สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รมว.พาณิชย์แจงจำนำข้าวดีกว่าระบบประกัน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"บุญทรง"แจงสื่อรัฐ ชี้จำนำข้าวประโยชน์หลายต่อ ชี้ใช้เงินแค่ 3 แสนล้านบาท และจะคืนเงินให้รัฐได้ภายในปี 56 ยันใช้เงินต่ำกว่าระบบประกัน แถมรั
จากกรณีที่ดร.วีพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตแห่งชาติ(กยอ.) ออกมาเตือนรัฐบาลว่ากรณีโครงการจำนำข้าว อาจจะทำให้รัฐบาลล้มลงได้ ทำให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ ออกมาชี้แจงผ่านเว็บไซต์อินไซด์ไทยกอฟ(www.insidethaigov.com)

นายบุญทรง กล่าวถึงนโยบายการจำนำข้าวในหัวข้อ"บุญทรง เตริยาภิรมย์ จำนำข้าว ยกระดับ ชาวนา" โดยมีใจความสำคัญว่า ระบบรับจำนำนั้นมีข้อดี อย่างแรก ทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นได้อย่างชัดเจน ชาวนาได้ประโยชน์เต็มที่ เพราะเม็ดเงินถึงมือ แม้จะไม่เอาข้าวมาจำนำในโครงการของรัฐบาล แต่ราคาข้าวในตลาดในประเทศนั้นข้าวเปลือก ก็มีราคาขยับสูงขึ้นกว่าสในอดีต รัฐบาลเริ่มรับจำนำข้าวในฤดูกาลเพาะปลูก 54/55 หากไปตรวจดูตัวเลขราคาข้าวเปลือกในตลาด แม้กระทั่งโรงสีหรือผู้ส่งออก ที่ไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ก็จะวางราคาไว้สูงเกินกว่าหนึ่งหมื่นบาท

ข้อดี ข้อต่อมาก็คือรัฐบาลยังมีข้าวอยู่ในสต็อก สามารถเอาไปบริหารได้ ทั้งเรื่องของการบริหารราคาส่งออก และการบริหารสต็อกภายในประเทศ เพื่อความมั่นคงทางอาหาร อีกทั้งหากเปรียบเทียบกับโครงการประกันรายได้เกษตรของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ก็จะเห็นได้ว่าเม็ดเงินที่ใช้ในแต่ละปี ก็อยู่ที่ประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท แล้วรัฐบาลก็ไม่มีข้าวอยู่ในมือ ซึ่งหลายคนพยายามโต้แย้งว่าโครงการประกันราคาพืชผลนั้นดีกว่าโครงการรับจำนำ แต่รัฐบาลนี้เห็นว่าเรื่องการรับจำนำดีกว่า เพราะท้ายที่สุดเงินที่เข้าสู่มือเกษตรกรได้มากกว่า

"โครงการประกันรายได้นั้นใช้เงินแต่ละปี 7-8 หมื่นล้านบาท โดยที่รัฐบาลไม่มีข้าวอยู่ในมือเลย แต่โครงการรับจำนำนั้นแม้เราจะใช้งบประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท แต่เงินที่เหลืออยู่ในมือเกษตรกร คิดเป็นกำไรแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท ซึ่งเงินเหล่านี้ ทำให้เศรษฐกิจในประเทศแข็งแรง ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) โตขึ้น แล้วท้ายที่สุดกลับมาเป็นภาษีเข้ากระเป๋ารัฐบาลอีกทอดหนึ่ง"นายบุญทรง กล่าว

เมื่อถามว่า นักวิชาการบางส่วนเป็นห่วงว่าโครงการรับจำนำ สิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาล นายบุญทรง กล่าวว่า มั่นใจและย้ำว่าโครงการรับจำนำนั้นรัฐบาลใช้เม็ดเงินงบประมาณแต่ละปี ไม่สูงไปกว่าโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยโครงการจำนำข้าว ที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2555 นั้นใช้เม็ดเงินไปทั้งสิ้นประมาณ 3 แสนล้านบาท ทั้งนาปี และนาปรัง แต่ได้ข้าวเปลือกมาอยู่ในมือรัฐบาลประมาณ 21 ล้านตัน แปรสภาพมาเป็นข้าวสารได้ประมาณ 11 ล้านตัน เม็ดเงินที่ใช้ออกไปก็ไม่ได้สูญไปทั้งหมด 3 แสนกว่าล้านบาท เพราะเมื่อระบายข้าวได้ ก็จะสามารถส่งเงินคืนให้กระทรวงการคลัง 8.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2555 และในปี 2556 จะสามารถคืนเงินให้กระทรวงการคลังอีกประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท

"ผมมั่นใจว่าไม่เกินปลายปี 2556 น่าจะสามารถคืนเงินให้กับกระทรวงการคลังได้มากถึง 2.4-2.5 แสนล้านบาท ตรงนี้ชัดเจนว่าเงินงบประมาณที่เราเอามาใช้ในโครงการนี้นั้นไม่ได้หายไปไหน แม้จะมีภาระที่เราอาจจะต้องรับบ้าง คือค่าใช้จ่าย และผลที่อาจจะขาดทุนได้ แต่ทั้งหลายทั้งปวงแล้วถึงอย่างไรก็คงจะไม่เกินกว่าเม็ดเงินที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้ใช้ไปในแต่ละปี"


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : รมว.พาณิชย์แจง จำนำข้าว ดีกว่า ระบบประกัน

view