สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เหลิม ย้ำให้ ตร.เป็นกลาง แต่อยู่ข้าง พท.ลุยภารกิจ เอาพี่กลับบ้าน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รองนายกฯ เฉลิม มอบนโยบาย 347 นายพลสีกากี เน้นปราบยาเสพติด-แก้ปัญหา 3 จว.ใต้-แก้ปัญหาทุจริตจำนำข้าว ย้ำ ตำรวจต้องเป็นกลาง แต่อยู่ข้างพรรคเพื่อไทย พร้อมลุยภารกิจ “เอาพี่กลับบ้าน”
       
       วันนี้ (3 ต.ค.) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวมอบนโยบายข้าราชการตำรวจระดับตำแหน่งผู้บังคับการขึ้นไป 347 นาย ว่า จากนโยบายของรัฐบาลนั้น นอกจากการเป็นนายตำรวจที่เก่ง มีวิสัยทัศน์ อยากจะขอฝากให้นายตำรวจปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย 1.การแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล และถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ที่อนาคตจะมีการพัฒนาเป็นวาระแห่งภูมิภาคต่อไป 2.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง 3.การเร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยกลับมาสู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยน้อมนำกระแสพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักการปฏิบัติ 4.ให้ตำรวจเข้าไปช่วยกันดูแล และปราบปรามการทุจริตโครงการจำนำข้าวอย่างจริงจัง นอกจากนี้ อยากจะให้ตำรวจสานงานนโยบายระยะยาว อย่างนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐ การเทิดทูนและพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ สำหรับวิสัยทัศน์ของตำรวจนั้น ต้องมีการประเมินจากสถานการณ์ภายนอก ว่า มีอะไรบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงาน อย่างนโยบายของรัฐบาล หรือสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำมาประกอบการกำหนดวิสัยทัศน์การทำงาน ไม่ใช่กำหนดวิสัยทัศน์จากในองค์กรเท่านั้น
       
       “ส่วนตัวผมมองว่าตำรวจเป็นคนเก่ง ฉะนั้น ผมมีความคิดจะเสนอให้เอาตำรวจไปเป็นทูต เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีปัญหายาเสพติด หลังจากผลักดันให้มีทูตตำรวจสำเร็จแล้ว แต่ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการสร้างรัฐตำรวจ แต่เพราะผมอยากใช้งานคนเก่งเท่านั้นเอง โดยการเป็นตำรวจที่ดี ต้องรู้รักษาหน้าที่ ทันคน ทันงาน ทันเหตุการณ์ ทันเกม ทั้งนี้ จากการทำงานกับ พล.ต.อ.อดุลย์ สมัยเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส.ทำให้เชื่อมั่นว่า เป็นยุคที่ตำรวจจะพัฒนา มีผู้นำที่เก่ง และดี” รองนายกฯ กล่าว
       
       ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเน้นเป็นนโยบายสำคัญ คือ การเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 เพราะเมื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว การทำงานของตำรวจต้องเผชิญกับ 3 ปัญหาหลัก เช่น 1.เรื่องอาชญากรรรมข้ามชาติ 2.ปัญหายาเสพติด และ 3.ปัญหาด้านการก่อการร้าย เพราะเมื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ประชากร 1 ใน 10 ชาติของอาเซียนจะมาอยู่ในการดูแลทั้งหมด โดยในเร็ววันนี้ ตนจะชวน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา อดีตรอง ผบ.ตร.และนายตำรวจที่ทำคดีลูกเรือจีน 13 ศพ เดินทางไปยังประเทศจีน
       
       ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทร.หาตนให้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกตำแหน่งหนึ่ง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเสมอว่า ท่านเป็นรอง ผกก.สั่งสารวัตรได้คนเดียว โดยในเร็ววันนี้ ตนจะเชิญนายตำรวจระดับผู้กำกับการมาประชุมมอบนโยบายต่อไป
       
       “ผมเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) จะอยู่เป็นรัฐบาลยาว ฉะนั้น ตำรวจที่ไปอยู่ข้างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทำใจเถอะน้อง น้องแทงไฮโลผิด แทงผิดเจ้ามือกินรวบ ตำรวจบางคนไม่ไหวจริงๆ เกินเหตุ ผมขอให้ตำรวจเป็นกลาง แต่อยู่ข้างพรรค พท.โดยมีภารกิจ คือ เอาพี่กลับบ้าน ใครเห็นด้วยปรบมือขึ้น” รองนายกฯ กล่าวพร้อมเสียงปรบมือดังลั่นห้องประชุม
       
       ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอให้ตำรวจทำงานเต็มที่ โดยขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รักในหลวง ขณะเดียวกัน มองเรื่องตลกที่มีกลุ่มบุคคลพยายามเอาผิดกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะผิดต่อหน้าที่ ตรงนี้ขอเรียนว่า ต้องมีหน้าที่ แต่ ผบช.น.ไม่มีหน้าที่ในต่างประเทศ ซึ่งวันที่ 4 ต.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปฮ่องกง เพื่อไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ หากสื่อวิจารณ์ ตนจะบอกว่า ไปจริง แต่ไม่ได้เจอกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้พบ


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เหลิม ย้ำ ตร.เป็นกลาง อยู่ข้าง พท. ลุยภารกิจ เอาพี่กลับบ้าน

view