อมเปิดข้อเสนอจัดหนัก440ล้าน
ภาพประกอบข่าวจากแฟ้มภาพ
การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความไม่พอใจสำนักงบประมาณ หลังจากที่นำข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ขออนุมัติงบประมาณ 440.15 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน แต่ปรากฎว่าสำนักงบประมาณอนุมัติงบให้เพียง 199 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากปัญหาความขัดแย้ง ได้มีการสั่งให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีห้ามแถลงข่าวดังกล่าว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.เป็นวาระเพื่อพิจารณาจรเรื่อง ที่ 7 โดยอ้างว่า จากการประชุมของสตช.มีความเห็นขอเสนออนุมัติงบประมาณ ในส่วนของงบกลางปี 2555 จำนวน 440.15 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหา อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนและปรับปรุงระบบสื่อสารและเทคโนโลยีศูนย์ปฏิบัติการ จำนวน 55 กองร้อย
มีการจำแนกเป็นอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนประจำกาย วงเงิน 125,683,250 บาท อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนประจำกองร้อย วงเงิน 202,577,100 บาท อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนประจำหน่วย วงเงิน 93,675,000 บาท ค่าปรับปรุงระบบสื่อสารและเทคโนโลยี วงเงิน 18,221,570 บาท
อย่างไรก็ตาม นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ แจ้งว่า ที่ผ่านมาสตช. ได้รับอนุมัติงบเพื่อจัดหาอุปกรรณ์บางส่วนตั้งแต่ 2552- 2554 ไปแล้ว 262 ล้านบาท แต่เมื่ออุปกรณ์ที่ได้รับยังไม่เพียงพอ จึงเห็นว่าควรอนุมัติงบให้ 199.86 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจัดหาอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน
แหล่งข่าว แจ้งว่า ทันทีที่ผอ.สำนักงบชี้แจง ได้สร้างความไม่พอใจให้ร.ต.อ.เฉลิม โดยร.ต.อ.เฉลิมพยายามสอบถามเหตุใดถึงตัดงบจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมฝูงชนเหลือ เพียงแค่ 199 ล้านบาท “สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ การเมืองมีความรุนแรงมากขึ้น ก็ควรจัดหาอุปกรณ์รับมือฝูงชนตามข้อเสนอ 55 กองร้อย แต่อนุมัติ 199 ล้านจะเพียงพอ 55 กองร้อยได้อย่างไร เงินก็ไม่ได้ผ่านมือผม แต่เป็นการประชุมพิจารณาจาก สตช. มาแล้ว”
“ตำรวจจำเป็นต้องใช้ เพราะเมื่อมีม็อบตำรวจเป็นหน่วยที่ต้องออกไป หากตำรวจไม่มีอุปกรณ์ จะไปเคลียร์ม็อบได้อย่างไร สำนักงบฯอนุมัติงบฯแบบนี้ไม่เข้าใจตำรวจ คนดูแลสตช.อย่างตนเข้าใจว่า ทำจริง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวกลางที่ประชุม
ทั้งนี้ ผอ.สำนักงบพยายามชี้แจงว่า สตช.เคยได้งบประมาณไปส่วนหนึ่งแล้ว 262 ล้าน การอนุมัติให้ 199 ล้านก็ไปจัดซื้ออุปกรณ์ในส่วนที่ไม่เพียงพอ มาทดแทน แต่ร.ต.อ.เฉลิม ก็แย้งกลับอีกว่า เป็นงบประมาณคนละส่วนกัน
จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เสนอขึ้นมาว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหมเคยขออนุมัตงบจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมฝูงชน ตอนนี้ทางทหารก็มีรายการอุปกรณ์ตามที่ร.ต.อ.เฉลิมต้องการ ซึ่งกองทัพไม่ได้ใช้ ถ้าอยากได้อุปกรณ์สนับสนุน ก็มาขอที่กองทัพได้ อย่างไรก็ตาม ร.ต .อ.เฉลิมสวนกลับว่า “ท่านไม่เข้าใจ”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นจะทันกาลยังไง ยังไงก็ต้องใช้อยู่ดี ทหารก็ไม่ควรออกมายุ่งกับการเมือง สมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯ มอบหมายให้ตนคุมสำนักงบฯ นี้เป็นงบฯกลาง เพราะถ้าเป็นงบฯลับจะไม่พูดเลย งบฯที่ได้ก็จะเอาไปทำห้องวิดิโอคอนเฟอเร็นซ์ ต่อไปการแก้ไขปัญหาภาคใต้ก็ไม่ต้องลงไปเห็นหมด มีม็อบก็เห็นหมด ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ทหารออกมาก็อันตราย ออกมาก็จบข่าว ไม่ต้องให้ได้ไหมไม่ได้ และทหารกับตำรวจก็ไม่เหมือนกัน
การชี้แจงระหว่างร.ต.อ.เฉลิม และสำนักงบประมาณมีทีท่าไม่ยุติ ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิมแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเด่นชัด ในที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตนรี จึงขอตัดบทการอภิปรายไปมา โดยกล่าวว่า เอาอย่างนี้แล้วกัน สำหรับมติครม.วันนี้ อนุมัติตามที่สำนักงบประมาณพิจารณามาก่อน จำนวน 199 ล้านบาท ส่วนที่เหลือขอให้ผู้แทนสตช.ไปหารือกับสำนักงบประมาณอีกรอบ ว่ากันใหม่แล้วเสนอต่อที่ประชุมครม.สัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิมก็ยังแย้งอีกว่า ถ้าให้คุยกันใหม่ แล้วม็อบมาชุมนุมวันพรุ่งนี้จะทำอย่างไร จะทันหรือ แต่ในที่สุด ที่ประชุมให้ยึดตามคำบัญชานายกฯ ให้กลับไปหารือกันใหม่
อนึ่ง สำหรับบัญชีความต้องการรายการอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนประจำหน่วยตามที่สตช.เสนอ ครม.วันนี้ อาทิ รถควบคุมฝูงชน 2 คัน ราคาคันละ 24.75 ล้านบาท รวม49.50 ล้านบาท รถบรรทุกน้ำ 2 คัน คันละ 3.5 ล้านบาท รวม 7 ล้านบาท รถส่องสว่าง 4 คัน คันละ 2.5 ล้านรวม 7 ล้านบาท อุปกรณ์ส่งคลื่นเสียงรบกวนพิเศษ ระยะไกล ขนาดกลาง 5 ชิ้น ชิ้นละ 2.6 ล้าน รวม 13.37 ล้านบาท รถที่ทำการทางยุทธวิธี 4 คัน คันละ 3 ล้านบาท รวม 12 ล้านบาท แก๊สน้ำตาผสมน้ำใช้กับรถควบคุมฝูงชน 400 ชิ้น ชิ้นละ 4,500 บาท รวม 1.8 ล้านบาท ลูกระเบิดแก๊สน้ำตาขนาด 38 มม. วงเงิน 14.25 ล้านบาท เครื่องยิงแก๊สน้ำตาชนิดใช้ครั้งเดียว 29.83 ล้านบาท เครื่องฉีดแก๊สแบบสะพาย 19.8 ล้านบาท แกสน้ำตาชนิดสเปรย์ 13.43 ล้านบาท เป็นต้น
ที่น่าสนใจมีการตั้งงบปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสื่อสารควบคุมฝูงชน วงเงิน 18 ล้าน โดยขอซื้อ อาทิ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน พร้อมเบอร์ เพื่อใช้งานจำนวน 100 เครื่อง พร้อมแพคเกจการใช้งานอินเตอร์เน็ต 3 จี ไวไฟ 799 / เครื่อง/ เดือน รวม 1 ล้านบาท ปรับปรุงระบบเฝ้าฟังรายการโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยติดตั้งชุดหูฟัง เพื่อเฝ้าฟังช่องรายการ วงเงิน 20,000 บาท
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
