สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กฐินรุมถล่ม มาร์ค ดิสเครดิตก่อนซักฟอก

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

ศึกซักฟอกงวดเข้ามาเรื่อยๆ “ฝ่ายค้าน” เคาะวันยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นวันที่ 9 พ.ย. เลื่อนจากกำหนดการเดิมหนึ่งสัปดาห์ หลังรัฐบาลงัดกลยุทธ์ปรับ ครม.ปู 3 อีกกว่า 10 ตำแหน่งดักหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

กรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจเบื้องต้น วางไว้โค้งสุดท้ายปิดสมัยประชุม 2528 พ.ย. ส่วนเรื่องจำนวนวันที่แน่นอนจะ 2 หรือ 3 วันนั้น ยังอยู่ระหว่างการเจรจาตกลงระหว่างวิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขเรื่องภารกิจนายกรัฐมนตรีที่มีคิวแน่นทั้งเดือน พ.ย.

ระหว่างที่ฝ่ายค้านซุ่มเงียบตระเตรียมข้อมูลขึ้นถล่มนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลางสภา ด้วยการวางยุทธศาสตร์พุ่งเป้าเจาะจงไปที่นายกฯ แบบตัดตอนไม่ให้มีตัวช่วยมาคอยชี้แจงแทน อย่างที่เคยใช้ในสภามาตลอดปีกว่าที่ผ่านมา

ประเดิมศึกซักฟอกรอบนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ฝีมือนายกฯ มือใหม่ ที่ถูกจับจ้องว่าจะสามารถผ่านสังเวียนโหดรอบนี้ไปได้หรือไม่ เมื่อแต่ละแผลที่ปรากฏออกมาล้วนแต่ฉกาจฉกรรจ์ ทั้งในแง่ “ประสิทธิภาพ” และ “ความโปร่งใส

รู้ทั้งรู้แต่ทาง “เพื่อไทย” ไม่สามารถทำอะไรได้มานอกจากตระเตรียมข้อมูลชี้แจงในแต่ละประเด็น ที่คาดว่าฝ่ายค้านจะหยิบขึ้นมาอภิปราย

ดังจะเห็นจากเมื่อครั้งประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาเก็งข้อสอบล่วงหน้าดักทางฝ่ายค้านใน 3 เรื่องใหญ่ “ชายชุดดำ-จำนำข้าวไซฟอนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท” พร้อมสั่งพร้อมระดมเก็บข้อมูลตอบโต้

อีกด้านหนึ่ง “เพื่อไทย” เปิดเกมโต้กลับ “ประชาธิปัตย์” ชุดใหญ่ก่อนศึกซักฟอก

งัดกลยุทธ์ตาต่อตา ฟันต่อฟัน พุ่งเป้าดิสเครดิตไปที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พ่วงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ที่จะนำทัพคุมศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แถมยังจะเป็นคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในแนบท้ายญัตติเสนอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแทนนายกฯ ยิ่งลักษณ์

แม้ที่ผ่านมาจะเห็นการไล่บี้ “อภิสิทธิ์” ในหลายเรื่อง ในหลายจังหวะ หลายโอกาส แต่ยิ่งเข้าใกล้การอภิปรายไม่ไว้วางใจมากขึ้นเท่าไหร่ กระบวนการดิสเครดิต “อภิสิทธิ์” ดูจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

เริ่มจากแผลเก่าอย่างประเด็นหนีทหาร ที่ถูกขยายแผลเป็นการ “ถอดยศ” และริบเงินเดือนคืน

 

ทั้งที่ประเด็นนี้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงมานานนับสิบปีถูกหยิบยกขึ้นมา ถล่มเป็นครั้งคราว แต่ล่าสุดหลังถูกปัดฝุ่นรอบนี้ กระบวนการต่างๆ ดูจะขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่ออกตัวว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเกมการเมือง ไม่ได้กลั่นแกล้ง พร้อมโยนเรื่องการดำเนินการจะช้าหรือเร็วอยู่ที่คณะกรรมการจะพิจารณา แต่คาดการณ์ว่าเรื่องนี้น่าจะรู้ผลก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือน พ.ย.

“ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่น่ายุ่งยาก ถ้าเป็นนาย ก. คงเรียบร้อยไปแล้ว แต่นี่เป็นนาย อ. เลยนานหน่อย เราพยายามทำให้รอบคอบ และเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ” บิ๊กโอ๋ ระบุ

ยังไม่หมดแค่นั้น สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ซึ่งสร้างผลงานเข้าตา “คนแดนไกล” จนได้เก้าอี้รองนายกฯ มาอีกหนึ่งในตำแหน่ง ครม.ปู 3 เวลานี้ออกโรงเร่งผลักดันเรื่องสลายการชุมนุมเมื่อ เม.ย.-พ.ค. 2553 เข้าไปสู่การพิจารณาของศาลโลก

เป้าหมายที่ออกมาขยับในช่วงนี้ไม่อาจมองเป็นอื่นได้นอกจากเพิ่มน้ำหนัก การดิสเครดิตทั้ง อภิสิทธิ์ พ่วง สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในขณะนั้น ด้วยการจุดกระแสเรื่องนี้ให้ไปสู่เวทีโลก ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันมายังประชาธิปัตย์

หลังจากก่อนหน้านี้ทางแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเคยพยายามจุดประเด็นนี้มาต่อ เนื่อง แต่ถูกประชาธิปัตย์ย้อนกลับด้วยการยื่นเรื่อง “ฆ่าตัดตอน” จากนโยบายปราบยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ส่งผลให้ความพยายามดันเรื่องนี้ไปสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เงียบไป ก่อนที่ นพ.เหวง โตจิราการ และ จารุพรรณ กุลดิลก ออกมาเรียกร้องให้สุรพงษ์ลงนามรับรองเขตอำนาจศาลฯ เฉพาะเหตุการณ์สลายการชุมนุม 2555 เพื่อเปิดประตูให้เกิดการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นในคดีนี้ ในจังหวะที่ เอเมอริค โรจิเออร์ หัวหน้าสำนักงานวิเคราะห์สถานการณ์ และฟาทู เบนซูดา อัยการไอซีซี ซึ่งเดินทางมาเมืองไทย

ปรากฏว่า รมว.ต่างประเทศ กระโดดรับลูกอย่างรวดเร็ว ส่งสัญญาณว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และไม่ได้เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่ขอเวลาศึกษารายละเอียด และนัดแถลงความชัดเจนในวันที่ 5 พ.ย.

หนำซ้ำยังสอดรับกับกระบวนการในประเทศไทย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ส่งสัญญาณคล้ายรับลูกจากฝ่ายการเมือง เร่งเดินหน้าเอาผิด “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ในประเด็นนี้

อีกด้านหนึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ว่ากันว่าจะเป็นหมัดเด็ดของฝ่าย ค้านนั้น กำลังถูกเกมบีบจากรัฐบาลจนตัวลีบเนื่องจากเดือน พ.ย.นี้ คิวนายกฯ ที่จะเป็นเป้าหลักถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นเอี้ยดด้วยภารกิจเดินทางต่าง ประเทศ

เริ่มตั้งแต่วันที่ 5-6 พ.ย. เดินทางไปร่วมประชุมอาเซม ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากนั้นวันที่ 7-8 พ.ย. เตรียมเดินทางไปเมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมงานเวทีประชาธิปไตย วันที่ 12-14 พ.ย. เดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ จากนั้นวันที่ 19-21 พ.ย. เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา

กรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงถูกบีบให้อยู่ใน 4 วันสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม 28 พ.ย. แถมยังอาจต้องไปเบียดกับการอภิปรายโดยไม่ลงมติของ สว.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 จนต้องหดเวลาลง ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับเนื้อหาสาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ปกติใช้กัน 3 วัน ที่ระยะหลังจำเป็นจะต้องทดเวลาเผื่อการประท้วง

ดังนั้น นับจากนี้ต่อไปก่อนจะถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจคงจะได้เห็นมาตรการดิสเครดิตอภิสิทธิ์ต่อเนื่องเพื่อทอนกำลังของฝ่ายค้าน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : กฐิน รุมถล่ม มาร์ค ดิสเครดิต ซักฟอก

view